วันที่ 3 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 15.00 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.นำกำลัง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ จงเจริญ , พ.ต.ต.สุริยะ น้อยภักดี , พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ เสวกวัง , ร.ต.อ.ปรมา ปราณี, ร.ต.ท.พุฒิพงศ์ กองแก้ว , จ.ส.ต.สรศักดิ์ ด้วงชู, ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย
ร่วมกันจับกุมMr.Sajan Dilpkumar Shah หรือ นายซาจัน ดิบคูมาร์ อายุ 32 ปี สัญชาติ อินเดีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ลงวันที่ 3 พ.ย. 65 และนายธนะสิทธิ์ อายุ 45 ปี ชาว จ.กรุงเทพฯ ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ลงวันที่ 3 พ.ย. 65
กล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกง , ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม
พร้อมตรวจยึด
1.ตั๋วรับจำนำ 10 ฉบับ
2.วัตถุคล้ายเพชรอีก 18 รายการ
3.ใบรับรองเพชร 19 ฉบับ
4.โทรศัพท์มือถือ Sumsang Galaxy S22 Ultra สีชมพู 1 เครื่อง
5.สมุดบัญชีธนาคารชื่อบัญชี Mr.Sajan Dilipkumar 1 เล่ม
6.นามบัตรของ Mr.Sajan Shah (Sajji) S.D.Diamond 4 ใบ
7.นาฬิกาข้อมือโลหะสีเงิน 1 เรือน
8.โทรศัพท์มือถือ Sumsung Galaxy F62 สีน้ำเงิน 1 เครื่อง
9.เอกสารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจเกี่ยวกับเพชร 7 ฉบับ
จับกุมMr.Sajan Dilpkumar Shah ได้ที่ ถนนในซอยอินทรพิทักษ์ 1 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร จับกุมนายธนะสิทธิ์ได้ที่ ย่าน ถ.ตากสิน บางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพ
พฤติการณ์กล่าวคือเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 65 มีผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสน.บางขุนนนท์ ว่าประมานณวันที่ 15 มิ.ย. 65 – 20 ต.ค. 65 ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวง เอาเพชรปลอมมาจำนำครั้งละ 1-2 เม็ด ตามร้านสาขาต่างๆ รวม 21 ครั้ง ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 16 ล้านบาท
ตรวจสอบพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ มีผู้ร่วมขบวนการเป็นชาวต่างชาติ และแหล่งผลิตทำเพชรปลอมนำเข้ามาจากต่างประเทศ พร้อมทำใบรับรอง หรือที่เรียกว่า “ใบเซอร์” ตบตาทางร้านได้อย่างแนบเนียน จนร้านผู้เสียหายหลงเชื่อ รับจำนำเพชรในราคาที่สูง แต่ได้ “เพชรปลอม” สูญเงินจำนวนมาก จากแผนประทุษกรรมของกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ถือว่าเป็นอันตรายต่อระบบเศรษฐกิจอย่างยิ่ง
ภายหลังผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT ชุดที่ 5 ได้วิเคราะห์แผนประทุษกรรมโดยละเอียดของกลุ่มคนร้ายจะใช้การลบแก้ไขข้อความบางส่วน ทำลายบริเวณของคำว่า “LABGROWN” คือเพชรที่ทำสังเคราะห์ขึ้นในห้องปฎิบัติการ
โดยลบให้เหลือแค่คำว่า “BGROW” ซึ่งยังมองเห็นด้วยกล่องที่ส่องกำลังขยาย และจะมีการยิงเลเซอร์ที่ขอบเพชร ให้ตรงกับหมายเลขประจำใบรับรอง หรือ “ใบเซอร์” ซึ่งทั้งตัวเพชรและใบเซอร์ต่างถูกปลอมขึ้นทั้งสิ้น
เมื่อผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบโดยละเอียด ตามขนาดของเพชรที่นำมาจำนำมีความแตกต่างของขนาดไปจากข้อมูลบนใบรับรอง , บริเวณขอบเพชรพบว่ามีการทำลายบริเวณของคำว่า “LABGROWN” ให้เหลือเพียง “BGROW” , ตำหนิภายในของเพชรที่นำมาจำนำพบว่าไม่ตรงกับข้อมูลบนใบรับรอง , ลักษณะของใบรับรองปลอมแปลงที่แตกต่างไปจากใบรับรองตัวจริงจากสถาบัน GIA
ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 ลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด จนพิสูจน์ทราบผู้ร่วมขบวนการทั้ง 2 คน ได้คือ Mr.Sajan Dilpkumar Shah หรือ นายซาจัน ดิบคูมาร์ อายุ 32 ปี สัญชาติ อินเดีย และ นายธนะสิทธิ์ อายุ 45 ปี สัญชาติไทย
ผู้ต้องหาทั้ง 2 จะเดินทางมาก่อเหตุหลอกจำนำเพชรที่ร้านรับจำนำพร้อมกันทุกครั้ง และจากข้อมูลการสืบสวนทราบว่า Mr.Sajan จะเดินทางไปมาระหว่างประเทศไทย – อินเดีย เป็นจำนวน 4 ครั้ง ในช่วงเดือน ต.ค. 65 ที่ผ่านมา เพื่อลักลอบนำเพชรปลอมเหล่านี้มาจากต่างประเทศ จนกระทั่งจับกุมทั้งคู่ได้พร้อมของกลางดังกล่าว
จากการขยายผลทราบว่า Mr.Sajan หลอกลวงลักษณะนี้มาเป็นเวลากว่า 10 ปี โดยได้ทรัพย์สินจากการหลอกลวงไปเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
ชั้นจับกุม นายธนะสิทธิ์ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ให้การว่า “ ทำร้านจิวเวอรี่ มาโดยตลอด และรับซื้อ ขาย เพ็ชร ต่อมา นายซาจัน ได้เข้ามาที่ร้าน ทำความรู้จัก แล้วเสนองานให้รับวางจำนำเพ็ชร ที่นายซาจัน เตรียมมาจากประเทศอินเดีย เป็นเพชรที่มีใบเซอร์ GIA ตรงกับเลขตัวเพชร ตามสถานที่รับจำนำต่างๆ
เริ่มต้นวางจำนำที่ โรงรับจำนำย่านบางแขก นำเพ็ชรมาจำนำที่ร้านนี้ตั้งแต่ปี 59 เรื่อยมา จนถึง ปัจจุบัน แต่ล่าสุดเริ่มวางจำนำ เดินสายโรงรับจำนำ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2565 ย่านบางใหญ่ นนทบุรี เป็นที่แรก แล้ววางจำนำเรื่อยมา ตามสาขาต่างๆ ได้แก่ แยกไฟฉาย , บรมราชชนนี”
ส่วน Mr.Sajan Dilpkumar Shah หรือ นายซาจันฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่า ทำธุรกิจค้าขายเพชรมานานกว่า 10 ปี โดยขายเพชรมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 กะรัต มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน
ช่วงแรกซื้อเพชรมาจากประเทศอินเดีย ฮ่องกง บางครั้งก็ซื้อในประเทศไทยเพื่อขายเก็งกำไร และตั้งแต่ช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2565 ถึงปัจจุบัน มาจำนำเพื่อรอขายในประเทศไทย หากเป็นเพชรเม็ดใหญ่ จะนำเพชรพร้อมใบรับรอง GIA มาให้ตนที่ประเทศไทย ครั้งละ 5 – 6 เม็ด หากเป็นเพชรเม็ดเล็ก จะจัดส่งพัสดุมาให้ตนที่ประเทศไทย
เมื่อตนตรวจดูรหัสเพชรแล้ว เห็นว่า รหัสเพชรตรงกับใบรับรอง น่าเชื่อว่าเป็นเพชรจริง จึงรับฝากขายไว้ จะแบ่งเป็นค่าจ้างให้นายธนะสิทธิ์ฯ ครั้งละประมาณ 10,000 บาท และตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ต.ค.65 ได้เงินจากการนำเพชรไปจำนำแล้วประมาณ 13 ล้านบาท
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ขอเตือนภัยไปยังพี่น้อง
ประชาชนว่า อย่ารับจ้างไปจำนำหรือทำธุรกรรมใดๆแทนคนแปลกหน้าเพื่อหวังเงินค่าดำเนินการ เพราะอาชญากรรมจะมาในรูปแบบที่ท่านไม่รู้ตัว และจะทำให้ท่านต้องถูกดำเนินคดีอย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อง่ายๆ
หากพบเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ศูนย์ PCT 081-8663000 เวลาราชการหรือสายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ www.pct.police.go.th ตลอด 24 ชม.