Saturday, November 23, 2024
More
    Homeท่องปทุมวันเส้นทางชีวิตสีกากี #กูแย้ สืบ3

    เส้นทางชีวิตสีกากี #กูแย้ สืบ3

    เดอะแย้-พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สส.บก.น.3

    เส้นทางชีวิตนายตำรวจคนนี้ จัดเป็นสายเลือดตำรวจโดยแท้ เริ่มจากพ่อ พ.ต.ท.อำนวย แสงวรรณ  

    มีลูกชายทั้งหมด 3 คน คนโตเป็นตำรวจ พ.ต.ท.อมรศักดิ์ แสงวรรณ นรต. 50 เป็นรองผกก.อยู่ บก.ตม.2พ.ต.อ.ศักยะ นรต. 51 มีน้องชายอีกคนเป็นตำรวจ พ.ต.ท.นพดล แสงวรรณ เป็นตำรวจไซเบอร์ จบจุฬาฯ

    ตอนนั้นพ่อเป็นจราจรอยู่ สน.บางกอกใหญ่  สอบได้นายตำรวจ ลงไปอยู่ที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา  3 พี่น้องแสงวรรณ เลยต้องไปเรียนประจำที่ ภปร.ราชวิทยาลัย สามพราน  

    แรงบันดาลใจมาเป็นตำรวจนอกจากพ่อ  คือลุง พล.ต.ต.ปรีชา แสงวรรณ นรต.19  เลยเข้าเตรียมทหาร ปี 2535 สอบ 2 ปี ถึงได้เป็นเตรียมทหารรุ่น 35 นายร้อยรุ่น 51 จบเตรียมทหารปี 2537 อยู่ 4 ปี จบออกมาปี 2541

    เดอะแย้ กล่าวย้อนความหลัง  

    เลือกลงใต้ไปอยู่ระแงะ           
    บรรจุครั้งแรก พนักงานสอบสวน สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส เลือกลงไปอยู่กับลุง ตอนนั้นเป็นรองผบช.ภ.9 เป็นพนักงานสอบสวน ไปอยู่ได้ 6 เดือน พ.ต.อ.ไสว ธูปแก้ว ผกก.โรงพัก โดนโจรใต้ยิงถล่มตาย ที่ระแงะ ขณะขับรถสายตรวจ

    ถามว่ากลัวไหม ไม่กลัว เพราะเราตั้งใจจะไปอยู่แล้ว แต่มีความระมัดระวัง ได้คุณลุงแนะนำเป็นพนักงานสอบสวน ถ้าออกไปตรวจที่เกิดเหตุ แกกำชับว่าให้ระวังช่วงกลางคืน อย่าไปพลิกศพ ให้ระวังเรื่องระเบิด อยู่ที่ระแงะ ได้1 ปี 6 เดือน ย้ายเข้ากองปราบ  
               
    ย้ายเข้ากองปราบฯซุ้มอ.ยนต์
    ตอนนั้นปี 2544 ไปอยู่แผนก 4 กอง 5 สมัยนั้นพี่ประยนต์ ลาเสือ เป็น ผกก. ตอนแรกลุงอยากจะให้อยู่ภาค 9 แต่ทีนี้ครอบครัวมาอยู่กรุงเทพฯ เลยขอลุง ว่าอยากอยู่กองปราบ พอมาแล้ว ได้เปิดโลกทัศน์ ได้เรียนรู้อะไรๆ เจอพี่ยนต์ คนแรก ด้วยความที่เราอยากทำงาน เคสแรก คือคดียิงอัยการที่สมุทรสาคร  
               
    ผมเดินเข้าไปหาพี่ยนต์ บอกพี่ครับผมอยากไปทำงานด้วย แกดูหน่วยก้านก็บอกว่า มึงอยากทำงานจริงเหรอ ก็บอกว่า อยากเป็นนักสืบ แกก็บอกว่า มีคดียิงอัยการที่สมุทรสาครก็เลยพาไปศึกษา ตั้งแต่วันนั้นก็อยู่ในทีมแก อยู่ในแวดวงสืบสวน อยู่กองปราบ 10 ปี

    รื้อคดีฆ่ายกครัวกระบี่
    ที่ประทับใจที่สุด ก็ที่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่  ฆ่ากันตายภายในครอบครัว ผู้ต้องหาคือตาพ่วง กับยายบิ้น ร่วมกันวางแผนฆ่าหลานตัวเอง คดีนี้ สภ.ปลายพระยา สรุปตอนแรก  เป็นการฆ่าภายในครอบครัว แต่จริงๆแล้ว ถูกฆาตกรรม  ระยะเวลาผ่านไปแล้ว 1 ปี

    เคสนั้นเขาร้องผ่านภูธรภาค 8 แต่ตอนนั้นผมลงไปทำงานที่ จ.สุราษฎร์ฯ  ลูกน้องเอาแฟ้มมาให้ดูว่าเคสนี้ ไม่น่าจะฆ่ากันเองภายในครอบครัว ก็เลยนำเรียน ผกก.ก็คือพี่ยนต์  
              
    จัดฉากอำมหิตฆ่าเด็ก
    เมื่อพี่ยนต์ ได้ดูข้อมูลแล้วน่าเชื่อว่ามีพยานหลักฐานตัวละครเพียงพอที่จะไปฟื้นคดีนี้ได้  เลยลงมาทำกัน ในระยะเวลา 1 เดือน จับกุมผู้ต้องหาได้

    มูลเหตุเกี่ยวกับเรื่อง แก้วที่เป็นหลานตาพ่วง หลานแท้ๆ มีที่ดิน สวนยางพารา  ส่วนตาพ่วง มีเมียใหม่ คือยายบิ้น ซึ่งยายบิ้นมีลูกติด แล้วยายบิ้น ละโมบ อยากจะได้ที่ดินส่วนนี้เลยวางแผนกับลูกชาย ยกทีมขึ้นไปฆ่า ก็ฟันด้วยมีดปาดตาล ฟันคอ แล้วยายบิ้นผสมยาพิษคลุกกับข้าวให้หลานกิน เด็ก 2-3 ขวบเอง

    พอเราได้ทำสำเร็จ  เกิดความภาคภูมิใจ เป็นการฟื้นคดีที่ผ่านมา 1 ปี ที่พนักงานสอบสวน สรุปสำนวนว่าเป็นการฆ่ากันตายในครอบครัว  ศาลพิพากษาประหารชีวิต ทั้งหมด ก็ดีใจที่มีส่วนร่วมได้เริ่มทำตั้งแต่แรก

    มาทันยุคมือปราบบิ๊กเนม
    ถามว่า ได้อะไรจากกองปราบ ผมชอบสโลแกนของกองปราบ เป็นที่พึ่งสุดท้าย  ผมมาอยู่ทันยุคนั้นพอดี ยุคนักสืบ สมัยนั้น นายวิน อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้การ  มีพี่แป๊ะ-จักรทิพย์ ชัยจินดา มีพี่แหม๋ว-รณศิลป์ ภู่สาระ มีพี่ช้าง-ชัยวัฒน์ เกตุวรขัย ครบเลย พี่ทิน-สุทิน ทรัพย์พ่วง เราก็ได้เรียนรู้ ตอนนั้นยศแค่ ร.ต.ท. พี่วีรพันธ์ ทันใจ อีก  พวกนี้เป็นอาจารย์

    ขึ้นสารวัตรปดส.ออกไปโตอีสาน
    อยู่กองปราบ 10 ปี  ขึ้น สว.ปดส.ตอนนั้นพี่ช้างเป็นผู้การ ปดส.คนที่ 2 ต่อจากพี่แจ๊ด-คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง แล้ว ย้ายไปอีสานไปเป็น สว.ป.บึงกาฬ จ.หนองคาย ตอนนั้นยังเป็นอำเภอ อยู่ 9 เดือน ย้ายไปเชียงยืน จ.มหาสารคาม 3 ปี

    กลับมาขึ้นผกก.นครบาล
    ขณะนั้น พี่อนุชัย เล็กบำรุง เป็น ผบช.ภ.4 ได้ไปขึ้น รอง ผกก.ป.ที่ร้อยเอ็ด อ.เสลภูมิ อยู่ที่ร้อยเอ็ด 2 ปี กลับมา บช.น. มาเป็น รอง ผกก.สส.สน.ลำผักชี ปี  59  อยู่ 2 ปี ไปเป็น รอง ผกก.สส.บช.น. ขึ้น ผกก.ที่หนองจอก ปี  61- 62  ปี  63- 64โยกไปเป็นผกก.สน.ลำผักชี คำสั่งนี้ก็มาเป็น ผกก.สืบ 3

    ย้อนคดีสร้างชื่อที่อีสาน
    จากกองปราบ ไปเป็นตำรวจโรงพักภูธร แล้วกลับมานครบาล  ต่างกัน ได้ประสบการณ์ คือ จากภูธร มานครบาล อยู่ภาค 4 รวม 6 ปี จาก สว.- รอง ผกก.แล้วมาอยู่นครบาล 5 ปี

    ตอนอยู่ภาค 4  ได้ประสบการณ์จากกองปราบ  ตอนนั้นเป็น สวป.มี 2 คดี ด้วยความที่เราเป็นนักสืบ ตอนอยู่ สภ.เชียงยืน ผมจับไม้พะยูงได้  หลายคันรถเลยเป็น สวป.แต่เราทำงานสืบสวนไปด้วย ก็จับได้

    ระทึกสกัดจับแก๊งค่าไถ่
    อีกเคสหนึ่ง ตอนนั้นเป็น สวป.เชียงยืน แต่มีเรียกค่าไถ่ที่ขอนแก่น ผู้ต้องหามี4 คน อุ้มเหยื่อเจ้าของเต็นท์รถขอนแก่น ขึ้นรถจะเอาไปลอยทิ้งน้ำที่เขื่อนลำปาว ทีนี้เขาขับผ่านพื้นที่ผมซึ่งติด จ.ขอนแก่น  ผบช.ภ.4คือ พล.ต.ท.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ก็รู้จักกับท่าน เราเป็นลูกน้องเก่าที่กองปราบฯ  เราฟัง ว.มันต้องผ่านเส้นทางเรา

    ด้วยความเป็น สวป.มีกำลัง มีตู้ยามตรงนั้น ก็วางแผนกับลูกน้อง พอขับรถผ่าน เราเห็นก็ขับตาม มีสืบภาค ตามมา ก็สกัดจับ  
               

    ยิงสนั่นรถคนร้ายติดหล่ม
    มีการยิงกันไปมา เขาก็มีปืน เราก็มีปืน ผมก็ยิงล้อจนรถเขาเสียหลัก ไปติดหล่มอยู่ไหล่ทาง เขต จ.กาฬสินธุ์ รถเขาไปไหนไม่ได้  ก็ล้อมกันหลายโรงพัก  มีสืบภาค 4  สุดท้ายแล้ว ยื้อกันไปจนถึงกลางคืน ผมก็ขึ้นไปกระจายเสียงให้มอบตัว คือประสานใคร เขาก็ไม่กล้าเข้า

    บุกชาร์จช่วยเหยื่อรอดตาย
    แต่ด้วยความใจเรา ผมก็เอาปืนไปบอกลูกน้อง เดี๋ยวกูเข้าไปเอง  มึงดูข้างหน้าไว้นะ ให้ผู้ต้องหามันรอมึงข้างหน้า ผมก็เข้าไปท้ายรถ เอาปืนทุบกระจกรถ จ่อหัวผู้ต้องหาบอกให้เปิดรถ

    เขาก็เอาไฟช็อตเหยื่อ ขู่บอกจะเอาให้ตายเลยๆ ผมก็เอาปืนทุบให้หยุด  พอเปิดรถได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาช่วยก็มาช่วยกันจับ ช่วยเหยื่อได้ เขาก็ไม่ตาย

    ประสบการณ์กองปราบล้วนๆ         
    เป็นอีกเคสหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกภาคภูมิใจตอนที่อยู่ภาค 4 ตอนเป็น สว.ตัวเล็กๆ ปี 2554-2555 ประมาณนั้น เป็น สวป.เชียงยืน จ.มหาสารคาม  ไปขึ้นศาล ญาติพี่น้องเขาก็ดีใจว่าเราช่วย เขารอดตาย เขาก็ว่าถ้าไม่ได้ สารวัตรช่วยวันนั้นก็ตาย โดนถ่วงน้ำแน่ เพราะเปิดดูกระบะหลัง ท้ายรถรถแวน  มีแต่หิน

    ตรงนั้นได้ประสบการณ์จากกองปราบที่อยู่มา 10 ปี พี่ยนต์พาไปจับคดีหลายคดี  รู้ยุทธวิธีต่างๆอย่างน้อย เรื่องความคิด เราเป็นนักสืบใจเราได้อยู่แล้ว

    จับยานรกจนได้โล่นายกฯ
    พอมานครบาลปีแรก ผมอยู่ปี 2559 รอง ผกก.สส.สน.ลำผักชี สมัยนั้น พี่เล็ก- ชัยพร พานิชอัตรา รอง ผบช.คุมดูแลยาเสพติด ก็ได้มาเป็นหัวหน้าชุดยา ตอนช่วงอยู่ลำผักชี

    ผมจับยาเยอะ จับจนขึ้นชาร์จของ บช.น.  จน ปปส.กทม. เสนอชื่อไปรับโล่ดีเด่นจากนายกรัฐมนตรี พอปี 2560 ก็ได้ขึ้น ผกก.หนองจอก  ไปอยู่หนองจอก ได้ปีที่ 2 ก็ได้ไปช่วยรักษาการ สน.ห้วยขวาง อยู่ช่วงหนึ่ง ช่วง พ.ค.-มิ.ย.61 แป็ปเดียว

    พิชิตแก๊งพิมพ์ดอลล่าร์เก๊
    ส่วนเคสแบงก์ดอลล่าร์  ที่ล่อซื้อจับกุมบิ๊กลอต มูลค่าความเสียหาย คิดเป็นเงินไทย 153 ล้านบาท ถ้าคิดเป็นเงินยูเอส ก็ 4.6 ล้านดอลล่าร์ เบื้องลึกจริงๆ แล้ว แบงก์ยูเอสปลอม ในประเทศไทย  จับกุมมา 40 กว่าครั้ง  ล่าสุดปี 2558 ที่เขตสายไหม ได้เงิน ได้ตัวปริ้นซ์เอกสารอะไรต่างๆ

    เคสใหญ่สุดในประเทศ
    ส่วนเคสที่ผมจับที่ผ่านมา ตัวแทนสถานทูตบอกว่าเป็นเคสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเท่าที่เคยจับมา ผมจับได้เงินจำนวนดังกล่าว พร้อมแท่นผลิต 13 แท่น จับผู้ร่วมขบวนการซึ่งเชื่อมโยงกับ แก๊งเดิม ปี 2558 ได้  ชุดนี้เป็นชุดที่กองปราบเคยจับ ตอนนั้นสาวไปไม่ถึงตัวการ ได้แต่ชื่อมาว่า ป๋าลี เป็นคนลาว แต่ได้หน้ามา

    พอปี2564 ผมจับได้  มันมีข่าวเข้ามา เลยไปล่อซื้อ 1 ล้านบาท ร้านอาหารในเขตลำผักชี  ตอนแรกจับได้ 2 คน เป็นทอม เขารับว่า เงินดอลล่าร์ได้มาจากผู้ต้องหาอีกคน ที่รอพักอยู่ที่อยุธนา

    เชื่อม ป๋าลี ตัวละครเก่าปี58
    ก็ได้มาอีกคนหนึ่ง สาวกันไปอีก รับว่ามีแท่นผลิตอยู่ที่บางเลนเลยตามไปยึดแท่นผลิตได้ 4 ตัว สุดท้ายแล้วซักปากคำ ก็ได้ชื่อป๋าลี อีก แต่คราวนี้เราได้ชื่อ ได้นามสกุล ได้อะไรทั้งหมด  เลยประสานสถานทูต ซีเคร็ทเซอร์วิส ให้มาดู เขาก็เอาข้อมูลนี้มาให้มันก็เชื่อมโยงกันเป๊ะ เลยออกหมายจับ ป๋าลี และ ช่างแม็ก ทีมงานอีกคนหนึ่ง  ก็ออกหมายจับคาไว้
               
    ประสาน ตร.วางแผนจับ
    วันที่จะไปจับป๋าลี กับช่างแม็ก ก็มีทีมงาน ชุด ตร.มาช่วยด้วย  วางแผนล่อซื้อเงินอีกล็อตหนึ่ง คืองานมันยังไม่แตก ก็คือล็อตแรก คือมันหน้าด้านมา เราก็จับ ผมยังพูดกับลูกน้อง มันไม่แตกก่อนเหรอ เคยโดนจับแล้ว

    คือล็อตแรกเราจับผู้ต้องหา มันพิมพ์ทั้งหมด 50,000 ฉบับ ทีนี้เราจับได้ 36,000 ฉบับหายไป 1.4 หมื่น ก็คิดว่า มันน่าจะอยู่ที่กระจายออกไป เลยล่อซื้อจะเอาหมื่นสี่ที่เหลือ  ทีนี้มันมาปั๊บ  ก็จับ  ป๋าลี แล้วก็ล่อซื้อได้อีกดอกหนึ่ง

    สรุปยึดแท่นผลิต 13แท่น
    ทีนี้ได้ตัวสำคัญเพิ่มเติมเข้ามา  คือ ผู้ต้องหาตัวที่เชื่อมโยงกับป๋าลี ตัวใหญ่พอๆ กันเลย ตอนนี้ออกหมายจับแล้ว แต่ยังจับไม่ได้ หนีไปอยู่เขมร เป็นคนไทย  สุดท้ายแล้วก็ไปค้นได้ที่เพชรบุรี   ค้นได้ที่ลำลูกกา เบ็ดเสร็จแล้ว 13 แท่น ตอนที่เราเข้าไปที่ลำลูกกา มันก็พยายามเผาทิ้ง  ถ้าเราเข้าไปทัน น่าจะได้อีกเยอะ  

    ผลิตไทยเอาไปใช้บ่อนเขมร
    จากข้อมูลที่ถามจากสายลับ มันเอาประเทศไทยเป็นฐานผลิต แต่เอาไปใช้ที่เขมร เอาไปแลกเป็นชิป เข้าบ่อนกาสิโน  ไปตรวจสอบกับธนาคาร ยืนยันว่าเหมือน ใช้ได้ประมาณ 95% มี 2 รุ่น รุ่นปี 2006 กับ รุ่น 2006 เอ

    งานโรงพัก-ชงขึ้นพีซีที
    นี่เป็นผลงานเริ่มต้นจากโรงพัก ส่วนตัวผมอยู่ในชุด พีซีที อยู่กับพี่ชัช-พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8อยู่แล้ว แล้วก็พี่เด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร.ก็เลยมาทำงาน

    เริ่มจากโรงพัก แล้วก็ชงขึ้นพีซีที เพราะว่าต้องใช้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้วย เรื่องเช็ค และกำลังพล ศักยภาพไม่พอ สายสืบรุ่นน้องผม มีแค่ 7 คน  

    ตั้งเป้าไว้ ว่า สืบ 3 ก็จะพิสูจน์ให้เห็น จะสร้างชื่อเสียงให้สืบ 3 บก.น.3  ผู้การ และ ผบช.น.  

    มุ่งมั่นตั้งใจมากตำรวจหนุ่มคนนี้ รอชมผลงานกันนะครับ

    กากีกลาย16/1/65

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments