บ่ายวันที่ 3 พ.ย.64 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม ,พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม.
ร่วมกันแถลงข่าวผลการเปิดปฎิบัติการ ยุทธการเด็ดปีกอวตาร หลอกเหยื่อแบล็กเมล์ จับกุมนายธนกฤต อายุ 38 ปี
ข้อหา ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น และ ส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น ,
ข่มขืนใจผู้อื่นให้ ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือ โดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สาม
นำเข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
จับได้ภายในซอยวัดสังเวช แขวงบางลำพู เขตพระนคร กทม.
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ตำรวจ บก.ปคม. ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองเด็กและเยาวชนหลายรายถูกคนร้าย ใช้เฟซบุ๊กปลอม เป็นหญิงสาวสวยหน้าตาดี ติดต่อพูดคุยกับเหยื่อ ส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน
เมื่อเหยื่อเริ่มคุ้นเคยจะชักชวน พูดคุยเรื่องลามกอนาจาร อาศัยโอกาสที่เหยื่อเป็นผู้เยาว์รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากนั้นจะส่งภาพลามกอนาจารของหญิงสาวไปแล้วชักชวนเหยื่อถ่ายภาพโป๊เปลือย โชว์ของสงวนของลับตนเองกลับมา
จากนั้นจะบันทึกภาพลามกอนาจารเหยื่อ แล้วนำมาข่มขู่กรรโชกทรัพย์เหยื่อให้จ่ายเงิน มิฉะนั้นจะเผยแพร่ภาพของเหยื่อในโซเชียลมีเดียทำให้ เกิดความเสียหายและอับอาย
บก.ปคม.ได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายธนกฤต รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอาญาออกหมายจับจนสามารถจับกุมได้
ทั้งนี้มีรายงานว่า ตำรวจบก.ปคม. สืบทราบว่าคนร้ายพักอาศัยที่บ้านไม่มีเลขที่ภายในซอยวัดสังเวช แขวงบางลำพู เขตพระนคร นำกำลังไปสังเกตการณ์ แต่เนื่องจากในซอยคับแคบและเป็นชุมชน
พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม สั่งการให้ พ.ต.ท.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์ รองผกก.ฝอ.5บก.อก.บช.ก. ช่วยราชการปคม. ได้ปลอมตัวเป็นพนักงานส่งอาหาร ขี่จยย.ตระเวนตามซอยจนพบผู้ต้องหาขณะเดินอยู่ในซอย จึงจับกุมตัวได้
พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่ารสอบสวนผู้ต้องหาลักษณะเป็นกะเทยหรือสาวสอง รับสารภาพวิธีเลือกเหยื่อ หากเหยื่อเป็นเด็กและเยาวชนจะใช้แอปพลิเคชัน”OMI” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับหาเพื่อนของกลุ่มวัยรุ่น ส่วนเหยื่อที่เป็นผู้ใหญ่ จะเลือกหาเหยื่อผ่านเว็บไซต์ www.swinging.com
โดยจะใช้วิธีทักทายขอทำความรู้จักกับเหยื่อเมื่อเหยื่อหลงเชื่อเข้าใจว่าเป็นหญิงสาวก็จะมีการแลกเปลี่ยนส่งภาพลามกอนาจารระหว่างกัน จากนั้นคนร้ายก็จะบันทึกภาพนั้นไว้แล้วนำมาข่มขู่ให้เหยื่อโอนเงิน มิฉะนั้นจะประจานให้อับอาย
โดยให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี รายละ 15000-2000 บาท ซึ่งขณะนี้มีเหยื่อเสียหายไม่ต่ำกว่า 3-4 ราย
ตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกัน และทำมานานตั้งแต่ปี 2559 และถูกจับกุมฐานความผิดยักยอกทรัพย์ และกรรโชกทรัพย์ เมื่อปี 2559 โดยครั้งนั้นถูกจำคุกที่เรือนจำนครปฐม ก่อนจะพ้นโทษเดือนพ.ค.62ก่อนจะถูกดำเนินคดี ข้อหากรรโชกทรัพย์ และถูกคุมตัวที่เรือนจำจังหวัดราชบุรีพ้นโทษออกมา 27พ.ย.2563 และมาก่อเหตุอีก