ผบ.ตร.เซ็นย้ายขาด ผกก.สน.ห้วยขวาง แต่ยังให้ช่วยราชการ ศปก.เหมือนเดิม เพื่อเปิดทางคณะกรรมการสอบสวนดำเนินการเต็มที่ ย้ำหากหลักฐานเอี่ยวถึงใครฟันเด็ดขาดทั้งอาญา วินัย และปกครอง
วันที่ 1 ก.พ. 66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร.เปิดเผยถึง การย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง ว่า
“ เดิม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.มีคำสั่งด่วนให้ ผบช.น.สั่งการให้ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง มาช่วยราชการที่ ศปก.บช.น เป็นการลงโทษทางปกครองไปก่อนในฐานะที่เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด
ต่อมาถึงช่วงการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล พิจารณาแล้วเห็นว่า สมควรปรับย้ายข้าราชการตำรวจ เพื่อให้การรวบรวมพยานหลักฐานกรณีมีข้าราชการตำรวจในสังกัดสถานีตำรวจนครบาลหัวยขวางบางรายบกพร่องต่อการปฏิบัติหนัาที่และน่าสงสัยว่ากระทำความผิดทางวินัยหรืออาญา ตรงตามความเป็นจริงและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
จึงเสนอเปลี่ยนแปลงการแต่งตั้งดำรงตำแหน่ง จำนวน 2ราย มายัง ตร. และต่อมา ตร. ได้มีคำสั่งที่ 72/2566 ลงวันที่ 30 ม.ค.66 ให้ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง โยกไปเป็น ผกก.สน.หนองจอก โดยให้ พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ เป็น ผกก.สน.ห้วยขวาง แทน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2566 เป็นต้นไป
โฆษก ตร.กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
“ อย่างไรก็ตาม คำสั่งให้ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ช่วยราชการที่ ศปก.บช.น ยังอยู่ ยังคงให้มาช่วยราชการตามเดิม เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการสอบสวนเรื่องการเรียกรับเงินนักท่องเที่ยวไต้หวัน ทำงานอย่างเต็มที่ รวดเร็ว เป็นอิสระ ตรงความเป็นจริง เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยไม่ให้มีข้าราชการตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน
ซึ่งการลงโทษ พ.ต.อ.ยิ่งยศ ในส่วนนี้เป็นการลงโทษทางปกครอง แต่หากผลการสอบสวนของคณะกรรมการออกมาว่ามีความผิดเพิ่มเติม จะดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไปอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำกำชับไปยังคณะกรรมการสอบสวนว่า หากพยานหลักฐานสาวถึงใคร ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกราย ทั้งการดำเนินคดีอาญา วินัย และปกครอง เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก”