อาชญา(ลง)กลอน
โดย…ธนก บังผล
นานๆจะเห็นตำรวจโชว์สกิลจิตวิทยาสอบปากคำผู้ต้องหาคดียาเสพติดซึ่งยังเป็นเยาวชนด้วยทักษะโคตรเทพ จนผมอดที่จะเอามาเขียนชื่นชมไม่ได้
จากกรณีชุดปราบปรามยาเสพติด สำโรงเหนือ จับกุมเด็กวัยรุ่นพร้อมของกลางจำนวนหนึ่งระหว่างนำมาส่งในซอยหมู่บ้านเฟื่องฟ้า ถนนเทพรักษ์ จ.สมุทรปราการ
พอควบคุมตัวมาสอบปากคำเพื่อขยายผลไปถึงเอเย่นต์รายใหญ่ วัยรุ่นคนนี้ก็ไม่ให้ความร่วมมือ
แต่จากการพูดคุยก็ทำให้ทราบว่าเด็กคนนี้เล่นเกมวินนิ่ง เป็นเกมแข่งฟุตบอลที่เด็กผู้ชายส่วนใหญ่ต้องรู้จัก
ปัจจุบันมันคือเกม PES 2019 กับเครื่องเล่นเพลย์สเตชั่น 4
เอิ่ม…สมัยผมยังละอ่อนนั้น เกมวินนิ่งคือเกมแห่งศักดิ์ศรีลูกผู้ชายเลยนะครับ จะอดหลับอดนอนกี่วันก็ได้…แต่ห้ามแพ้เด็ดขาด
ผู้ชนะในเกมจะมีถ้อยคำถากถางที่ไม่รู้ว่าสรรหาขุดกันมาเยาะเย้ยจากไหนมาทำให้ผู้แพ้ได้อับอายอย่างสาสม
หากคุณยังเล่นไม่เก่ง คุณจะกลายเป็นเหยื่อถูกถล่มประตูอย่างไร้ปราณี ซ้ำแล้ว…ซ้ำเล่า
เพื่อนผมบางคนที่เพิ่งหัดเล่นถึงกับเกลียดกีฬาฟุตบอลไปเลยทีเดียว (ฮา)
ชุดปราบปรามฯ จับจุดตรงนี้ได้เลยคุยไป เลี้ยงข้าวไป แล้วเปิดเกมเล่นกับผู้ต้องหา ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าแรกๆใครแพ้ใครชนะ
แต่ในข่าวบอกว่าผู้กองคนหนึ่งเลือกทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนเด็กวัยรุ่นที่ถูกจับเลือกทีมบาร์เซโลน่าโคตรแชมป์จากสเปน
ผลสรุปจบที่ร้อยตำรวจเอกสำโรงเหนือ กดไป 9 ประตูต่อ 0
ถ้าเล่นกับเพื่อนแพ้แค่ลูกเดียวยังแทบแทรกแผ่นดินหนี แต่นี่เจอตำรวจถล่มเละมันยิ่งกว่าอายอีกนะครับ
ผมเดาเอาว่าบรรยากาศมันคงเป็นไปแบบกันเอง มันจึงทำให้ต่อมาเด็กวัยรุ่นคนนี้ยอมให้ข้อมูลในทางสอบสวนมากขึ้น
แม้จะเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม แต่ผมก็มี 2 ประเด็นอยากฝากให้ได้คิดครับ อย่างแรกเลยคือ เรื่องนี้ถือว่าเป็นการใช้จิตวิทยาในการสอบสวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะส่วนใหญ่ตำรวจเวลาจับวัยรุ่นค้ายาเสพติดได้มักจะข่มขู่ กดดัน ใช้ไม้แข็งจะดำเนินคดีอย่างเดียวเลย คือมองว่าผู้ต้องหาไม่ใช่คนดีไปแล้ว
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการซักถามของตำรวจ คือ ตำรวจจะคิดเอาเองว่าเป็นอย่างนี้ เป็นอย่างนั้น จะเป็นผลเสียต่อการซักถาม และเกิดอคติ ทำให้ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งจะไม่ยืดหยุ่น
เพราะฉะนั้น ตำรวจจะต้องพยายามปรับตัวเองให้ได้ นี่เป็นวิชาที่ตำรวจหลายคนเรียนมาแล้วด้วยซ้ำนะครับ
แต่เมื่อถึงคราวปฏิบัติ…ส่วนใหญ่เละ บางคนออกทะเลไปเลย
บางคนที่ผมเคยได้ยินเขาลือกันมาว่ากลายเป็นหัวหน้าแก๊งค้ายาเสียเองก็มี
อย่างที่ 2 สำคัญมาก คือหากใช้เด็กเป็น “นิ้ว” หรือให้เป็นสายล่อซื้อยาจากเอเย่นต์รายใหญ่ คงทราบใช่มั้ยครับว่าอนาคตของเด็กจะเป็นอย่างไร เมื่อแก๊งค้ายากลับมาแก้แค้นเอาคืน
ตำรวจอาจได้ผลงาน แต่ชีวิตที่เหลือของเด็กหรือครอบครัวที่เข้าไปพัวพันกับยาเสพติด ถ้าไม่พิการก็ต้องอพยพหนีกันไปเลย
กรณีนี้มันจึงมีความละเอียดอ่อนซ่อนอยู่ และเมื่อเป็นข่าวอย่างนี้แล้ว ผมไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรตามมา
แอบหวังอยู่ลึกๆนะครับว่าการขยายผลจะกวาดล้างพวกตัวใหญ่จนสิ้นซาก สาธุ!!!!
Cr.ภาพจากเพจ รถตระเวนข่าว v2 ครับ