จะเรียกว่าเป็นปีทองของ ไรอัน เรย์โนลด์ส และ เบลค ไลฟ์ลี่ สามี-ภรรยาดาราดังแห่งวงการฮอลลีวูด ก็ว่าได้
ฝ่ายสามีเพิ่งส่งซุปเปอร์ฮีโร่คู่ “เดดพูล & วูล์ฟเวอรีน” (Deadpool & Wolverine) ออกมาเขย่าโลกกวาดรายได้งามในช่วงที่ใครต่อใครมองว่าเป็นขาลงของ “จักรวาลมาร์เวล”
ตอนนี้ภรรยาสาวสวยก็มีภาพยนตร์ดราม่า–โรแมนติก เรื่อง It Ends with Us ออกมาและกำลังเดินหน้าโกยรายได้จนได้กำไรไปแล้ว เปิดตัวสุดไฉไลทำรายได้จากทั่วโลก 80 ล้านดอลลาร์ฯ จากทุนสร้าง 25 ดอลลาร์เท่านั้น และตัวเลขรายได้จะไม่หยุดอยู่แค่นี้
It Ends with Us หรือ “ร่องรอยแห่งรักเรา” เป็นงานกำกับของ จัสติน บัลโดนี่ นักแสดงชาวอเมริกัน ซึ่งยังสวมหมวกอีกคือตัวละครหลักของเรื่องในบท ไรล์ คินเคด ศัลยแพทย์หนุ่มหล่อทรงเสน่ห์ คุณสมบัติเพียบพร้อม โดยบทภาพยนตร์ It Ends with Us ดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดีของ คอลลีน ฮูเวอร์
หากบอกว่า เบลค ไลฟ์ลี่ คือจุดศูนย์กลางของเรื่องก็ไม่ผิดนัก ถ้าเปรียบว่า It Ends with Us คือการเดินทางของคน ๆ หนึ่ง ลิลลี่ บลูม ที่รับบท เบลค ไลฟ์ลี่ ก็เปรียบเสมือนสารถีที่ขับรถพาผู้ชมไปสำรวจแง่มุมของชีวิตของเธอตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงสู่วัยผู้ใหญ่
บอกตรง ๆ ว่าหากใครคิดว่าบทประพันธ์เรื่องนี้นำเสนอแค่รักหวานโรแมนติกในช่วงวัยต่าง ๆ ของ ลิลลี่ก็ขอบอกไว้เลยว่า It Ends with Us มีดีกว่านั้น
โดยเฉพาะการใส่แง่มุมความสัมพันธ์ในครอบครัวที่มีเรื่องของ “ความรุนแรงในครอบครัว” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=STsgPH9_zN0
ความชาญฉลาดของบทภาพยนตร์ก็คือการวางเบาะแสให้ผู้ชมคอยติดตามว่า เกิดอะไรขึ้นในชีวิตของ ลิลลี่ ตั้งแต่เธอยังเป็นนักเรียนมัธยม
ทั้งๆ ที่ฐานะทางครอบครัวก็ดี บิดามารดาเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม จนกระทั่งโตขึ้นและย้ายออกจากบ้านไปอยู่อย่างอิสระ แล้วก็กลับมาบ้านหลังจากบิดาล่วงลับไปโดยที่เธอไม่ได้กลับมาดูใจ
ภาพยนตร์ได้สลับฉากอดีตกับปัจจุบันไปมาทำให้ผู้ชมล่วงรู้ว่า หญิงสาวเผชิญกับความรุนแรงในบ้าน เห็นผู้เป็นพ่อตบตีแม่บ่อยครั้ง จนกลายเป็นบาดแผลในใจที่ไม่มียาอะไรรักษาให้หายขาด
แต่แล้ว ลิลลี่ ในวัยรุ่นก็พบยาวิเศษที่นั่นคือ “ความรักอันบริสุทธิ์” ที่ได้จาก แอตลาส คอร์ริแกน เด็กหนุ่มที่ระหกระเหินจากบ้านมาอาศัยอยู่ในบ้านร้างฝั่งตรงข้าม
ชีวิตของเขาก็ไม่ต่างกับ ลิลลี่ นักตรงที่เผชิญกับความรุนแรงในครอบครัวเช่นกัน ทว่ารักแรกก็ไม่มีทางได้ไปต่อ พวกเขาต้องแยกจากด้วยสาเหตุสุดขมขื่น ทิ้งเหลือเพียงร่องรอยบางอย่างที่เตือนใจให้นึกถึงความรักที่เคยมีให้กัน
แน่นอนว่าการเติบโตและเข้าสู่สนามชีวิตของการเป็นผู้ใหญ่ ก็ทำให้ ลิลลี่ มีโอกาสได้เจอผู้คนมากมาย และก็พบกับ ไรล์ หมอหล่อที่ตกหลุมรักฝ่ายหญิงเข้าอย่างจัง เขาตามเฝ้าหยอดขนมจีบอย่างไม่ลดละ จนหญิงสาวใจอ่อนรับรัก และมั่นใจว่าเธอได้เจอ “รักแท้” อีกครั้ง
เมื่อรักสุกงอมทั้งคู่ก็ตกลงปลงใจเข้าสู่ประตูวิวาห์ ทว่าชีวิตคู่หลังแต่งงาน ลิลลี่ ก็พบว่า ไรล์ มีบางอย่างที่ทำให้เธอหวั่นใจว่าชะตากรรมของเธออาจจะซ้ำรอยกับมารดา
แม้เขาจะแสนดีและรักเธออย่างเหลือล้น เพราะตัวของชายหนุ่มเองไม่เคยเปิดใจรักใครมาก่อนในชีวิต
ในช่วงเวลาที่ผู้ชมเริ่มจะเป็นกังวลกับชีวิตของนางเอกสาวว่าเธอจะเจออะไรที่หนักหนาสาหัส หนังก็ให้เวลาของ แอตลาส รับบทโดย แบรนดอน สเกล็นนาร์ เข้ามาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
เขาเปรียบเสมือนแสงสว่างที่ทางออกเป็นที่พึ่งพิงอันปลอดภัยของทั้ง ลิลลี่ และถ้าบอกว่าหนุ่มคนนี้ทำให้ผู้ชมชุ่มชื่นใจและปลอดภัยไปด้วย ก็คงไม่เกินเลยไปนัก ซึ่งไม่ต้องเดาก็รู้ว่าหนุ่มผู้แสนดีคนนี้ทำให้ ไรล์ หึงหวง ลิลลี่ เป็นบ้าเป็นหลัง
It Ends with Us ไม่ได้มอบบท “ผู้ร้ายแบบหมดจด” ให้กับ ไรล์ หรือแม้แต่กับบิดาผู้วายชนม์ของ ลิลลี่
หนังยังให้มุมในแง่ที่ว่า “ความรุนแรง”บางครั้งก็ปรากฏออกมาอย่างไม่อาจควบคุม และนั่นคือปัญหาที่ทุกคนต้องยอมรับและหาทางออก ส่วนจะอยู่ร่วมต่อไปได้ หรือแยกทางแบบเข้าอกเข้าใจกัน ก็เป็นอีกเรื่อง
ใน It Ends with Us ได้ให้บทสรุปที่เด็ดเดี่ยว และทำให้ผู้ชมโล่งใจว่าตัวละครเลือกที่จะวางชีวิตอย่างถูกที่ถูกทาง และไม่ได้ปิดโอกาส “ความรัก” เมื่อใครสักคนจะได้พบกับรักแท้และยังเป็นรักเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง!
Blue Bird17/8/67