ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่เข้ามาทำธุระแจ้งความร้องทุกข์ หรือใช้บริการด้านต่างๆในกองบังคับการปราบปราม ถ.พหลโยธิน และเดินไปยังโรงอาหาร ด้านหลังอาคารที่ทำการกองปราบฯระหว่างที่อยู่ในกองปราบฯ
เขาวิพากษ์วิจารณ์กับขยะกองโตที่วางกองสุมอยู่ระหว่างตึกที่ทำการ กก.5-6บก.ป. และห้องน้ำที่ติดโรงอาหาร ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนผู้ที่เข้ามาใช้บริการโรงอาหาร และผู้ที่เดินผ่านไปมา โดยเฉพาะข้าราชการตำรวจที่ต้องเดินผ่านวันละหลายรอบต้องเจอกับภาพกองขยะนี้หลายครั้ง
มันดูไม่เหมาะสมกับหน่วยงานยิ่งใหญ่ระดับประเทศ
ถามๆน้องๆนักข่าวที่ไปทำข่าวแถวนั้น เขายืนยันเป็นเรื่องจริง กองขยะดังกล่าวเป็นที่ทิ้งขยะทั้งเปียกและแห้ง แต่ขาดการดูแลรวมไปถึงระบบจัดการที่ดี บางครั้งส่งกลิ่นไปไกลถึงประตูทางเข้าโรงอาหาร บางวันยังพบแมลงวัน ซึ่งเป็นพาหะนำโรคบินตอม เป็นที่น่าชวนสะอิดสะเอียนแก่ผู้ที่มาพบเห็น นอกจากนี้บริเวณทางเดินตรงจุดที่ผ่านกองขยะยังมีน้ำเน่าที่ไหลมาจากขยะเปียกอีก ยิ่งวันไหนฝนตก ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
นี่แค่พูดถึงกองขยะยังไมได้พูดถึงห้องน้ำที่อยู่ข้างๆนะครับ คงพอพอเดาสภาพกันได้
เห็นเรื่องนี้แล้วนึกถึงเรื่องแบบเดียวกัน หลายคนคงจำกันได้ เมื่อต้นเดือน ต.ค.56 สมัยพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็น ผบ.ตร. สั่งย้ายด่วน’ผกก.โรงพักแห่งหนึ่งในจ.ฉะเชิงเทรา มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. โดยขาดจากต้นสังกัดเดิม จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ฐานปล่อยโรงพักสกปรก เป็นข่าวฮือฮามากในขณะนั้น
พล.ต.อ.อดุลย์ มอบนโยบายให้กับหัวหน้าหน่วยตำรวจทุกระดับในขณะนั้น มักมีข้อสั่งการย้ำชัดถึงการดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานีตำรวจ ที่ถือเป็นด่านหน้าซึ่งเป็นจุดสำคัญในการบริการประชาชน พร้อมทั้งคาดโทษ หัวหน้าสถานีที่ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลสถานที่ให้ดี โดยประโยคที่พล.ต.อ.อดุลย์ มักพูดย้ำเสมอ
“หญ้ารก อาคารสีตก โรงพักซ๊กมั้ก ผกก.คอตก อย่างนี้ปล่อยไว้ไม่ได้”
กากีกลาย3/5/61