ผบช.สตม. ลงพื้นที่สนามบิน เร่งแก้ปัญหาแถวยาวหน้าด่าน
วันที่17ส.ค.62 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอยู่ในประเทศไทย
กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ อันจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ประท้วงในสนามบินฮ่องกง ในวันที่ 12 ส.ค.62 จนมีการยกเลิกเที่ยวบิน ก่อให้เกิดปัญหาผู้โดยสารตกค้าง ณ ท่าอากาศยานในประเทศไทยจำนวนมาก และปัญหาผู้โดยสารแถวยาวที่ช่องตรวจ ได้ถูกนำเสนอผ่านทางสื่อโซเชียลเมื่อเร็วๆ นี้นั้น
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและมีนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อให้มีการใช้จ่ายในระบบ กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าวและถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข โดยวันนี้ ได้ไปตรวจการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
กำชับให้ความสำคัญเรื่องภาพลักษณ์การอำนวยความสะดวกการตรวจหนังสือเดินทาง โดยไม่กระทบต่อหลักความมั่นคง
เน้นย้ำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานอื่นๆทั่วประเทศ ปฏิบัติตามแผนรองรับสถานการณ์ผู้โดยสารในช่วงเที่ยวบินหนาแน่น และเที่ยวบินล่าช้า
และยังสั่งการให้ใช้กำลังพลที่มีอยู่อย่างเต็มอัตรา เพิ่มเจ้าหน้าที่มาเสริมเวรนอกเวลาเพื่อให้เต็มทุกช่องตรวจ จัดเจ้าหน้าที่เกลี่ยผู้โดยสารไปโซนที่มีปริมาณน้อยกว่า
จัดช่องทางสำหรับกลุ่ม priority เช่น คนพิการ เด็กเล็ก หญิงมีครรภ์ คนชรา เพื่อไม่ให้แถวยาวสะสม
ส่วนคนไทย สามารถใช้ช่องตรวจอัตโนมัติ (Automatic Channel) ใช้เวลาเพียง 20 วินาทีได้เลย โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
อีกทั้งการนำระบบ Biometrics มาใช้ก็ช่วยเพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำในการตรวจผู้โดยสารได้มากขึ้น
“รวมถึงการเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินอื่นๆที่อาจเกิดขึ้น เช่น การรองรับเหตุการณ์ระงับเที่ยวบินชั่วคราวจากสภาพอากาศ และกำหนดให้มีการประเมินผลหลังจากเกิดเหตุ เพื่อนำข้อบกพร่องมาปรับปรุง และพัฒนาไปสู่การปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
พล.ต.ท.สมพงษ์กล่าวต่อว่า สตม. ได้รับกำลังพลจากข้าราชการตำรวจและบุคคลภายนอก มาปฏิบัติงานเพิ่มที่สนามบิน หลังจากได้รับการอนุมัติกรอบอัตรากำลังเพิ่ม
ขณะนี้ สตม.มีกำลังพลเพิ่มขึ้นกว่าช่องตรวจ 30% จะทำให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ได้สั่งการให้ตำรวจระดับผู้บังคับการ รองผู้บังคับการ ลงไปควบคุมดูแลการปฏิบัติและแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นโดยใกล้ชิด
นอกจากนั้นจะมีการประชุมหัวหน้าหน่วยระดับสารวัตรขึ้นไปที่รับผิดชอบดูแลการปฏิบัติงานในสนามบินทั่วประเทศ เพื่อนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาและการปฏิบัติร่วมกัน ในวันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2562 ณ สตม.(สวนพลู) ต่อไป