Tuesday, December 3, 2024
More
    Homeบทความทั่วไปฮาวานา ซินโดรม พิษภัยอาวุธไร้ร่องรอย

    ฮาวานา ซินโดรม พิษภัยอาวุธไร้ร่องรอย

    ในปี 2016 และ 2017 ชาวอเมริกัน 25 คน รวมเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ที่ทำงานอยู่ในสถานทูตสหรัฐฯในประเทศคิวบา มีอาการป่วยทางสมองอย่างทรมานแสนสาหัสและสูญเสียความจำ

    ตอนนี้ก็ยังได้รับรู้ว่ามีเจ้าหน้าที่อเมริกันอย่างน้อย 15 คนในประเทศจีน ล้มป่วยด้วยอาการทางสมองอย่างไม่รู้สาเหตุ ทางเอฟบีไอมีการสืบสวนสอบสวนหาต้นตอว่าเกิดจากการโจมตีด้วยอาวุธลึกลับที่ไม่ทิ้งร่องรอยให้จับได้้

    หลายเดือนที่ผ่านมาเราได้รวบรวมหลักฐานจนเชื่อว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลประเทศที่ไม่เป็นมิตร ที่มุ่งโจมตีเป้าหมายพลเรือนชาวอเมริกันที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ กับครอบครัว

    มาร์ค ลินเซย์  รปภ.ของกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่สถานกงสุลในเมืองกวางโจว ประเทศจีน เหยื่อรายหนึ่งเจอสถานการณ์นี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 เผยว่าเริ่มรู้สึกมีอาการเวียนหัว มาก รวมทั้งภรรยาด้วย

    เขาบอกว่าเขากับภรรยาเริ่มมีอาการทรมานจากเสียงแปลกขณะที่อยู่ในอพาร์ตเมนท์ เสียงเหมือนลูกหินหมุนไปรอบๆ แล้วเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนจางหายไป เป็นเสียงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน และเกิดขึ้น3-4 ครั้ง ในจุดเดิม

    มาร์คต้องสวมแว่นอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากอาการเวียนศีรษะดังกล่าว ยังบอกว่า ความจำในช่วงสั้นยังสูญไปหมด  เขาทำงานลับในการใช้อุปกรณ์วิเคราะห์ภัยคุกคามทางอิเล็กทรอนิกส์ จึงคิดว่านี่เป็นเหตุให้ตกเป็นเป้าการโจมตีพร้อมกับเพื่อนบ้านละแวกเดียวกัน

    แคทเธอรีน วอร์เนอร์ ที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกันก็ประสบกับการคุกคามด้วยเสียงลึกลับเช่นกัน แคทเธอรีนเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งเสริมการค้าของกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐฯที่ประจำอยู่สถานกงสุลสหรัฐฯเหมือนกัน บอกว่า ตื่นกลางดึกรู้สึกมีเสียงอยู่ในหัวขณะเดียวกันมีเสียงต่ำสั่นสะเทือนเกิดขึ้น เมื่อลุกมองหาที่มาของเสียงเพราะมารู้สึกเจ็บปวดมาก เหตุเกิดวันที่ 20 ตุลาคม 2017  

    เริ่มรู้สึกมีอาการเป็นลมพิษ ตื่นมาปวดหัวทุกวัน มีอาการเหนื่อยอ่อนลงทุกวัน แม้กระทั่งสุนัขที่เลี้ยงยังมีอาการอาเจียนเป็นเลือดตอนแรกนึกว่ามีอาการป่วยจากรับหมอกควันพิษมากเกินไป

    แต่อาการป่วยของเธอ มันเหมือนกับที่เจ้าหน้าที่อเมริกันได้รับมาในกรุงฮาวานา ประเทศคิวบา เมื่อปี 2016

    มาร์ค ลินเซย์ เชื่อว่านี่เป็นการพุ่งเป้าโจมตีโดยตรงด้วยอาวุธลึกลับอย่างแน่นอน เมื่อถามว่ามันเป็นอาวุธที่ใช้พลังงานประเภทใด มาร์คตอบว่าน่าจะเป็นพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ ในช่วงคลื่นสั้นหรือไมโครเวฟ

    ที่บ่งชี้เบาะแสสนับสนุนทฤษฎีดังกล่าว ซึ่งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ สหรัฐฯเคยแถลงเมื่อเดือนตุลาคม2014 ว่าเป็นอาวุธที่มีความรุนแรงสูงด้วยระบบไมโครเวฟ ที่สามารถทำให้ศัตรูอ่อนเปลี้ย ข่มขวัญและสังหารศัตรูในระยะต่อมา โดยที่ไม่ทิ้งหลักฐานใดๆ

    ในแถลงดังกล่าวระบุอีกว่า “อาวุธถูกออกแบบบให้ทะลุทะลวงไปสู่เป้าหมายถึง หนึ่่งในสี่ของคลื่นไมโครเวฟ

    ไมค์ เบ็ค อดีตเจ้าหน้าที่ในสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ อีกคนหนึ่งที่ได้ภัยจากอาวุธชนิดนี้ ได้ยื่นฟ้องเรียกค่าชดเชยจากล้มป่วยพาร์กินสัน เนื่องจากเชื่อว่าเขาถูกทำร้ายด้วยอาวุธที่ใช้พลังงานไม่โครเวฟ เหตุเกิดปี 1996 ขณะไปทำงานในประเทศที่ไม่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ

    ไมค์ เบ็ค เชื่อว่าการที่ชาวอเมริกัน 40 คนได้รับบาดเจ็บจากอาการทางสมองที่เกิดขึ้นในจีนและคิวบา คือการถูกอาวุธคลื่นไมโครเวฟแบบเดียวกับเคสของเขาแน่นอน

    ในศูนย์ศึกษาอาการเจ็บปวดทางสมองและการเยียวยารักษา ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียระบุว่า ผู้ป่วยมีอาการแบบถูกทำลายสมองมีอาการเหมือนกับรายของครอบครัวโรบินและบริตต์ การ์ฟีลด์ ที่เป็นผู้ป่วยใน 40 ราย โดยโรบินซึ่งทำงานกับกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐฯกับภรรยาและลูกเล็กอีก 2 คน อยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้จีน

    โรบิน บอกว่าไม่ทราบเหมือนกันว่าเสียงลึกลับมันเกิดตอนไหน แต่นานเป็นเดือน  ภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ เหมือนรู้สึกว่าถูกเตะด้านซ้ายและถูกไฟช็อต ทำให้รู้สึกเป็นอัมพาต ไม่สามารถจะเคลื่อนไหวและพูดได้เลย

    ลูกทั้งสองก็มีอาการสูญเสียการทรงตัว ล้มหลายครั้งและไม่สามารถเดินได้อย่างผิดปกติ

    แต่กลับเป็นว่า รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯในขณะนั้น แถลงว่า อาการของโรบินกับครอบครัว ไม่ใช่อาการป่วยแบบที่เกิดขึ้นในประเทศคิวบา ทั้งยังระบุชี้ว่าอาการของโรบินเกิดจากได้รับบาดเจ็บจากกีฬาเบสบอลเมื่อ 17 ปีก่อน แล้วภรรยากับลูกๆ ของเขากลับไม่ระบุว่าเกิดจากสาเหตุอะไร

    พวกเหยื่อชาวอเมริกันคิดว่าที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะรัฐบาลสหรัฐฯ มีสัมพันธ์ที่ดีทางการเมืองกับจีน เลยแถลงเฉไฉว่าไม่เหมือนกับกรณีของคิวบา

    นี่คือปัญหาใหญ่ของโลก ถ้าเหตุที่เกิดขึ้นใน คิวบา จีน หรือกระทั่งรัสเซีย ได้เฉกเช่นนี้ ย่อมหมายความว่ามีอีกนับร้อยประเทศในโลก ที่สามารถผลิตอาวุธพลังงานคลื่นไมโครเวฟได้  ความสูญเสียจะมากมายมหาศาลเพียงใด

    จากที่คนทั้งโลกหวาดผวาภัยอาวุธระเบิดปรมาณู พลังงานนิวเคลียร์ จนพัฒนามาเป็นพลังงานไมโครเวฟ ที่เราเห็นกันและอยู่ใกล้ชิดกับมัน อย่างเตาไมโครเวฟในบ้านแทบทุกหลัง  

    เราเห็นโลกมีพัฒนาการทางอาวุธที่คิดค้นเพื่อทำลายมนุษย์ได้อย่างฉกาจฉกรรจ์และมีประสิทธิภาพสูงขึ้นๆ เรื่อยๆ ขนาดมุ่งทำร้ายสิ่งมีชีวิตโดยตรง ไม่ทำลายวัตถุสิ่งปลูกสร้าง

    เราจะบอกว่านี่มันเป็นความเจริญของโลกมนุษย์ หรือความเสื่อมถอยกันแน่

    เลือกคำตอบได้ตามใจ เพราะมันถูกทุกข้อ

    ดอนรัญจวน 5/4/2567

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments