สวัสดีปีใหม่
จู้กหู้กกู้ กราบสวัสดี ขอให้มีความสุขมากๆ ปีใหม่ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ สิ่งที่ร้ายๆขอให้หายไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประเดิมวันแรกของศักราชใหม่ ด้วยการเสียสถิติ “ไม่แพ้ในเกมบิ๊กแมตช์”
แถมสกอร์ยังออกมาบังเอิญ !!! เมื่อ อาร์เซน่อล เปิดบ้านอัดไป 2-0 ล้อกับตัวเลขปี 2020 พอดี 555+
จะเรียกเกมบิ๊กแมตช์ได้ไหม ?
เมื่อทีมปืนใหญ่กลายสภาพเป็นทีมกลางตาราง เมื่อรั้งอันดับที่ 12 ในวันสิ้นปี 2019 โดยตามหลังพื้นที่ไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 11 คะแนน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งคว้าชัยในพรีเมียร์ลีก 2 นัดสุดท้ายของปี
ส่วน อาร์เซน่อล สะกดคำว่าชนะไม่เป็นมา 5 นัดซ้อน แพ้คาบ้านมา 4 นัดติด
และถ้าจะเอาให้สุดกว่านั้น ทีมปืนใหญ่ชนะแค่นัดเดียวจาก 15 นัดรวมทุกรายการ ก่อนเปิดบ้านรับมือทีมปีศาจแดง
ลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ “น่าจะรู้สึกว่า” ตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่เหนือกว่าทีมของ มิเคล อาร์เตต้า มากพอสมควร จึงทำให้ความมุ่งมั่นน้อยลง
แต่สำหรับเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม กลายเป็นว่า อาร์เซน่อล คือฝ่ายที่เพรสซิ่งอย่างดุดัน และขึ้นนำได้ก่อนตั้งแต่นาทีที่ 8 จากโอกาสยิงครั้งแรก
ด้วยฝีเท้าของ นิโกล่าส์ เปเป้ ซึ่งได้ลงตัวจริงเป็นนัดแรกในยุค มิเคล อาร์เตต้า
หลังจากเสียประตูนำไปก่อน กลายเป็นว่า อาร์เซน่อล ยังคงรักษาความคึกคัก และบุกกดดันใส่อย่างต่อเนื่อง
ส่วน แมนยู ยังเล่นกันอย่างเอื่อยเฉื่อย แถมเคลื่อนที่ไล่บอลกันน้อย
สุดท้าย อาร์เซน่อล ก็มาบวกสกอร์เป็น 2-0 ได้ก่อนหมดครึ่งแรกเพียง 3 นาที !!!
ในครึ่งหลัง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ดูเหมือนจะรู้ตัวว่าตัดสินใจจัดทีมผิดพลาด ที่ส่ง เจสซี่ ลินการ์ด ออกสตาร์ทแทนนักเตะที่ฟอร์มช่วงหลังกำลังมาดีๆ อย่าง อันเดรียส เปเรยร่า
ยังไม่ทันครบหนึ่งชั่วโมงของเกม โซลชาร์ ยอมถอด ลินการ์ด ออกมาพร้อมกับ แดเนียล เจมส์ ที่เล่นไม่ออก
หลังการพ่ายแพ้ต้อนรับปีใหม่ 2020
โอเล่ คนคลูๆ ได้กล่าว …
“เราแพ้เพียงแค่ 1 นัด ต่อเดือนเองนะ มันไม่แย่สำหรับทีมที่กำลังเรียนรู้และพัฒนา”
24 ส.ค. 2019 แพ้ พาเลซ
22 ก.ย. 2019 แพ้ เวสต์แฮม
6 ต.ค. 2019 แพ้ นิวคาสเซิ่ล
2 พ.ย. 2019 แพ้ บอร์นมัธ
22 ธ.ค. 2019 แพ้ วัตฟอร์ด
2 ม.ค. 2020 แพ้ อาร์เซน่อล
พี่ก็ใช้โควต้ามันซะตั้งแต่วันแรกของเดือน 555+