ป.รวบสาวแสบปลอมเฟซบุ๊ก “แอม” เสาวลักษณ์ นักร้องดัง หลอกตุ๋นเหยื่อไปทำทำงรนต่างประเทศ ถูกจับปฏิเสธ ไม่ได้เป็นคนปลอมเฟซ มีหน้าที่แค่จัดการเรื่องเอกสารเท่านั้น ตรวจประวัติพบมีหมายจับติดตัวอีก 6 หมาย เกี่ยวกับฉ้อโกงเกี่ยวกับทรัพย์ทั้งนั้น
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 เม.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.พงศ์พิทักษ์ บุญบำรุง สว.กก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ป. จับกุม น.ส.ปวีณา อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ.183/2560 ลง 4 ก.ค. 2560 ในฐานความผิด “จัดหางานให้คนหางานไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังกล่าวนั้นได้ไปซึ่งเงินทองหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง” จับตัวได้ที่ บริเวณด้านหน้าธนาคารกรุงเทพ จำกัด ซอยตลาดสามพราน ต.สามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม
พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5.บก.ป.กล่าวว่า เมื่อกลางปี 2560 น.ส.ปวีณา ผู้ต้องหารายนี้ได้ปลอมเฟซบุ๊กของ “แอม” เสาวลักษณ์ ลีละบุตร ศิลปินนักร้องชื่อดัง ก่อนโพสต์ข้อความชวนเชื่อว่า สามารถจัดหาสถานที่ทำงานหรือพาไปทำงานยังต่างประเทศได้. รายได้เดือนละประมาณ 8 หมื่นบาท
แต่ผู้ที่สนใจจะต้องยอมจ่ายเงินให้กับผู้ต้องหารายนี้ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท เป็นค่าดำเนินการแล้วแต่ความยากง่ายของแต่ละประเทศที่ผู้เสียหายต้องการไปทำงาน
ด้วยความที่ผู้เสียหายส่วนใหญ่เชื่อว่าเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นของ แอม เสาวลักษณ์ นักร้องชื่อดังจริง หลงเชื่อโอนเงินให้กับผู้ต้องหารายนี้ แต่เมื่อถึงกำหนดนัดหมายเดินทางไปทำงานผู้ต้องหากลับอ้างว่าติดปัญหาเรื่องเอกสารบางอย่าง ก่อนจะเริ่มขาดหายการติดต่อไปในที่สุด ที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อถูกหลอกกว่า 100 ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในแทบภาคอีสาน ภาคกลางและภาคตะวันออก รวมมูลค่าความเสียหายกว่าหลาย 10 ล้านบาท กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้กบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน น.ส.ปาวีณา ให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ปลอมแปลงเฟซบุ๊กของนักร้องชื่อดังและโพสต์ข้อความหลอกลวงผู้เสียหายแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าเป็นผู้ทำหน้าที่จัดการเรื่องเอกสารเท่านั้น นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติยังพบว่ามีหมายจับในคดีลักษณะดังกล่าว รวมถึงคดีฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงทรัพย์และคดีนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ติดตัวเพิ่มเติมอีก 6 หมายจับประกอบด้วย หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี 2 หมายจับ ศาลจังหวัดชุมแพ จ.ขอนแก่น 2 หมายจับ ศาลจังหวัดหนองคาย 1 หมายจับ และ ศาลจังหวัดนครราชสีมา 1 หมายจับ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม รับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป