Saturday, April 27, 2024
More
    Homeท่องปทุมวันคุยกับเดอะตุง-ผู้การตม.5

    คุยกับเดอะตุง-ผู้การตม.5

     

    ป๊ะกันที่สนามบินเชียงใหม่ นายพลหนุ่มรูปหล่อ นรต.41 เดอะตุง-พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี ผบก.ตม.5 คุมด่านตม.ในพื้นที่ภาคเหนือตั้งแต่เชียงราย -นครสวรรค์ รวม17จังหวัด เลยได้พูดคุยถึงประวัติรับราชการและหน้าที่การงานระหว่างรอขึ้นเครื่อง

    อยู่ตม.ครั้งแรกเป็นผกก.สส.
    เป็น นรต.รุ่น 41 รับราชการครั้งแรก เป็น รอง สว.อยู่ภูธร ที่ภาคตะวันออก ขึ้น สว.ครั้งแรก แล้วมาอยู่นครบาลพักหนึ่ง อยู่มาหลาย บช.ทั้งภาค 2 ภาค 3 ภาค 1 ก็ไปขึ้น ผกก.ที่ตำรวจน้ำ แล้วก็ไปเป็น ผกก.สืบสวน ตม.แล้วก็อยู่ใน ตม.ตลอด จนขึ้นรองผู้การ ในตม.เป็นรองผู้การ 5 รองผู้การ 3 และรองผู้การ 2 สนามบิน เป็นรองผู้การ 5 ปี เต็มพิกัดแล้วขึ้นผู้การ ตม.5

    ตร.อยู่ที่ไหนต้องทำให้ได้
    จริงๆแล้วอยู่มาเกือบหมด แทบจะไม่เป็นลูกหม้อที่ไหน แต่ในความรู้สึกนะ เราเป็นตำรวจ ความเป็นลูกหม้อ ไม่เป็นลูกหม้อนี่ มันสำคัญมั้ย ก็สำคัญในเรื่องของความรู้ ความชำนาญ แต่ในเมื่อเราเป็นตำรวจ อยู่ตรงไหนต้องทำให้ได้ สิ่งที่เราจะต้องคิดก็คือหน่วยเรา พอเขาให้เราไปอยู่ แสดงว่าเขาต้องเห็นแล้ว ว่าเราทำอะไรได้ ต้องดูว่า งานหลักของหน่วย คืออะไร อย่างถามว่ามาอยู่ ตม.ต้องมองทั้งเรื่องความมั่นคง และเรื่องการอำนวยความสะดวก แต่ถ้าเราอยู่พื้นที่ อยู่ภูธร เราก็ต้องเข้มงวดเกี่ยวกับเรื่องปัญหาอาชญากรรม กับความเป็นอยู่ ทุกข์สุขของประชาชน ถูกมั้ย ถ้าอยู่ บช.ก.เราต้องมองงานใหญ่ งานที่ไปสนับสนุนพื้นที่ให้ทำงานได้ เช่น มีงานยาก เราเคยอยู่พื้นที่มา งานเต็มมือไปหมดเลย แล้วก็มีแต่งานที่ต้องท็อปดาวน์ งานที่จะให้พื้นที่ครีเอท ค่อนข้างยาก

    คุมด่านตม.เหนือ17จังหวัด
    เป็นผู้การตม.5ดูแลด่านตม.ภาคเหนือ17 จังหวัด ขาด จ.แพร่ ที่เดียวที่ไม่มี ที่ไม่มีเพราะอาจจะดูว่าปริมาณคนต่างชาติที่อยู่น้อย ส่วนใน 17 จังหวัด เชียงใหม่ มีคนต่างชาติอยู่เยอะที่สุด ทั้งแรงงานต่างด้าว คือบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย และนักท่องเที่ยว อย่างแรงงานต่างด้าวที่ใช้ฝีมือ จะได้จากเมียนมา ลาว และกัมพูชา ฉะนั้นจะมีปัญหาที่ต้องคอยดูตรงนี้

    ปัญหาแรงงานมีมาแต่อดีต
    นโยบายรัฐบาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะกับด่านแม่สอด จ.ตาก ที่เข้มงวดกวดขันเรื่องการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวนั้น คือปัญหาแรงงานนี่ เรามีปัญหาตั้งแต่อดีตกาล ต้องมองไปว่า ทำไมเมื่อก่อนคนไทยไปทำงานต่างประเทศเยอะ เช่น ไปซาอุฯ ไปเกาหลี เพื่ออะไร ก็เพื่อรายได้ที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ดีกว่า จึงไปขายแรงงานต่างประเทศ เมื่อก่อนเรามีคำพูด “ก่อนไปเสียนา กลับมาเสียเมีย” เพราะฉะนั้นมันจะเกิดลักษณะอย่างนี้เช่นกันในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเราเป็นประเทศที่เป็นฮับ แรงงานไทยเราไปทำงานต่างประเทศก็ยังมี แต่น้อยลง เพราะว่าความพัฒนาของประเทศที่มีมาเรื่อยๆ เมียนมาปิดประเทศมานาน ลาวเอง เขาก็อยู่ในประเทศเขามานาน กัมพูชา ก็รู้ๆ อยู่

    ยิ่งให้ค่าแรงมาก-ยิ่งมามาก
    แล้วพอเมียนมาเปิดประเทศ แรงงานก็เริ่มมา อยากเข้ามาอยู่เมืองไทย มาเยอะมากขึ้น ถามว่าค่าแรงในเมืองไทย ยิ่งบอกว่า 300 บาท ยิ่งมากันมากขึ้น แต่เดิม 100 กว่าบาท 200 กว่าบาท ก็มา แต่ยิ่งเป็น 300 ก็ยิ่งดี เพราะแต่เดิมเคยทำงานได้ 200 เอาตัวเลขกลมๆ 200×30 ก็คือ ทำงานทุกวัน ก็ 6,000 แต่จริงๆ มันทำงานทุกวันไม่ได้ แล้วอยู่ดีๆ มันเพิ่มมาเป็น 300 ก็เป็น 9,000 ถามว่าเพิ่มมาอีกอย่างนี้ก็มาสิ นี่ก็จุดหนึ่ง

    แรงงานเถื่อนมีทุกประเทศ
    ถามว่าปัญหาเรื่องแรงงานที่เป็นแรงงานเถื่อน มันมีทุกประเทศ สหรัฐฯ เอง ก็มีแรงงานจากประเทศเม็กซิโก เข้าไปทำงาน ใช่มั้ย ฉะนั้นปัญหาแรงงานไม่ใช่มีเฉพาะประเทศไทย มีทุกประเทศ เพราะถ้าเทียบแล้ว 1 บาทเขากับ 1 บาทเรา มันเทียบกันไม่ได้ 1 บาทมาเลย์ เท่ากับ 10 บาทนิดๆเรา 1 บาทอเมริกา เท่ากับ 30 กว่าบาทของเรา แล้วถามว่าเดี๋ยวนี้เราใช้เงิน 1 บาท จะซื้ออะไรได้ อาจจะลูกอม แต่อเมริกา 1 บาทเขาได้ก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่ง แล้วอะไรดีกว่า ต่างชาติเลยอยากมาใช้เงินบ้านเรา แรงงานก็อยากมาหาเงินบ้านเรา นี่คือปัญหา

    เข้าออกด่าน-ดูวันต่อวันไม่ได้
    ส่วนที่ออกไป แล้วกลับเข้ามา อย่างด่านแม่สอด จะบอกเท่ากันไม่ได้ เพราะ พอเขาข้ามไปวันนี้ เขาอาจไปทำธุระบ้านเขา 5 วัน ก็ได้ งั้นยอดกลับมาแต่ละวัน จะไม่เท่ากัน จะเหลื่อมกัน แต่มันก็ต้องดูผลรวม เพราะฉะนั้นดูพวกนี้จะดูวันต่อวัน ไม่ได้ สมมติว่า ออกไป 3,000 คน เข้ามา 1,000 คน แต่พรุ่งนี้ อาจจะเข้ามามากกว่านั้นก็ได้ อย่างนี้ เพราะฉะนั้นต้องไปดูเฉลี่ยทั้งเดือนแล้วเป็นยังไง เฉลี่ยทั้งปีแล้วเป็นไง หรือหมดช่วงที่เขาระดมแล้ว เป็นยังไง

    ส่วยต่างด้าวเกิดเพราะ…..
    ส่วนกรณี ผบ.มีคำสั่งเกี่ยวกับการเก็บส่วยต่างด้าว ได้กำชับไปแล้ว เพราะว่า 1.ในเรื่องส่วยต่างด้าว มันเป็นการที่ว่ามีคนต่างชาติ มันมีเรื่องภาษาด้วย คือมันมีมานาน เมื่อกี้ที่เท้าความไปว่าชีวิตที่ดีกว่า เขามา เขาก็มาหาเงิน เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องเร็วที่สุด พอเร็ว เอกสารการเดินทางก็ไม่พร้อม แล้วปัญหาชายแดน ขนคนดีกว่าขนยา ทำไมถึงขนคนดีกว่าขนยา เพราะขนได้ทุกวัน มีแรงงานอยากเข้ามาหากินทุกวัน

    ยอมขนคนเพราะขนยาอาจถูกยิง
    ฉะนั้นถ้าไปเจาะลึกในเรื่องการขนคน ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ เอารถคันนี้ไป แล้วไปขนคนได้เลย เพราะบางทีเขาข้ามมา เขาก็มากลางคืน ข้ามมาได้ กลางวัน แต่เขาไม่ค่อยข้ามมาหรอก คนเห็น เขาจะมากลางคืน แล้วชายแดนมันไม่มีรั้ว ยิ่งหน้าแล้งนะ แทบจะเดินข้ามแม่น้ำมาได้เลย พอข้ามมาเสร็จ ก็มาพักตรงไหนก็ไม่รู้ แล้วชายแดนเราก็ไกลมาก เฉพาะที่รับผิดชอบตรงนี้เกือบ 2,000 กิโลเมตร แล้วจะเอารั้วที่ไหน เพราะฉะนั้นปัญหาการข้ามแดน มีมาตลอด ถ้าเทียบกับขนยาติดคุกยาว มีความผิดหนัก เขาขนคนดีกว่า ขนยานี่อาจจะโดนยิง แต่ขนคนมาถ้าถูกจับ ก็แค่ถูกจับ

    พ้อถูกเหมารวมรับส่วย
    ในเรื่องส่วยของ ตม.ยืนยันไม่มี เพราะได้ตรวจสอบตลอดได้กำชับนโยบายมาตลอด ไปดูได้เลย ไม่มี แต่เวลาคนเขาไปจับ ธรรมดาแหละ ที่เขาจะคิดว่า ตม.เหมือนมันจะรู้สึกความเกี่ยวข้องกับต่างด้าว ต้อง ตม.ก็จะเหมารวม หรือแอบอ้างกันเป็นประเพณี แต่ยืนยันได้กำชับไป ตั้งแต่ต้น นานแล้ว ก่อนที่ท่าน ผบ.จะมีนโยบาย

    ห่วงเรื่องความมั่นคง
    ถามว่าเป็นห่วงด่านไหน ช่องทางไหน ก็เป็นห่วงทุกที่แหละ แต่ต้องถามว่าปัญหาจากจุดไหน ถ้าเราเลือกปัญหาในพื้นที่ภาค 5 ปัญหาคือเรื่องของยาเสพติด ความมั่นคง แล้วก็เรื่องแรงงาน แต่แรงงานต้องยอมรับว่าสมัครใจ แรงงานที่เข้ามาในเมืองไทย ไม่ได้มีใครบังคับให้เขาเข้ามา เขาเต็มใจจะเข้ามาหางานเอง ถามว่าห่วงมั้ย ในเรื่องความมั่นคง ก็ห่วงอยู่แล้ว เพราะเราห่วงไม่ได้ห่วงคนเดียว เราห่วงถึงกระทั่งว่าจะมีใครปลอมตัวเข้ามารึเปล่า แต่ในกลุ่มของเขาก็จะรู้กันเอง

    รอใช้ระบบตรวจใบหน้า
    แต่ละด่านเรามีเครื่องมือ มีระบบตรวจ ที่เราเรียกว่าพีบิ๊กส์ แต่ระบบการตรวจโครงหน้า ใบหน้านั้น เป็นโครงการต่อไปในอนาคต ตอนนี้ยังไม่มี แต่กำลังจะมี อย่างสุวรรณภูมิ ก็ยังไม่มี แต่กำลังจะมีในอนาคต คือระบบตรวจจับนี่ มันต้องพัฒนา จากเดิมมันแค่บันทึก เราต้องพัฒนาให้มีกล้องถ่ายรูป พัฒนาให้มีลายพิมพ์นิ้วมือ ของพวกนี้ก็ต้องพัฒนา ต้องใช้งบประมาณเยอะ

    Good Guy In Bad Guy Out
    มอตโตของ ตม.5 ก็ยึดนโยบายของ ผบช.คือ Good Guy In Bad Guy Out คือ ตม.เราก็ต้องดูในเรื่องของความมั่นคง และการอำนวยความสะดวก ผบช.แต่ละท่าน ทุกคนจะมองในมุมนี้ตลอด บางครั้งการอำนวยความสะดวกที่มากไป ก็ทำให้ความมั่นคง ดร็อป ส่วนการเน้นความมั่นคงที่ตึงไป ก็ทำให้การค้าการลงทุนแย่ ต้องดูสถานการณ์

    ประสบการณ์สำคัญมาก
    ท่านอดีต ผบช.ก็ใช้คำว่า การใช้ดุลพินิจ ต้องระวังต้องจับตา เพราะประเทศไทย เป็นประเทศที่บอกว่านักท่องเที่ยว คนต่างชาติชอบ เมื่อเข้ามาแล้ว ขณะเดียวกัน เราก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยด้วย แต่ขณะเดียวกันเราก็ต้องการรายได้จากการท่องเที่ยว มาช่วยประเทศเราด้วย เพราะฉะนั้นมุมมองตรงนี้สำคัญ วิธีที่ดีที่สุดต้องใช้เทคโนโลยี มาช่วย บวกกับอำนาจ ดุลพินิจ ประสบการณ์ของตำรวจ เพราะฉะนั้นประสบการณ์ก็จะสำคัญมาก ประสบการณ์ในการดูคน ดูหนังสือเดินทาง

    เวลาหมดต้องขึ้นเครื่องแล้ว มีจังหวะจะมาคุยกับผู้การตุง-ผบก.ตม.5 ใหม่ครับ
    กากีกลาย7/9/60

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments