Thursday, March 28, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันตร.ร่วมสภาผู้แทน จัดสัมมนาจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ

    ตร.ร่วมสภาผู้แทน จัดสัมมนาจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ

    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร จัดโครงการสัมมนาเชิงวิชาการ
    “แนวทางการบูรณาการโครงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ”

    ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 61 ที่เห็นชอบในหลักการกำหนดเลขหมายโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติเลขหมายเดียว (Nation Single Emergency Number)มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ

    ให้บูรณาการความร่วมมือกันระหว่างองค์กรทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ในการใช้หมายเลข 191 เป็นหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติเพียงเลขหมายเดียว ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน

    ต่อมาเช้าวันที่ 17 มิ.ย. 65  ที่ สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดสัมมนาเชิงวิชาการหัวข้อ “แนวทางการบูรณาการโครงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ในได้รับเกียรติจาก นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิด การสัมมนาฯ

    พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมาย  พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อมผู้บังคับระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมพิธีฯ

    โครงการสัมมนาเชิงวิชาการฯ ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างทักษะด้านต่างๆ ให้แก่บุคลากรขององค์กรส่วนภูมิภาคและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจถึงแนวทางการบูรณาการโครงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ ในมิติเชิงพื้นที่ขององค์กรส่วนภูมิภาคและองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น

    มุ่งเน้นสร้างการความตระหนักถึงความสำคัญในการจัดตั้งศูนย์ฯ และแสวงหาความร่วมมือด้านต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานโครงการฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สนองตอบนโยบายของรัฐบาลในการดูแลความปลอดภัย พร้อมให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบเหตุได้อย่างท่วงที

    เริ่มตั้งแต่การรับแจ้งเหตุ สั่งการ เผชิญเหตุ ควบคุม ติดตาม บันทึก ตรวจสอบ และประมวลผล ซึ่งจัดการสัมมนาในรูปแบบการบรรยาย อภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยวิทยากร

    ทั้งนี้ ผู้ที่เข้ารับการสัมมนาฯ ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด และประชาชนที่สนใจ จำนวนทั้งสิ้น 500 คน

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments