“ผู้ช่วย ผบ.ตร.”เร่งตรวจสอบเหตุแชร์ข้อสอบนายสิบอำนวยการภูธรภาค 5 ในสังคมออนไลน์ยังไม่ยืนว่าเป็นเหตุทุจริตสอบ แต่ยอมรับที่ภูธรภาค 9 มีผู้สมัครนำโพยคำตอบเข้าห้องสอบทุจริตจริง พร้อมตัดสิทธิ์ไปแล้ว 73 คน
เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 12 ธ.ค.65 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการทุจริตสอบคัดเลือกนายสิบตำรวจในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เมื่อเดือนมี.ค. 2565 และเจ้าหน้าที่ได้พบมีผู้เข้าสอบนำโพยคำตอบเข้าไปในห้องสอบ 1 คน ทำให้มีการสืบสวนขยายผลจนพบมีผู้ร่วมกระทำความผิดรวม 73 คน ขณะนี้ได้ตัดสิทธิ์การเข้าเป็นนายสิบตำรวจไปแล้ว ส่วนที่เหลือไม่พบความผิดก็ให้เข้ารับราชการตามปกติ
ส่วนจะมีตำรวจและ ร.ต.อ.หญิง นายหนึ่งที่พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้านบาท รวมทั้งบุคคลอื่นว่าจะเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานมาจากภูธรภาค 9 แล้ว แต่ขอตรวจสอบในรายละเอียดก่อน ภายในสัปดาห์นี้จะชี้แจงรายละเอียดได้
พล.ต.ท.นิรันดร กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนการทุจริตสอบนายสิบตำรวจฝ่ายอำนวยการ ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ที่มีการเผยแพร่คำถาม และคำตอบของข้อสอบในครั้งนี้ที่มีผู้เข้าสอบกว่า 2 แสนคน ขณะนี้สอบผ่านการคัดเลือกไปแล้ว 1,160 คน อยู่ระหว่างการรอสอบสัมภาษณ์ และตรวจร่างกายที่จะรับเหลือ 725 คน
ส่วนกรณีที่พบว่ามีชื่อและนามสกุลของผู้เข้าสอบซ้ำกัน 2 คน ตรวจสอบพบว่าเลขประจำตัวประชาชนของทั้งสองคนไม่ตรงกัน แต่ชื่อนามสกุลเดียวกัน สามารถเข้าสอบได้ ยืนยันว่าหากเลขประจำตัวประชาชนตรงกัน จะไม่สามารถลงสมัครในเว็บไซต์ได้
พล.ต.ท.นิรันดร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่ยืนยันว่าเป็นการทุจริตสอบ เบื้องต้นคำถามและคำตอบที่นำมาเผยแพร่ตรงกับข้อสอบจริง แต่คาดว่าเป็นการจำคำถามมาแล้วพิมพ์ใหม่ ต้องนำไปตรวจสอบความชัดเจนทั้งหมดว่ามีการทุจริตหรือไม่ ส่วนแผนประทุษกรรมจะเหมือนหรือเชื่อมโยงกับการทุจริตสอบในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวยืนยันว่ากระบวนการออกข้อสอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความรัดกุมอย่างมาก ตั้งแต่การเรียกให้คณะกรรมการออกข้อสอบมาเก็บตัว โดยที่ไม่ให้ใช้เครื่องมือสื่อสาร และให้ออกข้อสอบคนละอย่างน้อย 10 ข้อ และจะมีคณะกรรมการเลือกข้อสอบไปแบ่งออกเป็น 4 ชุด จากนั้นจะส่งเข้าโรงพิมพ์ มีคณะกรรมการจัดส่งข้อสอบไปยังสนามสอบ และมีคณะกรรมการกลางดูแลการจัดส่งไปแต่ละสนามสอบอีก โดยจะต้องตรวจสอบการบรรจุข้อสอบก่อนเปิดใช้ทุกครั้ง ขั้นตอนดังกล่าว ถือว่ามีคณะกรรมการหลายฝ่ายและหลายชุด ทำให้ยากต่อการทุจริต
“ส่วนผู้เข้าสอบก็จะต้องแต่งกายชุดกีฬาเข้าสอบ ห้ามนำเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเข้าห้องสอบ ส่วนที่มีการทุจริตนั้น ยอมรับว่าอาจจะมีช่องโหว่บางส่วนที่ทำให้มีการลักลอบนำกระดาษคำตอบเข้าไป เนื่องจากมีผู้เข้าสอบจำนวนมาก คณะกรรมการ จะนำไปพิจารณาแก้ไขในอนาคต รวมทั้งจะดำเนินการกับตำรวจที่เข้าไปร่วมทุจริตทั้งทางวินัยและอาญาด้วย” พล.ต.ท.นิรันดร กล่าว