ตำรวจสอบสวนกลาง จับมือ กรมสุขภาพจิต บูรณาการเชิงรุกแก้ปัญหาป้องกันฆ่าตัวตาย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 เม.ย. 65 ที่ ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต
ร่วมกันลงนามความร่วมมือเพิ่มศักยภาพทีมปฏิบัติการพิเศษป้องกันการฆ่าตัวตาย Hope Task Force เพื่อป้องกันผลกระทบปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19 และแนวโน้มการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงจนสะสมและพัฒนาเป็นปัญหาสุขภาพจิตนำไปสู่การตัดสินใจฆ่าตัวตาย
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การจัดตั้ง HOPE Task Force เป็นการรวมตัวกันของ 3 ภาคส่วนที่มีเป้าหมายเดียวกันในการรักษาชีวิตประชาชน และเป็นการนำจุดแข็งของทั้ง 3 ภาคส่วนมารวมไว้ในที่เดียวกัน
กรมสุขภาพจิตมีศักยภาพในการเยียวยารักษาปัญหาด้านสุขภาพจิตของประชาชน และบำบัดฟื้นฟูในระยะยาวเพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข
ด้านกองบังคับการปราบปรามมีศักยภาพในการสืบสวนและประสานงานในการเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วทั่วประเทศ และในด้าน Socia Infuencer มีความสามารถในการเข้าถึงสัญญาณเตือนที่ถูกส่งมาจากพี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อนำความเข้มแข็งของทั้งสามส่วนมารวมเข้าไว้ด้วยกัน การช่วยเหลือจะสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากที่การดำเนินงานของHOPE Task Force ในระยะแรก ได้พิสูจน์โมเดลความร่วมมือนี้แล้วว่าสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมหาศาล ระยะต่อจากนี้จะขยายความช่วยเหลือไปยังภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพจิตอื่น ๆ ต่อไป
แพทย์หญิงอัมพร กล่าวว่า ปัจจุบันประชากรทั่วโลกเล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพจิตและการลงทุนเพื่อป้องกันและบำบัดรักษาผู้ที่เจ็บป่วยทางจิตใจ ที่อาจนำมาสู่การฆ่าตัวตาย จนทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
จากการเก็บข้อมูลของศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายระดับชาติ พบว่าอัตราการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย ปี 2564 มี 4,810 คน คิดเป็นอัตราร้อยละ 7.35 ต่อประชากรแสนคน
จากการสรุปผลการทำงานระยะแรกของ HOPE Task Force ระหว่าง ตุลาคม 2563 – กุมภาพันธ์ 2565 พบว่า กระบวนการดำเนินงานดังกล่าวได้ช่วยเหลือชีวิตคนที่มีความเสี่ยงในการฆ่าตัวตายรวม 308 ราย
ประเด็นปัญหาที่พบในการฆ่าตัวตายได้แก่ สัมพันธภาพในครอบครัว ความรัก เศรษฐกิจการเงิน การเจ็บป่วย การพนัน การปรับตัว การรับประทานยาจิตเวชไม่ต่อเนื่อง
การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก เป็นต้น
ทั้งนี้ยังพบอีกว่าผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือมีกลุ่มผู้มีประวัติการเจ็บป่วยทางสุขภาพจิต จำนวน 66 ราย คุณค่าจากการช่วยชีวิตประชาชน ถือว่าเป็นประโยชน์ในการพัฒนาประเทศอย่างมหาศาล