พี่อู๊ด-พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี เป็นคนทำให้ผมเริ่มรู้จักการทำข่าวสืบสวน งานข่าวเดี่ยวตีหัวชาวบ้านครั้งแรก จากคดีฆ่าข่มขืนสาวที่สระว่ายน้ำในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซอยเสนาฯเมื่อเกือบ 30 กว่าปีก่อน สมัยนั้นพี่อู๊ดเป็น สว.ผ.1กก.สส.น.เหนือ หลังแกเดินมาสะกิดผม ตำรวจท้องที่หลงทาง
รู้จักงานข่าววิสามัญฆาตกรรม เมื่อพี่เขาบอกมีหมายข่าว สะดวกทำข่าวตรงไหน ผมพูดไปเรื่อยประสาเด็กหนุ่ม หลังโรงพิมพ์ผมครับ สองทุ่มวันนั้น มีคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต หลังยิงสู้กับตำรวจสืบสวนเหนือ นำโดย พ.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี หลังหมอชิตเก่า ประตูหลังนสพ.ไทยรัฐ
มีอยู่วัน ผมเข้าไปหาข่าวในกองสืบ เห็นเนื้อตัว เห็นแขนพี่เขาเป็นแผลหมูแดง แกบอกเพิ่งไปตามจับคนร้ายรายหนึ่ง แต่มันขับรถหนีไปได้ แต่อีกไม่นาน ไอ้โจรคนนี้ ถูกพี่เขาวิสามัญฆาตกรรมในภายหลัง
พูดก็พูด ชีวิตผมตอนนี้ ไม่รู้จะออกหัวออกก้อย ถ้าหากวันนั้น ตอบตกลงไปเป็นตำรวจ ตามที่พี่อู๊ดเอ่ยปากชวน
ถึงสุดท้ายไม่ได้ไปเป็นตำรวจ ยังเป็นนักข่าวอาชญากรรม แต่ที่แน่ๆ พี่เขามีความหวังดี เอ็นดูผมมาตลอดจนถึงบัดนี้ และมีสตอรี่อีกหลายเรื่อง ที่อยู่ในความทรงจำของผม
วันนี้เรามาอ่านเรื่องที่ได้สัมภาษณ์พี่อู๊ด เรืองปืนคู่ใจเมื่อครั้งเป็นผู้การ บก.ส.2บช.ส. ให้เข้ากับสถานการณ์ ปืนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดซื้อราคาถูกให้กับกำลังพลกันครับ
เขี้ยวเล็บมือปราบ
โรนิน
วงการเพลงเพื่อชีวิตมี “น้าหงา-สุรชัย จันทิมาธร”เป็นอาจารย์ใหญ่ฉันใด ในยุทธจักรตำรวจชั่วโมงนี้ ต้องมี “บิ๊กอู๊ด-พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี”เป็นอาจารย์ใหญ่ฉันนั้น
ผู้การอู๊ด เป็น 1 ในตำนานสืบเหนืออันลือลั่น เป็นลูกหม้อนครบาลขนานแท้ แต่ชะตาชีวิตต้องมาพลัดถิ่นติดยศนายพลนอกหน่วย ที่ ตม. ณ ตอนนี้เป็นผู้การสันติบาล 2 งานหลักคือรับผิดชอบปราบปรามผู้ก่อการร้ายต่างชาติ
แม้เติบโตไม่ทันเพื่อนร่วมรุ่น นรต. 30 อย่าง พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. แต่ฝีไม้ลายมือในการสืบสวนไม่มีทิ้งห่าง ชนิดเฉือนกันไม่ลง แถมมีลูกศิษย์ลูกหาเป็นนายตำรวจนักสืบเกือบจะพันคนแล้ว
ทั้งยังเป็นเจ้าตำรับการสืบสวนแบบ Command And Control Operations Center (CCOC )หรือศูนย์ปฏิบัติการสั่งการและควบคุมการสืบสวนคดีสำคัญ
จัดเป็นนายตำรวจที่ผ่านการหลักสูตรจากประเทศสหรัฐอเมริกามากที่สุด อาทิ หลักสูตรการสืบสวนหลังเหตุระเบิด หลักสูตรการเจรจาต่อรอง หลักสูตรต่อต้านคนร้ายสากล หลักสูตร Officer Survival Tactics ( OST) หรือเทคนิคในการรอดพ้นภยันตรายจากการปฏิบัติหน้าที่
ถามถึงเขี้ยวเล็บติดตัว ผู้การอู๊ดบอก หลังจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ใช้ลูกโม่ .357 แต่หลังๆเปลี่ยนมาเป็นปืนออโตเมติก เพราะลูกเยอะ อีกทั้งเหมาะกับการต่อสู้ในระยะประชิด
ตอนนี้ ใช้ SIG SAUER รุ่น P229 ขนาด 9 มม.พร้อมหยิบปืนออโตเมติก เมดอินเยอรมัน ที่อยู่ในซองปืนสะพายไหล่สีน้ำตาล ยี่ห้อ GALCO ออกมาให้ชม
ผู้การอู๊ดบอกถึงเหตุที่มาใช้ปืนรุ่นนี้ว่า ช่วงไปฝึกหลักสูตร ชุดตอบโต้วิกฤติการณ์ Crisis Responset Team (CRT) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1999 ตอนนั้นท่านวรรณรัตน์ คชรักษ์ เป็น ผบช.น.ส่งไปฝึก เพื่อกลับมาอบรมนักสืบในกองสืบต่างๆคู่กับการวางแผน โดยเฉพาะเรื่องของการช่วยตัวประกัน
6 อาทิตย์ที่ต้องฝึก เขาให้ใช้ปืน SIG SAUER ตลอด จากการสังเกตปืนรุ่นนี้ขณะฝึก นับว่าทนทาน รักษาง่าย ยิงแน่น ไม่มีขัดลำ น้ำหนักพอเหมาะ ยิงดับเบิลแท็บได้ดี ระบบเซฟตี้มีความปลอดภัยสูง
อีกอย่างปืนรุ่นนี้ ชุดปฎิบัติการพิเศษใช้กันเยอะ พอกลับมาเลยซื้อมาใช้ประจำตัวตั้งแต่นั้น โดยใช้คู่กับปืน MP5 หากมีภารกิจในการล้อมจับคนร้าย
หลักๆในการใช้ปืน อาจารย์ใหญ่นักสืบบอก ให้คิดว่าปืนมีลูกอยู่ในลำกล้องเสมอ และอย่าชี้ปืนไปที่คน ผู้ปกครองที่มีปืนอยู่ในความครอบครอง ต้องสอนเด็กให้รู้ ปืนอันตรายแค่ไหน อย่างไร เมื่อเด็กรู้จะไม่ไปจับ ดีกว่าปิด ๆเปิด ๆ
ผู้การอู๊ดบอกถึงการเลือกใช้ปืนในหมู่นักสืบด้วยว่า ให้เลือกใช้ตามความชอบของแต่ละคน ฝึกให้เชี่ยวชาญและชำนาญ อย่าไปซื้อตามเพื่อน
เกษียณอายุราชการ ตำแหน่ง รองผบช.สตม.
ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษา ผู้ว่า กทม.(พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง)
