คอลัมน์ อาชญา (ลง) กลอน
โดย…ธนก บังผล
บันทึกไว้ว่าช่วงปลายปี 2560 หนาวมหาโหดจริงๆครับ เป็นบรรยากาศที่คนกรุงเทพไม่ค่อยได้พบเจอบ่อยเท่าไร และคาดกันว่าเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กับความหนาวอย่างนี้ สถานที่ท่องเที่ยวคงมีเงินสะพัดกันน่าดู
ตอนเด็กๆ แต่ละปีกว่าจะผ่านไปทำไม ช่างนานเหลือเกิน พอโตมาอายุมากขึ้น เผลอแป๊บเดียวจะพ้นปีอีกแล้ว หลายท่านคงมีปีที่สุขสันต์ และแน่นอนครับ อีกหลายคนปีนี้สุดยอดระกำช้ำระทม
ผมมานั่งนึกๆดู คดีอาชญากรรมปีนี้โหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนาอยู่หลายคดี ไม่ว่าจะเป็น “อีเปรี้ยวฆ่าหั่นศพ” หรือ “ผกก.สั่งอุ้มทอมฆ่าฝังดิน”
สำหรับผมแล้ว ผมมีคดีในดวงใจ 3 คดีครับ ลองมาดูกันว่าตรงกับใจคุณผู้อ่านหรือไม่
คดีแรก มหากาพย์จากแพะแปลงร่างเป็นแกะ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ที่ถูกตัดสินจำคุกในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิตเป็นเวลา 3 ปี 2 เดือน ตั้งแต่ปี 2556 และได้รับอภัยโทษออกจากคุกมาเมื่อปี 2558 ซึ่งรวมแล้วติดคุกเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน
นางจอมทรัพย์ กลับมาร้องเรียนกระทรวงยุติธรรมให้รื้อคดี โดยอ้างว่าเธอเป็นแพะ เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุนั้นเธออยู่อีกที่หนึ่ง คดีนี้สั่นสะเทือนกระบวนการยุติธรรมทั้งขบวน มีการจ้างวานให้มีผู้ยอมรับผิดแทน เพื่อต้องการเงินชดเชย แรกทีเดียวนั้นตำรวจโดนด่าเละครับ เพราะแต่ไหนแต่ไรมาสังคมไทยวนเวียนอยู่กับปลาเน่าตัวเดียวมาโดยตลอด
กระทั่งล่าสุด มีการขุดผู้ร่วมขบวนการ 11 คน และเจ้าหน้าที่ภาครัฐอีก 14 คน ขึ้นมาฟ้องกันอุตลุด เสียหายไปตั้งแต่ระดับบิ๊กกระทรวงยุติธรรม ไปจนถึง ดีเอสไอ
จะไปด่าว่าทางกระทรวงยุติธรรมก็ไม่ได้นะครับ เจ้ากระทรวงในขณะนั้นก็รับลูกเป็นอย่างดี แล้วใครจะไปคิดว่าคนเป็นครู ที่สอนเด็กให้เป็นคนดีของสังคม จะออกมาป่าวประกาศไปตามที่ต่างๆว่าตัวเองเป็นแพะรับบาป ความจริงจะเป็นอย่างไรยังคงเป็นมหากาพย์ครับ เนื่องจากนางจอมทรัพย์ให้การปฏิเสธ
แต่ดูตามหลักฐานแล้วรอดยาก งานนี้ไม่เฉพาะตำรวจที่ต้องดูเป็นคดีตัวอย่าง กระทรวงยุติธรร และดีเอสไอ ก็ต้องเอามาเป็นบทเรียน อย่าให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก
คดีที่ 2 “ฆ่าล้างครัวผู้ใหญ่บ้าน จ.กระบี่” กลางปีนี้มีคดีอุกฉกรรจ์จนถึงกับทำให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องบินด่วนลงไปกำกับการสืบสวนสอบสวนด้วยตัวเอง ภายหลังมีเหตุ กลุ่มคนร้ายเป็นชายประมาณ 6-7 คน แต่งกายชุดลายพรางคล้ายทหาร พร้อมอาวุธและใช้รถ 2 คัน บุกเข้าไปในบ้านผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ใน จ.กระบี่ ก่อนจะทำการยิงเพื่อสังหารยกครัว แต่โชคดีที่มีผู้รอดชีวิตอย่างหวุดหวิด
ผมยกให้เป็นคดีอันดับ 2 ของปีในใจผม เพราะนอกจากจะเลือดเย็น อำมหิต พร้อมจะฆ่าเด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แบบล้างครัวแล้ว คดีนี้ตำรวจสามารถปิดได้อย่างรวดเร็วภายใน 6 วันเท่านั้น
ไหนจะแรงกดดันจากสังคม ไหนจะรวมรวบหลักฐาน ผมยกให้ความประทับใจในการทำคดีนี้ของตำรวจเป็นสุดยอดอันดับ2 ของปีเลยครับ
คดีสุดท้าย “ฆาตกรรมน้องเมยในโรงเรียนเตรียมทหาร” เนื่องด้วยเราต่างก็รู้กันดีว่า นักเรียนเมื่อเวลาไปโรงเรียนไม่สมควรมีเหตุการณ์ใดๆมาทำให้ลูกหลานเราต้องตายไปก่อนวัยอันควร แล้วขึ้นชื่อว่ามีการละเมิดธำรงวินัยอย่างรุนแรงเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายด้วยแล้ว เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นครับ
คดีน้องเมยเป็นเรื่องใหญ่ที่แม้แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังต้องออกโรงปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชา แต่กระแสสังคมรุนแรงกว่ามาก ข้อผิดสังเกตในคดีทำให้ครอบครัวผู้ตายติดใจ พร้อมกับวลีเด็ดประจำปี “ผมก็เคยโดนซ่อมจนสลบ แต่ไม่ตาย” ที่ผมคิดว่าคงจะก้องกังวานอยู่ในหูของครอบครัวน้องเมยไปอีกนาน
ที่ต้องให้เข้ามาเป็นTop 3 ในใจ เพราะในสายข่าวอาชญากรรมแล้ว เราเรียกว่าคดีมีกลิ่น ถ้าเหตุไม่ได้เกิดในโรงเรียนเตรียมทหาร ผมว่าการสืบสวนสอบสวนจะทำได้ดีกว่านี้มาก เมื่อสุดท้ายผลการตรวจของนิติวิทยาศาสตร์ออกมาสวนทางกับนิติเวช ยิ่งทำให้คดีนี้เป็นอะไรที่สะท้อนการทำงานสร้างความยุติธรรมให้กับคนในสังคมได้ดีมากที่สุดคดีหนึ่งในปีนี้
จบ Top 3 คดีอาชญากรรมปี 2560 ของผมแล้วครับ อาจจะไม่ตรงกับหลายๆคน แต่เราก็พบว่าคดีที่เกิดจากเทคโนโลยีในปัจจุบันเยอะมากมาย เช่น คลิปโจ๋ท้าตำรวจถอดเครื่องแบบต่อย , คดีอันธพาลเมาต่อยผู้หญิงและแท็กซี่ อะไรจำพวกนี้กลายเป็นที่สนใจของคนในยุคปัจจุบันมากขึ้น
สัปดาห์หน้ากลับมาวิเคราะห์ เทรนด์อาชญากรรมในปี 2561 กันครับ สำหรับวันนี้ ขอให้มีความสุขมากๆในวันคริสต์มาสครับ
Merry Christmas 2016