หลังกลับจากรับใช้ชาติในกีฬา “เอเซีย สกูล เกมส์” ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 60 ที่ผ่านมา ผมให้ลูกชายพักร่างกาย 1-2 วันก็เร่ิมเข้าสู่โหมดของการฝึกซ้อมพัฒนาฝีมือกันต่อไปครับ และถือเป็นความโชคดีอย่างมากที่ช่วงนี้มีโอกาสได้ซ้อมกับมือโปรระดับโลกอย่าง “ซุปเปอร์บอล” ภราดร ศรีชาพันธุ์” อดีตมือ 9 เอทีพี และตำนานนักหวดตลอดกาลของไทยที่หันเข้าสู่วงการลูกสักหลานอีกครั้งด้วยการเปิด “Paradorn International Tennis Academy”
“Paradorn International Tennis Academy” เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นานครับ หลังจากซุปเปอร์บอลใช้เวลาหลังรีไทร์จากคอร์ตเทนนิสที่อยู่กับมันมาทั้งชีวิตตั้งแต่เด็ก ไปลองแข่งบิ๊กไบค์และเล่นกอล์ฟ เท่าที่ตามข่าวผมว่าพี่บอลทำได้ดีเช่นกัน หลังจากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากมาได้สักระยะหนึ่ง ก็ถึงเวลาหวนกลับเข้าสู่วงการเทนนิสที่ตัวเองถนัดและเชี่ยวชาญด้วยบทบาทของการเป็นโค้ชครับ เพื่อเป้าหมายในการปลุกปั้นเยาวชนไทยให้ก้าวขึ้นไปติดระดับโลก หลังว่างเว้นกันมานานมากแล้ว
ผมเองติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวอคาเดมีของพี่บอลมาตลอดครับ บอกตรงๆว่านี่แหละมันคือจุดเร่ิมต้นความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง คิดอยู่เสมอว่าหากเป็นไปได้ก็อยากให้ลูกเข้าไปฝึกซ้อมด้วย เพราะไหนๆ เราก็ตั้งเป้าอยากไปเล่นเทนนิสอาชีพอยู่แล้ว ก็ต้องอาศัยในรูปแบบของมืออาชีพเข้ามาช่วยขัดเกลา เสริมทักษะ เทคนิค และแท็กติค รวมถึงมุมมองทัศนคติให้กับนักกีฬาเพ่ือยกระดับและก้าวกระโดดไปสู่จุดมุ่งหมายให้ได้ ถึงแม้เส้นทางมันจะยากเย็นแสนเข็ญแค่ไหนก็ตาม
จริงๆแล้วลูกชายผมเคยมีโอกาสฝึกซ้อมกับภราดรช่วงสั้นๆ มาครั้งหนึ่งแล้วครับเมื่อราว 2 ปีก่อน ช่วงนั้นพี่บอลกำลังหันไปเล่นกอล์ฟครับ แต่ยังสละเวลาอันมีค่ามาสอนน้องๆ ขณะนั้นเราไปกันประมาณ 3-4 คนและมีผู้ใหญ่ใจบุญชักชวนไป โดยไปซ้อมกันที่สนามพัทยาบ้านของพี่บอลเองครับ ยอมรับว่าการฝึกซ้อมแม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ลูกชายผมมีความทะเยอทะยานกลับมามุ่งมั่นเพ่ิมอีกทวีคุณ
ความประทับใจที่ได้ฝึกซ้อมกับนักหวดชั้นนำของโลกในครั้งนั้น มันอยู่ในความทรงจำผมมาตลอด และเมื่อ
ซุปเปอร์บอลมาทำอคาเดมี นำประสบการณ์ที่สะสมมาตลอดของการเล่นเทนนิสมาถ่ายทอดให้ลูกศิษย์รุ่นหลังๆ และชักชวนลูกชายผมไปร่วมแจมฝึกซ้อมกับทีมงาน “Paradorn International Tennis Academy” และต้องขอขอบคุณพี่บอล และสต๊าฟโค้ช ที่เมตตานักหวดเยาวชนต้นทุนต่ำอย่างลูกชายผมครับ ถึงแม้การฝึกซ้อมจะไม่ใช่แบบฟูลไทม์ แต่อย่างน้อยๆ มันจะเป็นแรงผลักดันให้หัวใจพองโตว่ิงชนเป้าหมายในวันข้างหน้า
และหลังฝึกซ้อมแบบเข้มข้นมาตลอด 2 สัปดาห์ บททดสอบด่านต่อไปก็คือรายการไอทีเอฟประเทศจีนครับ วีคแรกเป็นระดับเกรด 3 ที่เมืองกวางโจว ช่วงระหว่งวันที่ 19-23 ก.ย.60 ต่อด้วยเกรด 2 ที่ปักกิ่ง วันที่ 26-30 ก.ย.60 หนนี้เป็นเที่ยวที่สามบนแผ่นดินมังกรแล้วครับ ก็หวังอยู่ลึกๆว่าจะทำผลงานให้ดีกว่าสองครั้งแรก แต่ก็ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องเท่านั้นเท่านี้ ขอแค่เล่นแล้วมีความสุขกับการแข่งขันและเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาปรับปรุงพัฒนาตัวเองก็ถือว่าโอเคแล้วครับ
———————————————– เดอะวินเนอร์
