Thursday, March 28, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันตร. แนะ “หนี ซ่อน สู้” หลักสากลเอาชีวิตรอดเหตุกราดยิง (Active Shooter)

    ตร. แนะ “หนี ซ่อน สู้” หลักสากลเอาชีวิตรอดเหตุกราดยิง (Active Shooter)

     

    วันที่ 5 ส.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ในปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า เหตุกราดยิง หรือที่เรียกภาษาอังกฤษว่า Active Shooter นั้น ไม่ได้พบแต่ในต่างประเทศเท่านั้น แต่ในประเทศไทยก็เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว

    เช่น เหตุกราดยิง ที่ตลาดไท อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 23 พ.ค.50 และเหตุกราดยิง ที่ ห้าง Terminal 21 จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 ก.พ.63 เป็นต้น อีกทั้งหลักการดังกล่าวยังสามารถนำไปปรับใช้ในการเอาชีวิตรอดในเหตุการณ์ยิงปะทะต่าง ๆ อีกด้วย

    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้รู้จักหลัก “หนี ซ่อน สู้” หรือ “Run Hide Fight” ซึ่งเป็นหลักสากลที่ FBI และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในหลาย ๆ ประเทศ นำมาใช้แนะนำประชาชนในการเอาชีวิตรอดในเหตุกราดยิง โดยหลักการดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้

    “หนี – Run” เมื่อสามารถหาเส้นทางหลบหนีที่พาไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้
    – เวลาไปสถานที่ต่าง ๆ ให้จดจำทาง เข้า-ออก และทางออกฉุกเฉินให้เป็นนิสัย
    – เมื่อเกิดเหตุต้องตั้งสติให้ดี และมองหาเส้นทางในการหลบหนี
    – ทิ้งของทุกอย่างที่ไม่จำเป็น
    – ช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่สามารถช่วยได้

    “ซ่อน – Hide” เมื่อไม่สามารถหลบหนีออกจากพื้นที่ได้ ให้หาสถานที่ปลอดภัยเพื่อซ่อนตัว
    – ล็อคประตูและหาสิ่งที่ของมาใช้กีดขวางคนร้ายเพื่อไม่ให้มาถึงตัว
    – ซ่อนให้พ้นสายตาโดยหลบหลังสิ่งของขนาดใหญ่และแข็งแรง เช่น โต๊ะ กำแพง เป็นต้น
    – ปิดไฟในห้อง และปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ
    – อยู่ให้เงียบที่สุด ไม่พูดคุยหรือใช้เสียง

    “สู้ – Fight” เป็นทางเลือกสุดท้ายเมื่อไม่สามารถหนีหรือซ่อนตัวจากคนร้ายได้ และคนร้ายกำลังจะเข้ามาถึงตัวหรือโจมตีมาที่ตน
    – ร่วมกันสู้สุดกำลัง เพื่อให้มีโอกาสรอด
    – ใช้การซุ่มโจมตีโดยไม่ให้คนร้ายรู้ตัว เพื่อหยุดยั้งคนร้าย
    – ใช้สิ่งของทุกอย่างที่หาได้มาเป็นอาวุธ
    – ใช้ทุกวิธีการที่นึกได้ ในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด

    หากพี่น้องประชาชนพบเห็นหรืออยู่ในเหตุการณ์กราดยิง หรือเหตุการณ์ที่ใช้อาวุธปืนต่าง ๆ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางเข้าไประงับเหตุได้

    ทั้งนี้การโทรศัพท์แจ้งเหตุที่หมายเลข 191 ท่านจะต้องมั่นใจว่าในขณะที่โทร ตนเองอยู่นอกระยะการมองเห็นหรือได้ยินของคนร้าย เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายพุ่งเป้าในการโจมตีมาที่ตน

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments