ลาดตระเวนออนไลน์สืบ ภ.2 รวบเก๋ แสงรวีหลอกเงินลุงคนทำสวนจนหมดตัวว่าหาคนเป็นเจ้าสาว
วันที่ 26 สิงหาคม 2565 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา รอง ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.มาโนต หวังสู้สึก ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.2
พ.ต.ท.ประจักษ์พงษ์ สุริยา รอง ผกก.ฯ , พ.ต.ท.นรามินธร์ เทพจักรินทร์ รอง ผกก.ฯ , พ.ต.ต.เอกกร วรรณทอง สว.กก.สืบสวน 1 , ร.ต.อ.มนตรี บุญเมือง พร้อมกับพวก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปักธงชัย โดยมี พ.ต.ต.สุวิทย์ วิสาเทศ สว.สส.สภ.ปักธงชัย , ร.ต.อ.อดุลย์ ดาวไธสง กับพวก ได้ร่วมกันจับกุมตัว
น.ส.แสงรวีหรือเก๋ อายุ 39 ปี ชาวจ.ชลบุรี ตามหมายจับ ศาลจังหวัดนครราชสีมา ลง 25 ส.ค.65โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น”จับกุมได้ หน้าบ้าน ม.4 ต.ท่าข้าม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
ก่อนนี้ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวน ภ.2 ตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ตรวจสอบพบว่า วันที่ 26 ก.ค.65 นายอุ่น (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ชาว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ผู้เสียหาย ร้องเรียนผู้สื่อข่าวถูกต้มตุ๋นหลอกลวงทรัพย์
เมื่อช่วงต้นปี63 รู้จักกับ น.ส.เก๋ หรือน.ส.แสงรวี ผู้ต้องหาอาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกัน น.ส.เก๋ฯ อ้างว่า เห็น นายอุ่นฯ อยู่คนเดียว ไม่มีภรรยา กลัวจะเหงา อยากจะติดต่อหญิงสาวที่รู้จักกันให้ ชื่อ น.ส.กนกวรรณ เป็นแม่ค้าเร่ขายลอตเตอรี่
ต่อมา น.ส.เก๋ ออกอุบายหลอกว่า น.ส.กนกวรรณ ไส้ติ่งอักเสบ นอนรอผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา ละให้ น.ส.เก๋ มาขอเงิน 27,000 บาท ผู้เสียหายได้มอบเงินสดให้ไป
จากนั้นน.ส.เก๋ ยังหาอุบายหลอกว่า น.ส.กนกวรรณ ป่วยเป็นโรคต่างๆ และขอเงินนำไปรักษาตัว ผู้เสียหายหลงเชื่อให้ไปทั้งเป็นเงินสดและโอนเงินผ่านแอปพลิเคชั่น ธนาคารต่างๆ เข้าบัญชีธนาคารชื่อบัญชีว่า น.ส.แสงรวี ฉิมมา รวมกว่า 30 ครั้ง รวมลเงินทั้งหมดกว่า 3 แสนบาท และไม่เคยเพบเห็นหน้า น.ส.กนกวรรณ เลย เพียงแต่โทรศัพท์พูดคุยกันเท่านั้น
ต่อมาช่วงเดือนธ.ค 2564 เริ่มสงสัยในพฤติกรรม น.ส.เก๋ และสงสัยว่า น.ส.กนกวรรณ มีตัวตนจริงหรือไม่ ได้ไปสอบถามที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา จนทราบว่า ไม่เคยมีคนไข้ชื่อ น.ส.กนกวรรณ มารักษาตัวที่โรงพยาบาลเลย
อีกทั้งทราบข้อมูลภายหลังว่า น.ส.เก๋ แท้ที่จริงแล้วชื่อ น.ส.แสงรวี เป็นชื่อเจ้าของบัญชีที่โอนเงินไปให้ทุกครั้ง เชื่อว่าถูกหลอก แจ้งความไว้ที่ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564
หลังจากแจ้งความ น.ส.เก๋ ได้หนีออกจากหมู่บ้าน ไปอยู่กับสามีที่จ.ชลบุรี เป็นระยะเวลากว่า 7 เดือนแล้ว คดีไม่มีความคืบหน้า ต้องร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน เนื่องจากเงิน 3 แสนบาท ที่ถูกหลอกไป เป็นเงินที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตจากการทำสวนทำไร่ นอกจากนี้ ยังเอารถยนต์กระบะของตนไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือ น.ส.กนกวรรณ ที่ไม่มีตัวตนจริงอีกด้วย
ต่อมา สภ.ปักธงชัย ได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหานี้เอาไว้ กระทั่งจับกุมไว้ได้ เบื้องต้นปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ยอมรับเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน