หลังจากลูกชายผมกลับจากล่าแต้มไอทีเอฟจูเนียร์ที่จีนแผ่นดินใหญ่รอบที่ 3 ติดต่อกัน 2 วีค ช่วงกลางเดือนกันยายน 2560 วีคแรกเป็นระดับเกรด 3 แข่งที่เมืองกวางโจว และวีคสองที่กรุงปักก่ิง ยอมรับว่าทั้งสองวีคมีนักหวดวัยโจ๋ระดับแนวหน้าของเอเซีย รวมถึงยุโรปตะวันตกเดินทางไปแข่งกันเยอะพอสมควร เพราะเป็นช่วงใกล้ส้ินปีที่จะต้องเร่งทำแร้งกิ้งให้สูงๆ เพื่อมีโอกาสไปแข่งรายการจูเนียร์แกรนสแลมออสเตรเลี่ยนโอเพ่น 2018
ผมเองก็หมายมั่นอยู่เหมือนกันว่าอยากทำแต้มในการเล่นจูเนียร์ในปีสุดท้ายไปแข่งจูเนียร์แกรนสแลมกับเขาบ้าง ช่วงนี้เลยให้ลูกชายออกทัวร์แทบทุกเดือน และต้องขอบคุณผู้บริหารสมาคมกีฬาเทนนิสลอนเทนนิสสมาคมฯที่ให้โอกาสลูกชายไปหาประสบการณ์ในเกมส์ที่สูงขึ้น เพราะหากเล่นอยู่แต่ในบ้านแค่ปีละ 4-5 รายการไม่มีทางจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
การลงแข่งทั้งสองวีคค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร เนื่องจากกวางโจวอยู่ทางใต้ของจีนอากาศสบายๆ ขณะที่ปักกิ่งอยู่ทางเหนือตอนที่ลูกชายไปแข่งอากาศค่อนข้างเย็นแล้วครับ แมตช์กวางโจวแม้จะเป็นเกรด 3 แต่ก็มีนักหวดฝีมือดีๆมาเล่นหลายคน ส่วนนักเทนนิสเยาวชนไทยไปกันทั้งหมด 6 คน เป็นชาย 4 คน และหญิง 2 คน แต่ละคนก็อยู่ในระดับแนวหน้าของประเทศกันทั้งนั้น
แต่การคว้าชัยในต่างแดนมันไม่ใช่ของง่ายครับ รอบแรกกว่าที่ลูกชายผมจะเบียดชนะนักหวดเจ้าถิ่นเล่นเอาหืดขึ้นคอเหมือนกัน เชตแรกยังปรับตัวไม่ได้ก่อนเบียดชนะฉวิเฉียด 7-5 ส่วนเซต 2 เร่ิมจับจังหวะได้ชนะไป 6-1 รอบสองต้องไปเจอนักเทนนิสจากฮ่องกงอันดับใกล้เคียงกันอยู่ราว 300 ต้นๆ นักหวดรายนี้ตามประวัติขึ้นช่ือเรอท่องตุกติกอยู่พอสมควร
ย่ิงเป็นการเล่นแบบไม่มีกรรมการนั่งตัดสินด้วยแล้วเขามีประสบการณ์ในการขานแต้มมากกว่า เล่นเบียดกันสูสีเสมอกันที่ 6 เกมส์เท่า ช่วงเล่นไทเบรกเจอปัญหาการขานของแต้มฝ่ายตรงข้ามจนต้องเรียกกรรมการมาชี้ขาด สุดท้ายเราเป็นฝ่ายเสียเปรียบพ่ายแพ้ไป 6-7 (4) ส่วนเชตสองแต้มยังเบียดกันเหมือนเดิม ต่างคนต่างรักษาเกมส์เสิร์ฟจนมาถึงปลายเซตเจอลูกชายโดนกลยุทธตีหัวเข้าบ้านโดนเบรกแพ้ไปอีก 4-6 จบเส้นทางเพียงแค่รอบ 16 ยังดีที่ประเภทคู่กับจับกับเพ่ือนชาติเดียวกันเข้าถึงรอบเซมิไฟนอล หรือ 4 คู่สุดท้าย
หลังปราชัยวันรุ่งขึ้นเตรียมแพ็กกระเป๋าเดินทางต่อไปปักกิ่งต้องใช้เวลาต่อเครื่องบินยาวนานกว่าบ้านเราเดินทางไปกวางโจวเสียอีก ไปถึงต้องเช็กอินจ่ายค่าโรงแรมอยู่ถึง 2 คืนกว่าจะได้เข้าพักฟรีตามสิทธิ์ เนื่องจากระดับเกรด 3 ขึ้นไปทางรายการจะให้ที่พักและอาหารฟรีกับนักเทนนิสที่ได้เล่นรอบเมนดรอร์ ใครตกรอบหากอยู่ต่อก็ต้องควักกระเป๋าเอาเอง แต่การไปถึงสนามก่อนก็มีข้อดีที่ได้ซ้อมสร้างความคุ้นเคยกับสภาพสนามและอากาศ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปรับตัวกับอุณหภูมิสบายๆในกวางโจวแล้วมาเจออากาศค่อนข้างหนาวเย็นต่ำกว่า 20 องศาฯ
ตามสายแข่งขันเกรด 2 ลูกชายผมโชคไม่ค่อยดีครับที่อยู่ร่วมควอเตอร์กับมือวาง 1 ชาวมาเลเซียอันดับ 80 กว่า ส่วนรอบแรกต้องเจอกับนักหวดจีนเจ้าถ่ินอันดับ 300 กว่าถือว่าเป็นมือไล่เลี่ยกัน แต่การลงเล่นแมตช์แรกท่าม กลางอากาศแบบนี้เป็นงานยากครับ เซตแรกโดนไปก่อน 2-6 และกลับมาได้ในเซตสองหลังที่ 6-2 และ6-4
ตอนจบแมตช์มือ 1 ของรายการยังแข่งไม่จบและสถานการณ์พลิกครับ เม่ือนักหวดเจ้้าถ่ินล้มมือเต็ง 3 เซตเข้ามาเจอกับลูกชายในรอบสองหรือรอบ 16 และเหมือนรูปเกมส์จะเข้าทางลูกชายผมชนะแบบไม่ยากเย็น 6-4 6-2 เข้ารอบ 8 คน
สุดท้ายไปเจอมือวาง 8 ฝรั่งชาวฟินแลนด์ที่รูปร่างสูงใหญ่ไม่ต่ำกว่า 190 ซม.มีลูกเสิร์ฟที่หนักและกราวสโตรกแน่นโจมตีแบบไม่เปิดโอกาสให้เรามีจังหวะเล่น ใช้เวลาปิดบัญชีลูกชายผมเพียงแค่ 50 นาที 2-6 1-6 ถึงแม้จะแพ้หมดรูปแต่ก็มีอะไรหลายอย่างที่ได้จากบทเรียนในแมตช์นี้เพื่อกลับมาฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเองครับ
————————————–
เดอะวินเนอร์