พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางไปตรวจเยี่ยม ข้าราชการตำรวจและนักเรียนนายร้อยตำรวจ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
บรรยายพิเศษให้แก่นักเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.) ทั้ง 4 ชั้นปี (รุ่นที่ 73-76) จำนวนทั้งสิ้น 952 นาย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ปลูกฝังนักเรียนนายร้อยตำรวจ ทั้ง 4 ชั้นปี ให้มีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ต่อกิจการตำรวจไทย
พร้อมน้อมนำพระราชดำริ โครงการจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” มาปรับใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิต ให้มีจิตสาธารณะ ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม
ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน
นอกจากนี้ ยังถ่ายทอดประสบการณ์ในการทำงานของ ผบ.ตร. ทั้งฝ่ายบู๊ และฝ่ายบุ๋น ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์นักสืบ มือปราบคลี่คลายคดีสำคัญ ที่สั่งสมมานานกว่า 40 ปี
อาทิ การคลี่คลายคดีระเบิดป่วนเมือง , การสางคดีเหตุอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ คดียาเสพติด
ตลอดจน การสร้างจิตสำนึกของการเป็นตำรวจที่ดี ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการกระทำความผิด ยาเสพติด อบายมุขต่างๆ หรือ การใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
รวมไปถึงการบ่มเพาะให้นักเรียนนายร้อยตำรวจ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ความประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัย
หมั่นศึกษาหาความรู้ พัฒนาตนเองอยู่เสมอ ไปจนถึงการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย เพื่อรับใช้ประชาชน
รวมถึงการดำรงตนเป็นที่พึ่งของประชาชน ยึดมั่นในอุดมคติตำรวจ ให้มีความรักใคร่ สามัคคีกลมเกลียวกันในหมู่คณะ
อีกทั้งยัง เน้นย้ำ หากเมื่อจบไปปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็น งานสอบสวน งานสืบสวน งานป้องกันปราบปราม และ งานจราจร
ให้เน้นการบริการประชาชน เสร็จสิ้น ณ จุดเดียว (One Stop Service) โดยเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะสนับสนุน เครื่องมือ ยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยี ในการทำงานอย่างเต็มที่
การตรวจสอบของภาคประชาชน การใช้สื่อสังคมออนไลน์ ที่เข้ามามีบทบาทมากในยุคปัจจุบัน ซึ่งชี้นำทิศทางของตำรวจในอนาคต ต้องเก่งกว่าคนร้าย
เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยี และการใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อใช้ในการสื่อสาร และต่อยอดไปยังภาษาอื่นๆ เพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์ อันมีความสำคัญต่อการรับราชการในอนาคต ซึ่งเป็นความห่วงใยของพี่ที่มีต่อน้อง
ประกอบกับการให้นโยบายบริหารราชการและวิสัยทัศน์ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้ง 6 ประการ อันได้แก่
1.การพิทักษ์ปกป้องและเทิดพระเกียรติเพื่อความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์, 2.การรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยในสังคม, 3.การป้องกันปราบปรามและลดระดับอาชญากรรม,
4.การแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ, 5.การเร่งรัดขับเคลื่อนปฏิรูปองค์กรตำรวจในยุคประชาคมอาเซียน และ 6.การเสริมสร้างความสามัคคีและการบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจ
การนำหลักการความเป็นผู้นำ เรื่อง “การครองตน ครองคน ครองงาน” คือ 1.ต้องเป็นแกนแห่งความสามัคคี 2.ต้องชี้นำทิศทางที่ถูกต้องแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อบรรลุถึงเป้าหมาย ภายใต้หลักกฎหมายและจริยธรรมตำรวจ
คำนึงถึงภาพลักษณ์และศักดิ์ศรีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจน ปลูกฝังจิตสำนึกให้ช่วยกันสืบทอดเจตนารมย์ คุณงามความดีที่ตำรวจ ได้สั่งสมมาในอดีตในการพิทักษ์รับใช้ประชาชน
สามารถตอบโจทย์สังคมให้ได้ว่า แล้วประชาชนจะได้อะไร เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปตำรวจในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุด