ชุดสืบยกเลิกบินไต้หวัน หลัง “อัน หยู ฉิง” กลับลำไม่ให้ความร่วมมือตำรวจไทยแล้ว คุม 6ตำรวจห้วยขวางรีดทรัพย์นทท.ส่งศาลอาญาคดีทุจริตฯดำเนิคดี2ข้อหา 157และ149
กรณีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันได้ลงข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ว่าได้นั่งรถยนต์โดยสารสาธารณะกับเพื่อนเพื่อเดินทางกลับโรงแรม ระหว่างท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ของวันที่ 5 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 02.00 น.และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจหน้าสถานทูตจีนประจำประเทศไทย บริเวณ ถนนรัชดาภิเษกแขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ ได้เรียกตรวจค้นและพบว่ามีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในความครอบครอง เรียกรับเงินสด 27,000 บาท แล้วปล่อยตัวแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย นั้น
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.และ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น. 1 สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ปรากฎข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยละเอียด เพื่อตอบข้อสงสัยและประเด็นต่างๆ ที่สังคมให้ความสนใจ
ต่อมาในวันที่ 2 ก.พ.66 เวลา 10.00 น. คณะพนักงานสอบสวน ตามคำสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ที่ 29/2566 ลงวันที่ 30 มกราคม 2566 ได้แจ้งข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ทั้ง 6 นายดังนี้
ร.ต.อ.ยอดฤทธิ์ฯ รอง สวป.สน.ห้วยขวาง ร.ต.อ.ปฏิภาณฯ รอง สว.ธร.สนห้วยขวาง ปฏิบัติหน้าที่ รอง สวป.สน.ห้วยขวาง ด.ต.กฤษฎาฯ ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง ส.ต.อ.เฉลิมชัยฯผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง ส.ต.อ.วัชรนนท์ฯผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง ส.ต.อ.นันทวัชร์ฯผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง
โดยถูกกล่าวหาว่า “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” อันเป็นความผิดตามมาตรา 149 , 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นาย ได้รับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว ณ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในชั้นสอบสวนทั้ง 6 นาย ให้การปฏิเสธตลอด ข้อกล่าวหา
คณะพนักงานสอบสวน จะได้ดำเนินการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 นาย จากนั้นจะได้ควบคุมตัวนำส่งศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง เขตตลิ่งชั่น กรุงเทพฯ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ชุดสืบสวนนครบาล ยกเลิกการเดินทางไปไต้หวัน เพราะน.ส.อัลหยูฉิง ได้ประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ไม่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยแล้ว แต่ทั้งนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการสอบสวน เพราะผู้เสียหายตัวจริงคือ นายสกาย ชาวสิงคโปร์ ที่เป็นคนจ่ายเงินให้ตำรวจ27,000บาท และมีวงจรปิดเป็นหลักฐาน