Saturday, November 23, 2024
More
    Homeตำนานมือปราบพระกาฬ ชลอ เกิดเทศ42.นายอำเภอชัยบาดาลโจทก์เก่า  

    42.นายอำเภอชัยบาดาลโจทก์เก่า  

    ตำนานมือปราบพระกาฬ ชลอ เกิดเทศ โดย กิตติพงศ์ นโรปการณ์
     

     อีกด้านหนึ่งที่อำเภอชัยบาดาล การทำงานของตำรวจลพบุรี ในการควานหาหลักฐานเอาผิดลูกชายไบคาน โดยเฉพาะการตรวจค้นฟาร์มไบคาน อาณาจักรเสี่ยหยอง มีความคืบหน้าไปตามลำดับ

    เมื่อกำลังตำรวจ สถานีตำรวจภูธรอำเภอชัยบาดาล นำโดยพันตำรวจโทชูชาติ สุขประเสริฐ สารวัตรป้องกันปราบปราม รับมอบหมายจากหัวหน้าสถานี พันตำรวจตรีสำเริง มุยคำ 

    ประสานกับนายชวลิต วิบูลย์ประพันธ์ นายอำเภอชัยบาดาล ขอรถตักขนาดใหญ่ มาขุดดินบริเวณพื้นที่ต้องสงสัยที่คิดว่าจะมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดถูกฝังซ่อนสายตากฏหมาย และคนภายนอก

    เพราะก่อนหน้านี้ พันตำรวจโทชูชาติได้รับการบอกเล่าจากนายอ่ำ  อดีตคนงานในฟาร์มไบคาน อายุอานามเฉียดห้าสิบ หย่อนไม่กี่ปีว่า เคยเห็นสมุนของเจ้าพ่อชัยบาดาล ขับรถบรรทุกน้ำมันเข้ามาจอด ก่อนช่วยกันแยกชิ้นส่วน อาทิ ถังน้ำมัน และอะไหล่ต่างๆแยกย้ายกันฝัง ในพื้นที่อันกว้างใหญ่สุดหูสุดตาแห่งนี้

    ถึงแม้จะมีอุปสรรคในช่วงแรก เพราะนายชวลิตตอบกลับมา ไม่มีรถตักขนาดใหญ่ แต่รับปากจะดำเนินการจัดหารถตักขนาดใหญ่มาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

    เพราะส่วนตัวนายชวลิต นายอำเภอใจเพชรคนนี้ สมัยรับราชการเป็นนายอำเภอ อยู่ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อ 2-3 ปีก่อน ก็เคยประลองกำลังกับเสี่ยหยองมายกหนึ่งแล้ว

    ครั้งนั้น เสี่ยหยอง พยายามอย่างมาก ทำทุกวิถีทางที่จะให้นายชวลิต เซ็นอนุมัติให้เสี่ยหยองเปิดศูนย์การค้าที่สร้างผิดระเบียบสุขาภิบาล แบบเอาง่ายเข้าว่าเพื่อลดต้นทุน

    แต่เมื่อถูกนายชวลิตปฏิเสธ ทำให้โครงการของมาเฟียน้อยต้องหยุดชะงัก เสียหายไปหลายล้านบาท

    เหมือนฟ้าจะลิขิต หรือจะเป็นความโชคร้ายของเสี่ยหยอง เพราะกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้นายชวลิต ย้ายมาดำรงตำแหน่งเป็นนายอำเภอในแผ่นดินผืนนี้  แผ่นดินชัยบาดาล
    ปะทะกับอิทธิพลของเสี่ยหยองอีกคำรบ

    ลำพังเสี่ยหยอง มีศัตรูคู่อาฆาตแค่พันตำรวจเอกชลอ เกิดเทศ พันตำรวจตรีสำเริง มุยคำ และพันตำรวจตรีชูชาติ สุขประเสริฐ 3 สีกากีที่พยายามจะเอาเสี่ยหยองมาเข้าซังเตอยู่ทุกเช้าค่ำ ก็เหนื่อยพอแล้ว

    นายชวลิต ที่เคยเป็นอริกันเมื่อหลายปีก่อน ยังย้ายมาเป็นหมายเลข 1 ในเรื่องของการปกครอง และคอยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในการลดอิทธิพลมาเฟียน้อย ลูกชายไบคานอีก

    ไม่แปลกเลยที่เสี่ยหยองจะต้องพบกับความลำบากอย่างไม่เคยมาก่อน ถือเป็นช่วงที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตก็ว่าได้

    ในที่สุด นายชวลิต สามารถจัดหารถตักขนาดใหญ่มาได้ หลังจากใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว ประสานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี

    “พื้นที่ที่ว่า มันอยู่ทางทิศใต้ของบ้านพักเสี่ยหยอง ห่างไปประมาณ 3-4 กิโลเมตรครับนาย…”

    นายอ่ำ พยานปากเอกฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐฯ บอกกับพันตำรวจตรีชูชาติ ที่ได้รับมอบหมายในการตามหารถน้ำมันที่มีข่าวว่าถูกฝังอยู่ในไร่แห่งนี้

    ให้มันเจอจริงๆหน่อยวะ… !!!!

     

    พันตำรวจตรีชูชาติเอ่ยปากตอบ เพราะการที่จะขุดพบหลักฐานชิ้นสำคัญที่ว่า มันยากพอๆกับการงมเข็มในมหาสมุทร แต่ภายในใจสารวัตรป้องกันและปราบปรามคนนี้ ก็คาดหวังให้พบหลักฐานสำคัญชิ้นนี้จริง

    หลังจัดเตรียมทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย ขบวนรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองอำเภอชัยบาดาล รวมถึงอาสาสมัครชาวบ้านส่วนหนึ่งที่นายหล่ำ เปิดเพิก และนายเทียม สดับจิต  2 แกนนำชาวบ้านที่จัดกำลังมาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ออกแล่นตามกันไป3-4 คันรถ โดยมีรถบรรทุกรถตักขนาดใหญ่วิ่งตามหลังมาเป็นคันสุดท้าย ตามทางถนนในฟาร์มที่เป็นลูกรัง

    ท่ามกลางเมฆฝนที่ลอยต่ำครึ้มดำมาทุกขณะ ก่อนที่จะเทลงมาอย่างหนักปานฟ้ารั่ว
    ถึงธรรมชาติจะไม่เป็นใจ ฟ้าร้องคำรามครืนครั่น สลับกับฟ้าแลบแปลบปลาบ บวกกับสายฝนเม็ดใหญ่ที่กระหน่ำลงมา

    แต่ทุกคนก็มีความมุ่งมั่นที่จะค้นหาชิ้นส่วนรถบรรทุกน้ำมัน หรือสิ่งอื่นใดตามคำบอกเล่า ที่จะเป็นหลักฐานในการมัดตัวเสี่ยหยอง เจ้าของที่ดินผืนนี้

    15 นาทีต่อมา พื้นที่เป้าหมายที่นายอ่ำอ้างว่า เคยเห็นสมุนไบคานขับรถน้ำมันที่เชื่อว่าเป็นของนายคำนวณ วรปัญญา มาจอดแยกชิ้นส่วนและนำอะไหล่ฝังดินก็อยู่ตรงหน้า
    อดีตคนงานในไร่ไบคาน ชี้นิ้วไปตรงหน้า

    ขณะที่พันตำรวจตรีชูชาติมองตาม
    พื้นที่ที่ว่านั้น เป็นเนินดินขนาดใหญ่ข้างๆป่าละเมาะที่ส่วนใหญ่เป็นต้นกระถิน และหญ้าคอมมิวนิสต์ขึ้นปกคลุม

    รถแบ็กโฮ หรือรถตักขนาดใหญ่ ขณะนี้ถูกติดเครื่องลงมาจอดนิ่งอยู่กับพื้น เริ่มทำงานโดยคนควบคุมจักรกลขนาดใหญ่ บังคับปากเหล็กที่ตักขนาดใหญ่ขุดเอาดินขึ้นมาจนกลายเป็นหลุมลึก และกว้างในไม่กี่อึดใจต่อมา เนื่องจากฝนที่ตกลงมาทำให้การตักดินง่ายขึ้น
    ฝนยังคงตกหนัก ฟ้าก็เริ่มมืดลง เวลาก็เริ่มผ่านไปทุกขณะ

    หลายคนเริ่มหนาวสั่น เพราะเม็ดฝนที่ไม่มีทีท่าจะซาลง กลับหนาเม็ดอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

    พันตำรวจโทชูชาติ ที่ยืนเปียกอยู่กับนายชวลิต และชาวบ้านหลายคนเริ่มดูเวลา เพราะผ่านไปนานเกือบชั่วโมงแล้ว เขาคิดว่า ถ้าไม่เจออีกสักพักจะสั่งให้เลิก เพราะกว่าจะเดินทางกลับออกไปจากพื้นที่ เกรงว่าจะมืดเสียก่อน อีกทั้งอาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน หากมีลูกน้องเสี่ยหยอง หรือไบคาน ที่ยังจงรักภักดี ดักซุ่มทำร้ายในช่วงเวลาที่ว่า

    นายตำรวจหนุ่มกำลังคิดว่า จะให้คนงานทั้งหมดหยุดการทำงาน และกลับมาขุดใหม่ในวันรุ่งขึ้น พลันคนบังคับรถแบ็กโฮก็ส่งเสียงดังลั่น เพราะปากเหล็กที่ใช้ตักดินไปกระทบกับสิ่งที่คล้ายกับโลหะ เสียงดังแคร้ง

    “นายๆๆเจออะไรก็ไม่รู้ เหมือนเหล็กใหญ่…..”

    เท่านั้น พันตำรวจโทชูชาติ นายชวลิต และผู้ใต้บังคับบัญชาของคนทั้ง 2 ฝ่าย รวมไปถึงกลุ่มชาวบ้านอาสาสมัคร ก็กรูไปที่ปากหลุม จ้องมองไปที่สิ่งที่คนขับรถบอกว่าพบวัตถุบางอย่าง

    สายตาทุกคู่มองเห็น แต่ยังมองไม่ออกว่าวัตถุที่คนขับแบ็กโฮบอกนั้นเป็นอะไร พันตำรวจโทชูชาติ จึงตะโกนสั่งเสียงแข่งกับลมและฝน

    “ขุดเลาะไปเรื่อยๆ ดูซิจะเป็นสิ่งที่พวกเรากำลังตามหาอยู่หรือเปล่า….”

    พันตำรวจโทชูชาติสั่งการพร้อมพูดให้กำลังใจคนบังคับเครื่องจักรกลใหญ่โต ชิ้นนี้ จนในที่สุด ภาพที่ปรากฎต่อสายตาของแต่ละคนที่อยู่ในที่นั้น ค่อยเด่นชัดมาทีละนิด ทีละนิด

    ทุกคนรู้ว่า นี่คือชิ้นส่วนถังน้ำมันของรถบรรทุกน้ำมันที่หายไปเกือบ 7  ปี

    จากนั้นทั้งตำรวจ และชาวบ้านช่วยกันใช้สลิงเกี่ยวกับรถแบ็กโฮ โดยปลายสลิงอีกด้าน ผูกติดลากถังน้ำมันขนาด 12,000 ลิตร ที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ขึ้นมาตรวจสอบ  พบว่ายังมีน้ำมันโซล่าเหลืออีกจำนวนมาก คะเนด้วยสายตาแล้ว น่าจะเหลืออยู่ไม่ต่ำกว่า 5 พันลิตร

    นี่คือหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะ มัดเสี่ยหยอง มาเฟียทายาทไบคานอย่างดิ้นไม่หลุด ท่ามกลางฝนที่เริ่มจะขาดเม็ดราวกับฟ้าเป็นใจ

    สารวัตรชูชาติ รายงานทางวิทยุไปยังพันตำรวจตรีสำเริง มุยคำ ถึงข่าวดีนี้ทันที เพราะเท่ากับงานโค่นอิทธิพลมาเฟียชัยบาดาลสำเร็จลงไปส่วนหนึ่งแล้ว

    นายตำรวจหนุ่มหัวหน้าชุด ได้รับวิทยุต่อจากพนักงานวิทยุว่า พันตำรวจเอกชลอ เกิดเทศ หัวหน้าตำรวจจังหวัดลพบุรี กล่าวชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ และจะเดินทางมาตรวจของกลางชิ้นสำคัญที่สุญญหายไปกว่า 7 ปีด้วยตัวเองในวันพรุ่งนี้

    เหตุรถบรรทุกน้ำมันที่หายไปทั้งคนทั้งรถเมื่อ 7 ปีก่อน ทุกคนเชื่อว่านายสมชายหรือเสี่ยหยอง น่าจะมีส่วนรู้เห็น แต่ช่วงที่รถน้ำมันหายไปใหม่ๆ บารมีของไบคานยังทะมึนค้ำฟ้าชัยบาดาลอยู่ ทำให้ไม่มีใครกล้าไปตอแย หรือแม้จะสอบถาม

    แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน บารมีไบคานเริ่มถูกเขย่า เพราะการทำตัวเหิมเกริม ลุแก่อำนาจ หรือแม้แต่การใช้อิทธิพลของ 2 ลูกชาย น้อย หน้าด่าง และเสี่ยหยอง คือตัวแปรที่ทำให้บารมีไบคานเริ่มสั่นคลอนลงเรื่อยๆ

    นายอ่ำ พยานปากเอกของพันตำรวจโทชูชาติบอกว่า

    “ตอนเป็นคนงานอยู่ในไร่ แอบได้ยินเสี่ยหยองสั่งนายซันคาน มือปืนแขกน่าจะมาจากปากีสถาน หาวิธีไปเอารถบรรทุกของนายคำนวณมาให้ได้ จากนั้น อีก 3 วันต่อมา ผมเห็นนายซันคานขับรถน้ำมันขนาดใหญ่เข้ามาในฟาร์มกลางดึก….”

    นายคำนวณ ที่ว่า คือนายคำนวน วรปัญญา เจ้าของรถบรรทุกน้ำมันที่เคยมีเรื่องกับนายสมชายเมื่อครั้งอดีต
    พยานปากเอกเล่าให้พันตำรวจโทชูชาติฟังเหมือนกับเหตุนี้เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้

    “จากนั้น เสี่ยหยองเกณฑ์คนงานในไร่ มาช่วยกันแยกชิ้นส่วนถังน้ำมันออกจากรถ แล้วเอารถเกรดขนาดใหญ่ขุดหลุมฝังไว้ แม้กระทั่งตัวรถ เสี่ยหยองยังให้ลูกน้องแยกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย กลายเป็นเศษเหล็กในคืนเดียว เหลือเพียงเครื่องยนต์ถูกนำเอาไปใช้ในงานอื่น……”

    “จากนั้นอีกประมาณ1 ปี นายซันคานถูกฆ่าตาย คนในไร่ลือกัน ถูกนายสมชายสั่งฆ่า แต่ไม่รู้ว่า มาจากเรื่องอะไร….”

    นายอ่ำยืดอกเล่า โดยมีนายชวลิต พันตำรวจโทชูชาติ ยืนฟังอย่างตั้งใจ เพราะการพบชิ้นส่วนรถบรรทุกน้ำมันที่มาจากคำบอกเล่าของเขา มันสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชายวัยเฉียด 50 ปี นี้มาก

    นายอ่ำฝันเล็กๆว่า งานชิ้นนี้คงได้ค่าตอบแทน ไม่ว่าจะเงิน หรือเหล้าดีๆรออยู่
    —————————————————–

    บ่ายของวันที่ 21 มิถุนายน พุทธศักราช 2523
    พันตำรวจเอกชลอ เกิดเทศ ยืนคุยกับพันตำรวจตรีสำเริง มุยคำ และพันตำรวจตรีชูชาติ หลังจากตรวจพื้นที่ในบริเวณที่พบถังน้ำมันขนาดใหญ่

    เรื่องที่นายตำรวจทั้ง 3 นายพูดคุยกันนั้น เป็นเรื่องรายละเอียดในคดีต่างๆที่เกิดจากอิทธิพลไบคาน  โดยเฉพาะฝีมือนายสมชาย ที่เขาต้องเข้าไปรายงานให้พลตำรวจโทณรงค์ มหานนท์ รองอธิบดีกรมตำรวจในวันพรุ่งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตำรวจจากกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อ

    “ที่แน่ๆก็มี 5 คดีแล้วครับพี่ลอ ที่เรามีพยานหลักฐาน และเจ้าทุกข์ในการดำเนินการตามกฎหมายกับ ไอ้หยอง คดีแรกเป็นคดีฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา เป็นคดีที่เราค้นพบกระดูกในไร่  

    มีพยานยืนยันว่าไอ้หยอง สั่งเผาคนในเตาถ่าน แม้ยังไม่รู้ว่า คนตายเป็นใคร แต่พยานยืนยันหลายปากครับ….”

    หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรชัยบาดาลรายงานต่อให้กับนายตำรวจรุ่นพี่จากรั้วสามพราน ก่อนดูรายละเอียดในกระดาษที่เขาถือไว้ ก่อนกล่าวต่อ

    “คดีที่สอง เป็นคดีลักทรัพย์ของนายกิ่ง ปรีชา ที่ไอ้หยองพาพวกไปรื้อบ้านหมดทั้งหลัง คดีที่สาม คือทำร้ายร่างกายนายบุญยิ่ง โตพันธิ์

    ไอ้หยองโหดมาก เฆี่ยนนายบุญยิ่งหลังลายไม่พอ ยังให้สมุนเอาถ่านไปจากบ้านหลายกระสอบ คดีที่สี่ เป็นคดีที่เราพบปืนในไร่ของไอ้หยอง ดำเนินคดีในข้อหา มีอาวุธปืนเถื่อนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง

    ส่วนคดีสุดท้าย เป็นคดีปล้นรถน้ำมันของนายคำนวณ วรปัญญา และฆ่านายแสวง ขันธ์คู่ คนขับรถเสียชีวิต”

    “เรื่องนี้นายคำนวณจะมาให้การเพิ่มเติมครับพี่ลอ เขาติดต่อมาแล้วว่าจะมาให้การในบ่ายวันนี้ เบื้องต้นเขาเชื่อว่า ถังน้ำมันที่พบน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของรถบรรทุกน้ำมันที่ถูกปล้นไปเมื่อปี 16 เชื่อว่าถูกปล้นขณะนายแสวง ลูกน้องขับรถบรรทุกน้ำมันเต็มคัน อยู่ในเขตท้องที่ อำเภอพัฒนานิคม…..”

    พันตำรวจตรีสำเริง อ่านชอร์ตโน้ตคดีต่างๆที่เสี่ยหยองพัวพัน ให้หัวหน้าตำรวจภูธรเมืองลิงฟัง ขณะที่พันตำรวจเอกชลอ พยักหน้าตอบ

    “ไอ้มุ้ยคำ เอ็งรวบรวมรายละเอียดไว้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เข้ากรุงเทพฯไปหานายณรงค์ด้วยกัน……”

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments