Thursday, November 21, 2024
More
    Homeแม่บ้านตำรวจลมใต้ปีก “บิ๊กเปีย-พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม” ผบช.ภ.3

    ลมใต้ปีก “บิ๊กเปีย-พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม” ผบช.ภ.3

    จัดเป็นแม่บ้านตำรวจที่ครบเครื่อง เพียบพร้อม และรอบด้านอีกคน สำหรับ คุณปุ้ยดุษฎี เย็นท้วม ภรยา บิ๊กเปียพล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3

    คุณปุ้ย เป็นนักธุรกิจหญิงที่ทำทุกหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งแม่ของลูก ภรรยาของผบช.ภ.3 และประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 3

    คุณปุ้ย จัดเป็นหญิงแกร่งและเก่ง ในทุกๆด้าน เป็นคนที่ไม่หยุดนิ่ง และด้วยภารกิจทำให้ต้องเดินทางบ่อยมาก เพราะทุกหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ อยู่คนละจังหวัด

    ตั้งแต่ดูแลลูกๆวัยเรียน 2 คน น้องปราบ อายุ 11 ปี และน้องปาล์มมี่ อายุ 7 ปี ทั้งคู่เรียนอยู่โรงเรียนสาธิต จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ที่กรุงเทพฯ การทำหน้าที่ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 3 ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และอีสานใต้ รวมถึงการดูแลเรื่องการตลาดธุรกิจค้าพลอยดิบของครอบครัว ที่จ.จันทบุรี  

    คุณปุ้ย เล่าว่า

    เริ่มรู้จักกับพี่เปียเมื่อ 13 ปีก่อน ตอนนั้นอายุ 33 ปี ปัจจุบันอายุ 46 ปี มีลูกในวัยเรียน 2 คน ตอนเริ่มต้นรู้จักกันใหม่ๆยอมรับว่าประหลาดใจในหลายๆเรื่อง เพราะเราสองคนมีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

    เรามีเชื้อสายจีน เป็นครอบครัวที่ทำธุรกิจ ส่วนพี่เปีย รับราชการตำรวจ เป็นอาชีพที่สามารถให้คุณให้โทษกับคนได้ เป็นอาชีพที่ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ดูจากโซเชียลมีเดียบางคนมองตำรวจในแง่ลบด้วย

    “ใหม่ๆเราก็ปรับจูนกันจนเข้าใจกัน พี่เปียสอนเราหลายอย่าง ทำให้เราเห็นว่าทุกอาชีพมีทั้งคนดีและคนไม่ดี พอแต่งงานกันและใช้ชีวิตครอบครัวด้วยกัน เราได้เห็นว่าพี่เปียเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย และด้วยชีวิตข้าราชการตำรวจที่มีภารกิจรัดตัว หลายครั้งมีภารกิจด่วน เวลานัดกันจะไปไหน พอถึงเวลาพี่เปียเกิดติดงานด่วน ไปไม่ได้ ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจ ไม่พอใจ แต่พอเวลาผ่านไป เราโตขึ้น ได้เรียนรู้หลายๆอย่าง ทำให้เราเข้าใจเขามากขึ้น”

    “ที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจคือ พี่เปียทำให้เราไว้วางใจได้ในหลายๆเรื่อง ทั้งรูปแบบการใช้ชีวิต และนิสัยใจคอ ไม่เป็นคนว่อกแว่ก ไม่เที่ยว ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เคยกลับดึกโดยไม่มีเหตุผล และด้วยอายุเราทั้งคู่ห่างกัน 11 ปี พี่เปียจะเป็นผู้ใหญ่ มีลูกน้องเยอะ มีมุมดุ คอยสอนเรา ทำให้เราเติบโตทางความคิด

    คุณปุ้ยเล่าและบอกต่อว่า

    ด้วยหน้าที่และภารกิจของพี่เปีย ที่ต้องบริหารราชการตำรวจอยู่ในพื้นที่อีสานใต้ เราจึงเป็นหลักในการดูแลลูกๆที่กรุงเทพฯ รับส่งลูกไปโรงเรียน กิจกรรมต่างๆของลูก น้องปราบเป็นนักกีฬาฟุตบอล ส่วนน้องปาล์มมี่เป็นนักกรีฑา เราดูแลทุกอย่างเพื่อไม่ให้พี่เปียกังวลและปฏิบัติภารกิจตำรวจได้อย่างเต็มที่ โดยพี่เปียจะกลับมาในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แต่ถ้าเสาร์อาทิตย์ติดภารกิจ พี่เปียก็จะไม่ได้กลับเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเราก็เข้าใจ และบริหารจัดการได้

    ในส่วนของหน้าที่ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 3 คุณปุ้ยบอกว่า

    เราโชคดีที่ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากแม่บ้านทุกคน ตอนเข้ามาดูแลครั้งแรก รู้สึกประทับใจ สมาชิกทุกคนรักใคร่ช่วยเหลือกัน อบอุ่น เป็นกันเอง ภรรยาผกก.ทานข้าวร่วมโต๊ะกับภรรยา สว. ไม่มีการแบ่งแยก

    มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันตลอด บางทีมีปัญหาหรือพบเจอสามีมีอาการแปลกๆจากความเครียดก็มาเล่าสู่กันฟังและช่วยกันคิดหาทางแก้ไข

    “ในส่วนของกิจกรรมของแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 3 มีหลายอย่างที่รับไม้มาจากสมาคมแม่บ้านตำรวจ อาทิ โครงการผลิตภัณฑ์ ขวัญดาว ช่วยสร้างรายได้ให้กับแม่บ้านตำรวจ ที่ริเริ่มโดย คุณมดสุมนา กิตติประภัสร์ ภริยา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.

    ในพื้นที่อีสานใต้ อาทิ ผ้าไหมอีสาน อย่างผ้าไหมปักธงชัย ที่มีเอกลักษณ์การทอ เนื้อผ้าหนาแน่น สีคงทน ไม่ตก ไม่ย้วย รวมถึงผ้าไหมสุรินทร์ และผ้าไหมอุบลฯ ที่มีเอกลักษณ์และความสวยงาม นำมาตัดเย็บเป็นเสื้อ ผ้าถุง กระเป๋าผ้า Tote กระเป๋าถือใบเล็ก วางจำหน่ายที่ในพื้นที่ และที่ร้านปันรักษ์ รพ.ตำรวจ

    คุณปุ้ยเผยอีกว่า

    อีกโครงการที่สำคัญ ที่ส่งต่อจากสมาคมแม่บ้านตำรวจ คือ ช่วยเหลือครอบครัวข้าราชการตำรวจที่มีบุตรเป็นเด็กพิเศษ ตามโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” เพื่อสร้างอาชีพให้กับเด็กพิเศษอย่างยั่งยืน

    ล่าสุดทางสมาคมแม่บ้านตำรวจ ส่งมอบเงิน  944,000 บาท มาให้ชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อกระจายส่งมอบให้กับจังหวัดต่างๆนำไปช่วยเหลือและสร้างอาชีพให้เด็กพิเศษ โดยในการช่วยเหลือจะดำเนินการอย่างโปร่งใส มีหลักฐาน ตรวจสอบได้

    “ตำรวจ 2-3 แสนนายจำนวนมากมีหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ ดังนั้นโครงการต่างๆที่แม่บ้านตำรวจดำเนินการ ทั้งช่วยสร้างอาชีพให้ภรรยาตำรวจ ช่วยเหลือเด็กพิเศษในครอบครัวตำรวจ หาทางช่วยฝากงาน ให้เขามีงานทำมีรายได้”

    คุณปุ้ยกล่าว

    มาถึงเรื่องการดูแลคู่ครอง คุณปุ้ย บอกว่า ในเวลาที่พี่เปียกลับมาบ้าน เราจะทำให้เขาสบายใจมากที่สุด อยากให้เขามีความสุข ดูแลเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย มีลูกๆมาเล่นด้วยเป็นกำลังใจที่ดีให้เขา เราซัพพอร์ตตรงนี้มากกว่า รวมทั้งการดูแลลูกๆให้ดีที่สุดก็คือกำลังใจให้เขาอย่างหนึ่ง

    “เราเป็นลมใต้ปีก ต้องให้กำลังใจ การบริหารกายใจให้แข็งแรงจะนำมาซึ่งความสุขที่แท้จริง รวมทั้งการพากันไปทำบุญที่วัด เป็นการช่วยพยุงจิตใจได้ดีมาก ในภาพรวมเราถือว่าโชคดีมากที่สุดคนหนึ่ง ที่ได้พบกับพี่เปียที่เป็นคนขยัน เอาใจใส่ลูกๆ และเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี”

    คุณปุ้ยกล่าวทิ้งท้าย

    เรียกว่าทั้ง คุณปุ้ย และ ผบช.เปีย มีแสงของความอบอุ่น น่ารัก เป็นครอบครัวที่ลงตัวทุกๆด้าน มีความเข้าใจกัน ดูแลซัพพอร์ตกัน และคอยเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันตลอดเวลา

    ปร์วีร์2/9/66

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments