“ผบช.ภ.2″นำกำลังเปิดปฏิบัติการ 6 จุด ทลายเครือข่าย หยาง จือกัว กลุ่มทุนเครือข่ายยาเสพติดแฮปปี้วอเตอร์ ตรวจยึดทรัพย์กว่า 50 ล้าน
เช้าวันที่16 ธ.ค.65 ที่ บช.ภ.2 พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รอง ผบช.ภ.2, และโฆษก ภ.2 เปิดเผยว่า จากปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด(แฮปปวี้ อเตอร์) ในสถานบริการ เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 23 ต.ค.65 เจ้าหน้าที่ตํารวจ บก.สส.ภ.2 และฝ่ายปกครอง เข้าจับกุมสถานบริการชื่อ “คลับวัน” พบกลุ่ม นักเที่ยวหลบหนี และทิ้งยาเสพติดไว้เกลื่อนพื้นจํานวนมาก
พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 สั่งการให้ขยายผลกลุ่มผู้เสพและเครือข่ายที่นํายาเสพติดมาจําหน่ายในสถานบริการ โดยนําประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาดําเนินการ
ตํารวจ บก.สส.ภ.2 , ภ.จว.ชลบุรี และ เจ้าหน้าที่ ปปส.ภ.2 ภายใต้การอํานวยการ ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี , พล.ต.ต.ธีระชัย ชํานาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 , พ.ต.อ.วราวธุ เจริญชนม์ รอง ผบก.สส.ภ.2 ,พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา รอง ผบก.สส.ภ.2 ,
พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ปรก.รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.มาโนต หวังสู้ศึก ผกก.สส.1 บก.สส.ภ. 2 , พ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย ผกก.สืบสวน 2 , พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ประชาชัยศรี ผกก.สืบสวน 3 , พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดี่ยวข้อง
ร่วมกันนําหมายค้นเข้าตรวจค้นเพื่อจับกุม นายหยาง จือกัว หมายเลขหนังสือเดินทาง EG9892507 ชาวจีน ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ลง 30 พ.ย.2565 ข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดในข้อหาจําหน่ายโดยการร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาทประเภท 1 (คีตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจําหน่ายและเป็นการกระทําเพื่อการค้าและได้มีการกระทําความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบ ”
และข้อหา “ รับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทํา ความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อประโยชน์ หรือให้ความสะดวกแก่การกระทําความผิดหรือเพื่อมิให้ผู้กระทําความผิด ร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดถูกลงโทษ ”
พล.ต.ท.อิทธิพลฯ ผบช.ภ.2 กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนทราบว่า นายหยาง จือกัว นําเงินที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด มาซื้อบ้านเลขที่ 222/112 และ 222/156 หมู่บ้านสิริสา 16 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี เปิดเป็นบริษัท ซีแอนด์ เอฟ 112 พร๊อพเพอร์ตี้ จํากัด และบริษัทลัคกี้ หยาง จํากัด พร้อมแจ้งว่าประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ฯ แต่ไม่พบการประกอบธุรกิจตามที่แจ้ง
และยังพบว่า นําเงินไปลงทุนในธุรกิจห้อง KTV (ห้องคาราโอเกะ) กับนายนิติพัฒน์ หรือเอี๋ยว โชคชัยธนพร เจ้าของ “โบนผับ พัทยา” และ “คลับวัน” โดยจะรับนักท่องเที่ยวเฉพาะชาวจีนมาจัดปาร์ตี้ยาเสพติด ต่อมาถูกตํารวจเข้าจับกุมสถานบริการ “โบนผับ” หลายครั้ง
โดยเฉพาะ ปี 2563 ตํารวจได้จับกมุ นายเจษฎาฯ หรือแจ็ค สุทธิจันทรา กับพวก รวม 44 คน จัดปาร์ตี้เสพยา เสพติด (แฮปปี้วอเตอร์) ส่งดําเนินคดี สภ.พัทยา ในการจับกุมครั้งนั้น นายเจษฎาฯ หรือแจ็ค รับว่าผสมยาเสพติดแฮปปี้ วอเตอร์ ให้กับนายนิติพัฒน์ฯ หรือเอี๋ยว นําไปจําหน่ายในสถานบริการ “โบนผับ”
ต่อมาศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ นายนิติพัฒน์ฯ หรือเอี๋ยว กับพวก เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้จับกุมนายนิติพัฒน์ฯ หรือเอี๋ยว กับพวก และได้ตรวจยึดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวเนื่องกับการค้ายาเสพติด รวมมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท ส่ง ปปส. และ ปปง. ดําเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสืบสวนขยายผลต่อเนื่อง พบว่านายหยาง จือกัว เป็นนายทุนให้กับนายนิติพัฒน์ฯ หรือเอี๋ยว นํายาเสพ ติดแฮปปี้วอเตอร์ ไปจําหน่ายในสถานบริการ “โบนผับ” และนํารายได้มาแบ่งกัน
เจ้าหน้าที่ตํารวจ บก.สส.ภ.2, ศอ.ปส.ภ.2 และ สภ.เมืองพัทยา ได้รวบรวมพยานหลักฐานดําเนินคดีกับนายหยาง จือกัว ต่อมาศาลจังหวัดพัทยาได้อนุมัติหมายจับ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2565 ในข้อหา “สมคบฯ” (วันที่ 1 ธ.ค.65 เลขาธิการ ปปส.มีหนังสือที่ 7415/2565 ให้อายัดทรัพย์สินชั่วคราว นายหยาง จือกัว )
ต่อมาวันนี้ เจ้าหน้าที่ตํารวจพร้อม เจ้าหน้าที่ ปปส.ภ.2 เปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุม และยึดทรัพย์ฯ เครือข่ายนายหยาง จือกัว จํานวน 6 จุด ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี 5 จุด ,กรุงเทพฯ 1 จุด
ตรวจยึด
1. บ้านเลขที่ 222/112 พร้อมที่ดิน 80 ตรว. หมู่บ้านสิริสา 16 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี เปิดเป็นบริษัท ซี แอนด์ เอฟ 112 พร๊อพเพอร์ตี้ จํากัด มูลค่าประมาณ 20,000,000 บาท
2. บ้านเลขที่ 222/156 พร้อมที่ดิน หมู่บ้านสิริสา 16 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี เปิดเป็นบริษัท บริษัทลัคกี้ หยาง 2021 จํากัด มูลค่าประมาณ 10,000,000 บาท
3. อายัดเงินในบัญชีวน 2 บัญชี ยอดเงิน 14 ล้านบาทเศษ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึด/อายัด รวมทั้งหมด มูลค่าประมาณ 50,000,000 บาท ” ผบช.ภ.2 กล่าว”
