Friday, April 19, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันป.ซ้อนแผนจับอดีตส.ต.ต.ตั้งแก๊งเรียกค่าไถ่

    ป.ซ้อนแผนจับอดีตส.ต.ต.ตั้งแก๊งเรียกค่าไถ่

    บ่ายวันที่ 15 มิ.ย.64 ที่ บก.ป. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป.พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.

    พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6. บก.ป. พ.ต.ท.วริศร มัจฉา, พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ พ.ต.ต.อภิชาติ อินยอด สว.กก.6 บก.ป.

    ร่วมกันแถลงผล “ปฏิบัติการบุกทลายเข้าช่วยเหลือบุคคลถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่”

    จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน มีนายอรรถพนธ์ อายุ 33 ปี อดีตตำรวจยศ สตต. 3 จังหวัดภาคใต้ นายนายอภิสิทธิ์ อายุ 26 ปี นายสุทธิรักษ์ อายุ 25 ปี และ นายสิทธิพงษ์ อายุ 26 ปี

    พร้อมของกลางปืนพกสั้น ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนขนาดต่างๆ 80 นัด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง

    กุญแจมือสแตนเลส 3 คู่ โซ่ล่ามยาว 2 เส้น และ ยาเสพติดไอซ์ และ กัญชา อีกจำนวนหนึ่ง

    พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีน.ส.จินดา อายุ 48 ปี มาร้องเรียนกับกก.6.บก.ป.

    เพื่อขอความช่วยเหลือ หลัง นายจาฎพันธุ์ อายุ 24 ปี ลูกชาย และ นายรุสดี เพื่อนสนิทของบุตรชาย ถูกชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งใช้กำลังบังคับพาตัวขึ้นรถยนต์ออกไปจากรีสอร์ตแห่งหนึ่งในจังหวัดพัทลุง

    ต่อมากลุ่มคนร้ายได้โทรศัพท์ติดต่อกลับมาหาน.ส.จินดา ข่มขู่เรียกเงินค่าไถ่เป็นเงิน 2,000,000 บาท แลกกับการปล่อยตัวบุตรชาย

    โดยส่งภาพถ่ายของนายจาฎพันธุ์ และ นายรุสดี สภาพไม่สวมเสื้อ มือและเท้าถูกล่ามโซ่ตรวนขังอยู่ภายในห้อง

    เจ้าหน้าที่วางแผนให้น.ส.จินดา ยื้อเวลาต่อรองขอจ่ายเงินก่อน 50,000 บาท ส่วนที่เหลือจะนำที่ดินไปขายแล้วนำเงินไปให้

    พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6.บก.ป.นำกำลังลงพื้นที่เร่งสืบหาเบาะแสจนทราบว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุคดีนี้

    พร้อมกับสืบทราบว่าหลังก่อเหตุกลุ่มผู้ต้องหาได้พา นายจาฎพันธุ์ และ นายรุสดี สองผู้เสียหายมากักขังอยู่ในบ้านเช่าเลขที่ 49/3 ม. 5 ต.ทำนบ อ.สิงหนคร จ.สงขลา

    เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมวางแผนช่วยเหลือโดยกระจายกำลังปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว เมื่อสบโอกาสจึงจู่โจมบุกเข้าไป

    พบนายอรรถพนธ์ นายนายอภิสิทธิ์ นายสุทธิรักษ์ นายสิทธิพงษ์ ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย กำลังยืนเฝ้าผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ที่ถูกล่ามโซ่ขังไว้อยู่ในห้อง

    แสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมตรวจยึดอาวุธปืนและยาเสพติดได้อีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นจึงเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายทั้ง 2 คนออกมาได้อย่างปลอดภัย

    พ.ต.อ.พงศ์ปณต กล่าวว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนรับสารภาพ ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนยาเสพติดรายใหญ่ ให้จับตัวผู้เสียหายทั้ง 2 คนมาเรียกค่าไถ่ เนื่องจากทั้ง 2 คนติดค้างเงินค่ายาเสพติดนายทุนคนดังกล่าว

    นอกจากนี้ยังยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยรับงานทวงหนี้นอกระบบ และจับคนมาเรียกค่าไถ่ในพื้นที่ภาคใต้มาแล้วหลายครั้งกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้

    เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนในความผิด “ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้ใดให้ได้มาซึ่งค่าไถ่, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

    มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และ มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”

    นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบประวัตินายอรรถพนธ์ เคยรับราชการตำรวจ ยศ ส.ต.ต. ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในชุดปฏิบัติการพิเศษ 3 จังหวัดชายแดนใต้

    ก่อนถูกออกราชการเมื่อปี 2558 จากความผิดฐานขาดราชการเกิน 15 วัน จากนั้นจึงผันตัวเข้าสู่วงการค้ายาเสพติด ถูกจับดำเนินคดีฐานมีอาวุธปืนและระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี พ้นโทษออกมาเมื่อเดือน ก.ย.2563

    แต่หลังจากพ้นโทษออกมา ยังคงมีพฤติการณ์ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจนมีหมายจับศาลจังหวัดสตูล ข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” อีก 1 คดี

    รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากแนวทางสืบสวนพบว่านอกจากผู้ต้องหาทั้ง 4 คนที่ถูกจับกุมตัวได้นั้นยังมีเจ้าหน้าที่ทหาร ยศ ส.อ. สังกัดหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ อยู่ร่วมในขบวนการดังกล่าวนี้ด้วย

    สอดคล้องกับคำให้การของกลุ่มผู้ต้องหา ที่มีการซัดทอดว่า ทหารคนดังกล่าวเป็นคนรับงานต่อมาจากนายทุน ก่อนมาว่าจ้างผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้ก่อเหตุ

    ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานขยายผลเอาผิดไปยังกลุ่มผู้จ้างวานและผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments