Saturday, October 5, 2024
More
    Homeท่องปทุมวันการพบกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

    การพบกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

    เรื่องเล่าจากสภ.เสาหิน(1) ว่ากันถึงความเป็นมาของโรงพักในป่าเขาดงดอยแห่งแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน สุดชายแดนไทย-พม่า

    วันนี้มาว่าต่อกันครับ เรื่องเล่าจาก สภ.เสาหิน(2) โรงพักอันซีนที่สุดในประเทศ มีพ.ต.ท.วิทวัส เพ็ชรรักษ์ เป็นสารวัตรหัวหน้าโรงพัก ควบคุมกำลังพลรวมกันแล้ว 17 คน

    ดูแลพื้นที่ 6 หมู่บ้านในป่าเขา 400 ตารางกิโลเมตร ที่เส้นทางจัดว่ามหาโหดสมราคาเบี้ยทุรกันดาร 1เดียวโรงพักของแม่ฮ่องสอน

    กำลังพล 17 นายที่ว่า หมวดแอ้ม-ร.ต.ท.อชิร กรุงริรันดร์ รองสว.(ป.) วัยย่างเข้า 56 เป็นนายตำรวจที่อยู่โรงพักนี้นานกว่าใคร คืออยู่ตั้งแต่ปี 2529 หรืออยู่เสาหินมา 34 ปี เกินครึ่งชีวิตแล้ว

    เจ้าตัวเล่าว่า เป็นคน จ.ลำพูน  สอบเข้าตำรวจที่โรงเรียนตำรวจภูธร จ.ลำปาง ห้างฉัตร   เรียนจบรับราชการครั้งแรกที่ สภ.แม่สะเรียง เมื่อปี 2527  พร้อมเพื่อน 3นาย ตอนหลังเพื่อนคนหนึ่งย้ายกลับ อีกคนเสียชีวิต

    “เหลือผมที่ตอนนั้นยังไม่มีครอบครัว ทีนี้ตำรวจ สภ.เสาหิน ชุดก่อนๆที่มีครอบครัวแล้ว บางคนบ้านอยู่กันไกลๆ เลยทำหนังสือไปที่กองกำกับแม่ฮ่องสอนขอกลับภูมิลำเนา”
                   
    ทีนี้กองกำกับเขาพิจารณาคัดหนุ่มโสดขึ้นมาสับเปลี่ยนแทน 1ในนั้นมีผมด้วย ก็เดินกันมา ลำบากมาก เดินมาจากแม่สุ มาทางแม่หละหลวง เดินตั้งแต่ตี 5 มาถึงนี่ 6โมงกว่าตอนขึ้นมา ก.พ.2529

    แต่ก่อนหน้าตอนบรรจุแม่สะเรียงใหม่ๆ มีตำรวจ สภ.เสาหินหายสาบสูญไป 1นาย ผมขึ้นมาพร้อมชุดค้นหา 11 นาย  ตอนนี้ยังไม่พบตัว

    ตอนขึ้นมาครั้งแรก มีโรงพักหลังเก่าอยู่หลังเดียว ก็ได้นอนที่นั่น ตอนนั้นทั้งโคลน ทั้งฝุ่น เยอะแยะ  คอมแบทใส่ไม่ได้ต้องใส่ผ้าใบเพราะต้องเดินลุยข้ามน้ำ มานอนที่โรงพักเก่าอยู่ 2 คืน ออกไปในทางชุดที่เขาหายไปตามเส้นทาง  ไปจนถึงห้วยกงเปาะ ใกล้ๆ แม่หละหลวงแต่ไม่เจอ

    แล้วพอปี 2529 คำสั่งออก ที่ว่าให้เอาหนุ่มโสดมาแทนผมก็เลยขึ้นมา โรงพักหลังที่ 2 สร้างเสร็จแล้ว ก็อยู่มาตั้งแต่นั้น

    พื้นที่รับผิดชอบมี 6 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1 เสาหิน หมู่ 2 ก็คือแม่เหลอ หมู่ 3 แม่สอง หมู่ 4 แม่เจ หมู่ 5โพ หมู่ 6 ก็คือบ้านสล่าเชียงตอง และหมู่บ้านบริวารอีกหลายหมู่บ้าน  

    คดีอาชญากรรมไม่สูง โดยมากจะเป็นเรื่องยาเสพติดเล็กๆ น้อยๆ แต่เราดูแลกันได้ ควบคุมได้ในส่วนหนึ่ง

    ส่วนคดีเกี่ยวกับทะเลาะวิวาท ส่วนมากเป็นเรื่องในครอบครัว เราก็ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรง  แทบจะเป็นเขตปลอดคดีด้วยซ้ำ

    ส่วนบุคคลภายนอกที่เข้ามาในพื้นที่ ถ้าเป็นพวกนักศึกษาจะมาพักค้างแรม   ก็มีสถานที่ให้กางเต็นท์ กลางสนาม หรือที่ลานก็ได้ หรือใครจะนอนที่อาคารหรือที่โรงพักตรงนี้ก็ได้

    แล้วแนวเพื่อนบ้านฝั่งเมียนมา ห้วยทราย เป็นเขตติดต่อ ก็ไปมาหาสู่ ส่วนมากจะคุ้นเคยกันดี ชายแดนห่างโรงพักประมาณ3 กิโลเมตร

    ผมชอบบรรยากาศที่เสาหิน ที่นี่สงบ ชาวบ้านให้ความเป็นกันเอง รักพวกเราเหมือนลูกเหมือนหลาน เขาจะไม่เรียกหมวด เขาจะไม่เรียกจ่า เขาจะเรียก พี่เขย น้าเขยบ้าง

    สุดท้ายผมมาได้แฟนที่สล่าเชียงตองเมื่อปี 2537 ต่อมาเขาเสียชีวิต ทางนี้เขาเห็นผมซึมเศร้ากลัวจะฆ่าตัวตาย เลยแนะนำหลานให้

    พอเห็นครั้งแรกก็รัก เพราะดูเขาขยันดูแลเราดี  เลยตัดสินใจแต่งงานกับเขา อายุห่างกัน 17 ปีก็เป็นญาติกันกับคนที่เสีย

    ตอนนี้ก็ให้เขากับลูกลงไปอยู่แม่สะเรียง ส่วนผมก็ขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ ถึงเวลาพักจะลงไปอยู่กับครอบครัว  ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันกันดาร ลำบาก กลับผูกพันที่นี่มากกว่าที่อื่นด้วยซ้ำ

    กับคำถามที่ว่าอยู่เสาหินมานาน    อยากให้ผู้บังคับบัญชาทราบความต้องการของตำรวจที่นี่คืออะไร หมวดแอ้มบอกว่า

    อยากได้เกี่ยวกับกระแสไฟฟ้า เพราะว่าแผงโซล่าเซลล์ที่ใช้ตอนนี้ก็ไม่พอ อีกอย่างรถที่ตอนนี้ใช้ก็เป็นรถเช่า 2 คัน

    คือทางเข้ามาเสาหิน หนทางลำบาก บางทีรถต้องใช้โฟร์วิล ถ้าหน้าฝนจะเดินทางไม่ได้ แม้แต่โฟร์วิล ถ้าน้ำป่ามายังไปไม่ได้ ปีก่อนก็ไปแล้วคันหนึ่ง
                   

    อยากให้ผู้บังคับบัญชา ดูแลเรื่องรถราม้าใช้  กระแสไฟฟ้า หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกอะไรพวกนี้

    ตำรวจในเสาหิน ผมดูแล้ว พวกเรามีความสุข อยู่กันได้ จะมีบางนายที่อาจจะถูกคำสั่งจากที่อื่นมา แล้วต้องอยู่ 3 ปี ถึงมีสิทธิ์ทำเรื่องย้ายกลับ

    แต่สำหรับผม จะขอเกษียณที่โรงพักเสาหินนี่เลย
                   
    ขอฝากสื่อช่วยประชาสัมพันธ์ ช่วงหน้าแล้ง ฤดูหนาว อยากเชิญชวนให้มาร่วมบริจาคสิ่งของให้กับพี่น้องชาวบ้านของเสาหินที่ส่วนใหญ่ยากจนมาก

    น่าจะประมาณ 500 กว่า แต่ถ้ารวมทั้งเขตรับผิดชอบทั้งหมดรู้สึกว่าน่าจะประมาณ 3,000 กว่า ถึง 4,000 ครอบครัว เพราะมีหลายหมู่บ้าน
                   
    ฟังตำรวจวัยใกล้เกษียณฯที่อยู่มาเกินครึ่งชีวิต  มาดูความรู้สึกตำรวจหนุ่มที่เพิ่งจบจากโรงเรียนนายสิบตำรวจ เพิ่งบรรจุมาอยู่ที่ สภ.เสาหิน แห่งนี้บ้าง

    หมู่ติ๊ก-ส.ต.ต.วงศธร ใจอ้าย ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม  น้องเล็กของโรงพักเสาหิน อายุเพียง21 ปี

    “ผมป็นคนเชียงใหม่ อ.สันกำแพง มาเป็นตำรวจเพราะทีแรกเรียนจบ ม.6 โรงเรียนสันกำแพง ก็เข้ามหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่”

    แล้วโรงเรียนตำรวจภูธรภาค 5 เปิดสอบตำรวจสายปราบปรามพอดี ก็เลยมาลองสอบ เพราะเพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เทอมเดียว  ก็สอบได้ เลือกบรรจุที่ สภ.เสาหิน เมื่อ ต.ค.62 

    แรกๆก็ไม่รู้ว่าที่ สภ.เสาหิน เป็นยังไง ก็เปิดดูจากยูทูป แม่ก็ไม่อยากให้มา แต่ผมคิดว่ามาอยู่ที่นี่ดีกว่า มีเวลาดูหนังสือ  

    แล้วมีลุงที่รู้จักอยู่ที่เสาหิน (ผู้กองจัด-ร.ต.อ.ณันฐวัฒน์ สิริจินดาวรรณ รองสว.(สอบสวน)สภ.เสาหิน)รู้จักกับแม่ แกโทร.มา ชวนไปอยู่ ที่ สภ.เสาหิน ให้มาช่วยทำธุรการที่ส่วนหน้า(สภ.แม่สะเรียง)ก็ตัดสินใจเลย  

    อยู่มาได้ 3 เดือนแล้วครับ  ก็สนุกดี เป็นประสบการณ์ชีวิต ขึ้นมาบางครั้งก็คืนเดียว บางครั้งก็พัก 2 คืนเพราะต้องไปทำธุรการอยู่ข้างล่าง ถ้าใครมีภารกิจก็สลับเวรกัน

    โรงพักนี้อยู่ติดชายแดน แล้วก็ไกลที่สุด กันดารที่สุด เมื่อก่อนรุ่นพี่บอกว่ากันดารกว่านี้ ทางลำบากกว่านี้

    ถ้าผู้บังคับบัญชาดูอยู่ อยากให้มาดูแลเรื่องบุคลากร เพราะตอนนี้โรงพักมี 16 คน รวมช่วยราชการ 1 คน เป็น 17 คน ทั้งโรงพัก งานก็ทำเหมือนโรงพักใหญ่ แต่คนเราน้อยกว่า ประชากรในพื้นที่ก็เยอะอยู่ครับ เป็นชาวเขาส่วนใหญ่

    อนาคต อยากเป็นพนักงานสอบสวน ตอนนี้กำลังจะเริ่มเรียนป.ตรี นิติศาสตร์  ของมหาวิทยาลัยนอร์ธเชียงใหม่  

    ที่อยากเป็นเพราะเหมือนเราต้องศึกษาหาความรู้ตลอด ถ้าทำสายอื่น อาจจะได้ใช้กฎหมายบ้าง แต่ถ้าเป็นพนักงานสอบสวนได้ใช้ทุกวัน ตลอดเวลาเลย

    แต่คนเขาบอกว่าพนักงานสอบสวนโตยาก เหนื่อยก็เหนื่อย เครียดก็เครียด แต่ก็คงเพราะมันท้าทายดีถึงอยากเป็น
                   
    ส่วนเรื่องจับโจรผู้ร้าย เป็นนักสืบ ก็อยาก แต่ก็ห่วงพ่อแม่  เลยคิดว่าเอากฎหมายไว้สู้กับเขาดีกว่า ถ้าถามว่าคิดว่าเดินมาถูกทางแล้วหรือยังกับการมาเป็นตำรวจ ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจคงต้องรอได้วุฒิ ป.ตรีก่อน               

    ไอดอลตำรวจ ก็มีรองต่อศักดิ์ ผมติดตามเฟซบุ๊กอยู่  ที่ชอบเพราะดูเขาเป็นตำรวจที่ดี ดีมากๆ รักลูกน้องด้วย ไปที่ไหนก็มีแต่คนรัก เก่งด้วย   

    นอกจากท่านรองต่อ ยังมีครูตู้ ผกก.ที่ศูนย์ฝึก พ.ต.อ.พิสิษฐ์ หอมศิลป์ แกรักนักเรียน แล้วผมก็รักแกด้วย

    แกสอนทุกอย่าง  ประสบการณ์ชีวิต วิธีการเอาตัวรอด วิธีการป้องกัน ทำทุกอย่าง สอนอยู่ในศูนย์ฝึกทุกอย่าง แต่ปีนี้ หรือไม่ก็ปีหน้า  ก็จะเกษียณแล้วครับ

    ส่วนคติในการทำงานในการใช้ชีวิต ส่วนตัวก็คือห้ามตาย ถ้าพ่อแม่ไม่สบาย  

    ครับ…นี่คือ2ความในใจรวมทั้งมุมมองต่อ สภ.เสาหิน จาก2ตำรวจหนุ่มต่างวัย ที่ชีวิตลิขิตให้มาเจอกันบนยอดดอยสูงแห่งป่าสาละวิน 

    สำหรับผม การเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ..

    กากีกลาย19/1/63

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments