คำถามจาก แดน ราเทอร์ พิธีกรaxs tvในรายการ เดอะ บิ๊กอินเตอร์วิว กับ เนล ยัง (Neil Young) ศิลปินร็อกแอนด์โรลระดับตำนานและบรมครูู ที่ว่า
“คุณมาถึงช่วงหมดไฟในการสร้างผลงานดนตรีแล้วหรือว่ากำลังจะอำลาวงการร็อกแอนด์โรลไปอย่างเงียบๆ”
คำถามที่ล้อมาจากเนื้อท่อนหนึ่งของเพลง Hey Hey,My My ของเนล ยัง เอง ที่ว่า “It’s better to burn out than fade away
เขาไม่มีท่าทีประหวั่นพรั่นพรึงเมื่อมาถึงช่วงวัยโรยรา ยังคงตอบอย่างนิ่งแบบผู้อาวุโสว่า
“อย่างจิมี่ เฮนดริกซ์ สิที่เปรี้ยงป้างแล้วก็จากไป หรือเคิร์ท โคเบน ดังเปรี้ยงแล้วก็ดิ่งดับไป และอย่าง บัดดี้ฮอลลี ผู้ยิ่งใหญ่ สู่จุดสูงสุดแล้วจบ ริชชี่ วาเลนซ์ อีกคนหนึ่ง ล่วงลับทันทีหลังจากมีชื่อเสียงระดับสุดยอด ทั้งหมดนั่นแหละที่เป็นร็อกแอนด์โรล”
“ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องของการหมดไฟหมดความหมายมั่นแล้วก็หลีกเร้นออกไปจากวงการอย่างเงียบหงอย นี่ไงคือบทเพลงของร็อกแอนด์โรล ไม่ใช่เกี่ยวกับวิถีชีวิต
ชีวิตมันก็คือ การมีลูกๆๆ มีครอบครัว ความสวยงาม ความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกับธรรมชาติและอะไรหลายอย่าง ร็อกแอนด์โรลก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง มีความเป็นตัวตนเอง ผมจึงร้องเพลงเกี่ยวกันร็อกแอนด์โรล นั่นเป็นสิ่งคุณเป็นและทำทั้งหมด มันระเบิดออกมา แต่ไม่ได้เลวร้ายอะไร มันเป็นอะไรมากกว่าแค่ชีวิต ผมชอบที่จะเล่นร็อก และดีใจที่มาอยู่ตรงจุดนี้”
พิธีกรถามว่า “อะไรคือจิตวิญญาณแห่งร็อกแอนด์โรล”
เนล ยังย้อนว่าเป็นคำถามที่กว้างและใหญ่มาก ต้องระดับผู้เชี่ยวชาญ
ร็อกแอนด์โรลมันเป็นการแสดงออกอย่างอิสระเสรี ที่อยู่เหนือร็อกแอนด์โรล มันเป็นการสร้างสรรค์อย่างมีชีวิต เป็นศิลปการแสดงดนตรี มีอีกหลายอย่างให้ใช้ ให้แสดงความรู้สึก หรือเรียกร้องจูงใจบางอย่างเข้ามาในวิถีชีวิต แล้วระเบิดออกมาให้ผู้คนได้เห็นซึ่งมันก็เป็นการแสดงออกของคนๆ หนึ่งด้วยเหมือนกัน ที่คุณปลดปล่อยให้ตัวเองล่องลอยไป แล้วก็เดินไปด้วยกัน”
“แล้วเมื่อมันอุบัติขึ้นมา จะเกิดการเล่นแบบสดๆ กันต่อผู้ฟังผู้ชม เล่นแบบสลับกันไปมา มันก็จะเป็นการแสดงของวงที่ยิ่งใหญ่ มีจังหวะยอดเยี่ยม
ทุกคนมาร่วมกันมีทั้งจิตและวิญญาณของร็อกแอนด์โรล มีท่วงทำนองที่น่าอัศจรรย์ ทุกคนร่วมกันโยนท่อนทำนองไปมา ได้อารมณ์สุนทรีย์กับดนตรี ซึ่งมันออกมาจากเสียงเพลงที่ผู้คนรับรู้ได้ถึงความอ่อนไหวจากในตัวตนเอง
มันมีความรู้สึกอ่อนไหวอย่างมากในตัวตน เราล้วนเป็นคนเซ้นซิทีฟ บางทีได้ยินได้ฟังถึงกับขนลุก หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ สามารถหัวเราะหรือร้องไห้ นั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก็เป็นสิ่งที่ผมทำในชีวิตทุกวันนี้เพราะผมรักในรูปแบบงานศิลปะ”
เนล ยัง ชาวแคนาดา เริ่มต้นชีวิตนักดนตรีนักประพันธ์เพลงร็อกแอนด์โรลมาตั้งแต่ปี 2509 กับวงร็อกนาม เดอะ สไควร์ส(The Squires)ผ่านร็อก บลูส์ คันทรี แจ๊ส สวิง พั้งค์ กรันจ์ สารพัดสารพันแนวเพลง
จนมาถึงปี 2520 ตั้งวงชื่อ The Ducks มีเพื่อนร่วมวงคือเจฟฟ์ แบล็กเบิร์น (Jeff Blackburn) ซึ่งเป็นคนแต่งเพลง Hey Hey,My My ร่วมกัน
ในเนื้อเพลงเอ่ยถึง เพลง Rock and Roll Is Here to Stay ของDanny and the Juniors ยุค 50 และเขียนถึง จอห์นนี รอตเทน Johny Rotten นักร้องนำวง The Sex Pistols แนวพั้งค์ร็อก ของยุค70
รวมถึงจดหมายลาตายของ เคิร์ท โคเบน Kurt Cobain แห่งวง เนอร์วานา (Nirvana) วงดังแนวอัลเทอร์เนทีพร็อก ที่เคิร์ท เขียนว่า “It’s better to burn out than to fade away” อันหมายถึง “มอดดับไปเลยดีกว่าจะถูกลืมเลือน”
กล่าวสำหรับ เนล ยัง เขาคิดว่า เขาจะเดินไปในวงการร็อกแอนด์โรลอย่างไม่หยุดยั้ง ดีกว่าหมดไฟแล้ว ควันค่อยจางหายไป
บนถนนร็อกแอนด์โรล ด้วยอายุขัยเฉียด 80 ปี ยังต้องแบกวงการร็อกต่อไป
เนล ยัง ก็ยังอยู่อย่างยืนยง
เหมือน “ยืนยง”เอาอย่างเนล ยัง ยังไงยังงั้น
ดอนรัญจวน 12/2/2567