กรณีเมื่อวันที่ 6 ต.ค.65 สภ.ปากเกร็ด ภ.จว.นนทบุรี ตรวจสอบอาวุธปืนในคลังและพบว่า มีอาวุธปืนของทางราชการ หายไปจากในคลังมากถึง 160 กระบอก ต่อมาจับกุมผู้ก่อเหตุได้คือ ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร ผบ.หมู่ (ป) สภ.ปากเกร็ด มีหน้าที่ดูแลคลังอาวุธปืนดังกล่าว แต่ได้แอบทยอยลักเอาปืนหลวงออกไปจำหน่ายและจำนำเป็นจำนวนมาก
ด.ต.เชาวลิต ถูกดำเนินคดีข้อหา ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย และ ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม รายละเอียดตามที่สื่อมวลชนและโซเชี่ยลมีเดียนำเสนอแล้วนั้น
กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เร่งขยายผลติดตามอาวุธปืนที่ถูกลักออกไปจำหน่ายทั้งหมดกลับคืนมา รวมทั้งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับซื้ออาวุธปืนหลวงที่ถูกลักไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์สั่งการให้ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เร่งสืบสวนติดตามอาวุธปืนทั้งหมดที่ถูกลักออกไป ประกอบด้วย
1) อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ 9 มม. ยี่ห้อ Sig Sauer รุ่u P320 SP 23 กระบอก
2) อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ 9 มม. ยี่ห้อ GLOCK 20 กระบอก
3) อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ 9 มม. ยี่ห้อ GLOCK รุ่น MS 4 กระบอก
4) อาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ .38 ยี่ห้อ Smith and Wesson 42 กระบอก
5) อาวุธปืนยาว COLT M4 25 กระบอก
6) อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ 9 มม. Sig Sauer รุ่น M18E (Carry) 46 กระบอก
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ปืนดังกล่าวถูกนำไปขายและจำนำกับบุคคลหลายกลุ่ม ผลัดเปลี่ยนมือกันแล้วหลายทอด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและสามารถออกหมายจับ กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้แล้ว13 ราย
วันที่10 พ.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.1 ได้ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อติดตามหาอาวุธปืนที่ถูกลักไป และติดตามจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวทั้งสิ้น 34 จุด ใน 3 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี 29 จุด กรุงเทพฯ 4 จุด และปทุมธานี 1 จุดจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ประกอบด้วย
1. นายธีระวัฒน์ อายุ 38 ปี
2. นายกิตกร ศรีอายุ 52 ปี
3. น.ส.รุ่งรัตน์ อายุ 40 ปี
4. น.ส.วรรณพร อายุ 24 ปี
ทั้ง 4 ราย จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน รับของโจร
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามอาวุธปืนราชการกลับมาได้แล้ว64 กระบอก ดังนี้
1.ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ 9 มม. Sig Sauer 20 กระบอก
2.ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ 9 มม. GLOCK 7 กระบอก
3.ปีนพกสั้นลูกโม่ 38 Smith and Wesson 30 กระบอก
4.ปีนยาว COLT M4 7 กระบอก
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าว แม้ในส่วนของคดีหลักจะสามารถจับกุมดำเนินคดีกับตัวผู้ก่อเหตุลักอาวุธปืนราชการได้แล้ว แต่ในส่วนของอาวุธปืนที่ถูกลักออกไปนั้น จำเป็นจะต้องติดตามกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด
ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งรัดในการติดตามอาวุธปืน และดำเนินคดีกับผู้ที่รับซื้ออาวุธปืนที่ถูกลักไปทั้งหมด ในเวลานี้สามารถติดตามปืนกลับมาได้แล้ว 64 กระบอก จับกุมผู้รับซื้อหรือช่วยซุกซ่อนอาวุธปืนดังกล่าวได้แล้ว4 ราย
ในส่วนอาวุธปืนที่เหลือ เจ้าหน้าที่ได้เร่งรัดติดตามอาวุธปืนดังกล่าวกลับมา และอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก ซึ่งหากพบว่ามีผู้รับซื้อหรือช่วยซุกซ่อนอาวุธปืนราชการที่ถูกลักไปอีกนั้น จะดำเนินคดีให้สุดแน่นอน