“ทำวันนี้ให้ดีที่สุด”
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือผลของการกระทำในวันนี้ เมื่อเราทำดีแล้ว เราจะไม่มีคำว่าเสียใจ
นี่คือคติของ พ.ต.ต.อคร กล่อมกูล สารวัตรสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ หรือสารวัตรแฮม
สารวัตรแฮม เติบโตในครอบครัวนักธุรกิจ แต่กลับเลือกเดินเส้นทางตำรวจ
จุดเริ่มต้นเริ่มจากการเห็นนักเรียนนายร้อยมาตั้งแต่ยังเด็ก รู้สึกถึงความเท่ ความมีเกียรติในเครื่องแบบที่สวมใส่ มุ่งมั่นที่จะเติมเต็มความฝันนั้น
แรกเริ่มครอบครัวไม่เห็นด้วย และประหลาดใจอย่างมาก เพราะพื้นเพเป็นครอบครัวนักธุรกิจ
แต่เมื่อลูกอยากทำตามฝัน บวกกับคำพูดของคนรอบข้างที่ไม่เชื่อว่าตัวเองนั้นจะมาสายนี้ได้ เกิดเป็นแรงผลักดันทำให้มุ่งมั่น เรียนกวดวิชาอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับครอบครัว ทั้งคุณพ่อคุณแม่ที่สนับสนุนถึงแม้จะเดินคนละเส้นทาง
แต่ทั้งคู่ก็เคารพการตัดสินใจและเป็นกำลังใจให้จนสามารถสอบติดได้ทั้ง 4 เหล่า
ย้อนกลับไปช่วงวัยรุ่น วีรกรรมสมัยเรียนก็มีไม่น้อย จากที่เป็นคนอัธยาศัยดี เป็นคนชอบแกล้งเพื่อน
แต่เมื่อได้รับบทบาทของนักเรียนบังคับบัญชา ก็สามารถทำได้ดีในการคอยสังเกตการณ์พฤติกรรมของรุ่นน้อง
สารวัตรแฮม เล่าย้อนกลับไปด้วยความขบขันว่า
สมัยนั้นถึงขั้นปีนไประเบียงเพื่อจะถ่ายวิดีโอบันทึกหลักฐานว่ามีนักเรียนที่แอบงีบในห้อง หรือแอบเล่นเกมขณะเรียน จนเป็นที่ยอมรับและจำนนต่อหลักฐาน
ร้ายไม่ใช่เล่นนะเนี่ย !!!
หลังจากเรียนจบและมีคะแนนเป็นอันดับสามของรุ่น นรต.64 สารวัตรแฮมได้เลือกมาเป็นพนักงานสอบสวนที่สน.บางรัก ที่แรก
ก่อนจะมีโอกาสไปประจำอยู่ที่กองปราบปรามอาชญากรรมเศรษฐกิจ
ระหว่างนั้นก็ได้ปรึกษาผู้บังคับบัญชาและทางครอบครัว ว่าอยากพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ
ได้ไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เอกการค้ามนุษย์
เมื่อจบปริญญาโท ได้รับโอกาสให้ทำงานตามสายที่ได้จบมา ช่วงเวลานั้นเองที่สารวัตรแฮมรู้สึกถึงความท้าทายในการทำงาน
อีกทั้ง พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง จเรตำรวจ หรือที่ทุกคนเรียกขานว่า “ แจงรักทุกคน” ได้เมตตาสอนวิชาและถ่ายทอดการดำเนินชีวิต และการเป็นนายที่ดี รวมไปถึง ประสบการณ์ชีวิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีคุณค่ากับตนมากๆ
ในช่วงที่ได้รับโอกาสมาเป็นสารวัตรป้องกันปราบปรามทุ่งมหาเมฆ ทำให้สารวัตรแฮมเห็นปัญหาจนตระหนักได้ว่าควรแก้ปัญหาจุดไหน บวกกับนำแนวทางที่ท่านจเรเคยสอนไว้มาปรับใช้ เลยทำให้รู้สึกสนุกไปกับงาน
โอกาสใหม่ก็เข้ามาพร้อมกับความท้าทายในงานสืบ สารวัตรแฮมเล่าถึงงานสืบที่มีความตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
แต่ละคดีก็มีความเครียดต่างออกไป ทั้งนี่ต้องบอกตัวเองเป็นคนโชคดีที่ได้ผู้บังคับบัญชาไปจนถึงผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี
ที่ทำให้บรรยากาศในการทำงานเป็นไปงานราบรื่น และคอยสอนผม ที่ถือว่ายังใหม่ในสายงานนี่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม
ขอแอบกระซิบว่าระหว่างที่สัมภาษณ์อยู่นั้น แพรวแอบมองไปรอบ ๆ ห้อง ของสารวัตรแฮม นึกว่าเข้ามาอยู่ในโลก Marvel ของทุกชิ้นสื่อถึงภาพของการต่อสู้ที่ดุเดือด
สารวัตรแฮมเล่าด้วยความภูมิใจถึงของสะสมแต่ละแบบ ที่เสมือนเป็นสถานพักผ่อนของตัวเองทุกครั้งที่ได้มอง
เพราะไม่เพียงแต่มองว่ามีเงินถึงจะซื้อได้ แต่นอกไปจากนั้นของแต่ละชิ้นมีเรื่องราวของมันที่ต่างออกไป
เมื่อถามถึงสเปคคนที่อยากทำความรู้จักสารวัตรหนุ่มคนนี้ ด้วยความที่เป็นคนอัธยาศัยดี คิดบวก ขี้เล่น จึงมองว่า
หากได้คนที่มีพลังบวก หรือคนที่มองโลกในแง่ดี ต่อให้ในสถานการณ์แย่ ทั้งผมและเค้าก็จะผ่านด้วยกันไปได้
ฉะนั้นเลยอยากได้คนที่ไม่คิดเล็กคิดน้อย คุยภาษาเดียวกัน จะรู้สึกถึงบรรยากาศที่ดีกว่า
สารวัตรแฮมไม่เพียงแต่เป็นหนุ่มรุ่นใหม่ที่มองโลกในแง่ดี ในการทำงานสารวัตรคนนี้ก็ถือคติ
“เป็นผู้บังคับบัญชาต้องเป็นปุ๋ย ไม่ใช่ยาฆ่าแมลง”
ผมหมายถึง เมื่อได้รับหน้าที่ก็ต้องช่วยแก้ปัญหาอย่างสุดกำลัง คตินี้ได้มาจากท่านกรไชย คล้ายคลึง นายตำรวจที่ผมให้ความเคารพอย่างยิ่ง
พนิตนาฏ พรหมบังเกิด บันทึก12/1/63