วันที่ 13 ธ.ค.65 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวตอบข้อซักถามกรณีผับจินหลิง ที่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับรปภ. ว่าจะมีความเห็นต่างระหว่างผบช.น.และรองผบ.ตร.หรือไม่ว่า
ไม่ได้มีความเห็นแตกต่าง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกอย่าง ต้องเข้าใจนิดนึงว่าทุกคนปรารถนาดี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็ปรารถนาดี ก็พยายามได้ยินข่าวสารหรือได้แนะนำจากใครมาก็จะมาบอกตำรวจแต่อาจผ่านทางเฟซบุ๊ก กังวลอะไรก็จะมาบอก
ทางคณะทำงานที่ตั้งอยู่มีพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน และมีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เป็นหัวหน้ากำกับดูแลและรายงานผม
ขณะนี้สาเหตุที่ตอนแรกที่เป็นข่าวว่าทำไมถึงแจ้งข้อหาหัวหน้ารปภ.เปิดสถานบริการ เป็นเจ้าของกิจการ จริงๆ แล้ว ในวันนั้นที่ผบช.น.เข้าไปตอนแรกส่วนใหญ่จะพบคนจีนแต่มีหัวหน้ารปภ.มาแสดงตนว่าเป็นผู้ดูแลสถานที่นี้ ต้องมีการแจ้งข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อน
ต่อมามีการประกันตัวในชั้นศาล ภายหลังจากการสอบสวนและมีพยานหลักฐานพบว่าไม่ใช่ผู้ดูแลแท้จริง เมื่อสอบลึกไปก็ทราบว่าใครเป็นเจ้าของจริง จะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
ไม่ได้มีเจตนาที่จะจับแพะ เพียงแต่เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงแต่ละขณะไม่เหมือนกัน ต้องมองภาพก่อนว่าคดีจินหลิงเกิดเหตุในพื้นที่นครบาล ผบช.น.ได้เข้าไปด้วยตัวเอง ผมได้ยกระดับให้ท่านเป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน
ส่วนคดีที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มทุนจีนสีเทาที่ไปตรวจค้นนอกพื้นที่นครบาล หรือในพื้นที่นครบาล ส่วนหนึ่งจะมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร.รับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม ช่วยขยายผลกับ สอท.
ส่วนภาพรวมในการสืบสวนในที่ต่างๆ มีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้ควบคุม นำจิ๊กซอว์มารวมกัน ส่วนไหนที่เป็นคดีเกี่ยวเนื่องกับคดีจินหลิง จะเป็นทางผบช.น. หากเกี่ยวเนื่องกับคดีอื่นต่างๆ อาจจะมีเพิ่มเติมในคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนต่อไป
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า
มีความคืบหน้าเพิ่มเติมในช่วง 1-2 วันนี้ มีหลักฐานเพิ่มเติมว่าอาจจะมีการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นเป็นคณะบุคคลที่มาจากต่างประเทศ คณะทำงานของนครบาล พิจารณาแล้วอาจจะเข้าข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หากพิจารณาแล้วว่าเข้าข่าย จะเสนออัยการสูงสุดเพื่อพิจารณา
หากมีความเห็นชอบตรงกัน พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบจะเป็นอัยการสูงสุด เป็นการทำงานตามข้อเท็จจริงมาประกอบเป็นไปตามพยานหลักฐานเป็นช่วงๆ ขณะนี้ยังมีการสอบปากคำไปเรื่อยๆ
จากการที่ได้รับรายงานจากพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และผบช.น. ผมมั่นใจในพยานหลักฐาน ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องมวยล้มต้มคนดู ผมมั่นใจว่าไม่มีมวยล้มแน่นอน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติก็จะเป็นคดีนอกราชอาณาจักรไปโดยปริยาย เพราะมีคณะบุคคลกระทำความผิด อาจจะมีการวางแผน ตระเตรียมเชิญชวนให้มาเที่ยวเมืองในมาทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
ขณะนี้ยังไม่อยากลงไปในรายละเอียดเพราะเป็นการตีความ ใช้ดุลยพินิจ ทั้งนี้ถ้ามีความเห็นว่าเข้าข่ายก็จะเสนออัยการสูงสุดต่อไป กระแสขณะนี้ก็อยากติดตามความคืบหน้า ตำรวจกำลังเร่งทำงานโดยเร็วที่สุด จะมีการรายงานความคืบหน้าเป็นระยะๆ
ผมได้ลงมากำกับดูแลด้วยตนเอง ภายในสัปดาห์นี้ก็จะมีการนัดประชุมติดตามความคืบหน้ากับทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พล.ต.ท.ธิติ และคณะทำงานที่ได้แต่งตั้งไว้ เพื่อจะเร่งรัดทั้งฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังกล่าวยืนยันว่าการทำงานร่วมกันของทุกฝ่ายได้ทำงานเข้าขากันอยู่แล้ว เพราะตนเองได้ลงมากำกับดูแลด้วยตัวเอง และชี้แจงถึงการตั้งข้อหากับหัวหน้ารปภ.ว่าเป็นข้อเท็จจริงในแต่ละช่วง และไม่เคยเกิดคดีลักษณะนี้ขึ้นที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีคนไทย เมื่อมีคนไทยมาแสดงตนก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหาไปก่อน ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง