อาชญา (ลง) กลอน
โดย…ธนก บังผล
อย่างที่ทราบกันดีว่าเศรษฐกิจช่วงนี้เข้าขั้นวิกฤต หลายบริษัทรัดเข็มขัดจนเอวแทบกิ่วไม่ให้รายจ่ายพุ่ง แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้สภาพการเงินไม่หมุนสะพัด
ที่คนในรัฐบาลออกมาประกาศปาวๆชวนให้ชาวบ้านเชื่อว่าเศรษฐกิจโต
ผมถามหน่อยเถอะครับเหล่าบรรดาท่านๆเงินเดือนเท่าไรกัน อยู่บนหอคอยงาช้างจิบไวน์กระดิกเท้าเล่นหุ้นจะมารู้เรื่องปากท้องดีกว่าแม่ค้าขายข้าวแกงข้างทางได้อย่างไร
ที่ต้องเริ่มต้นกันอย่างนี้เพราะคนกรุงที่หวังจะพึ่งพาระบบการขนส่งสาธารณะเตรียมอ่วมหนัก
หลังพี่ๆแท็กซี่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เตรียมขอขึ้นค่าเซอร์วิส ชาร์จ จากเดิม 50 บาท เป็น 100 บาท หากไม่ได้ก็ขู่จะหยุดวิ่ง
ปัญหานี้อาจดูไม่กระทบกับคนส่วนใหญ่เท่าไร เพราะทางกรมขนส่งเองก็ออกมาบอกแล้วว่า หากแท็กซี่ทั้งที่ สุวรรณภูมิและดอนเมือง หยุดให้บริการจริง ก็พร้อมประสานแท็กซี่ประมาณ 1,000 คัน จากทั้งหมด 7-8 หมื่นคัน ในกทม. ไปวิ่งเสริมที่ 2 สนามบินทันที
อุ…แม่เจ้า นี่เมืองหลวง เมืองเทพสร้างของเรามีแท็กซี่วิ่งกันเกือบแสนคันเลยหรือครับเนี่ย
เยอะแยะมหาศาลขนาดนี้ทำไมบางทีเรียกแล้วไม่ค่อยไปกันนะ (ฮา)
แต่การที่รถแท็กซี่ทั่วไปจะเข้าไปวิ่งรถในสนามบินได้นั้น ต้องได้รับอนุญาตจาก การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย หรือ ทอท. ก่อน
เพราะปัจจุบัน ทอท. มีการลงทะเบียนแท็กซี่ในสนามบินเป็นการเฉพาะ โดยกรมการขนส่งเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ทอท. จะแก้ไขปัญหาได้ แต่ถ้าแก้ไม่ได้ ขนส่งยินดีประสานแท็กซี่เข้าไปรับผู้โดยสารให้
ต้นเหตุปัญหาการขู่จะหยุดวิ่งมาจากอะไรรู้ไหมครับ
แท็กซี่สนามบินเหล่านี้ไม่ใช่แค่เรียกร้องให้รัฐขึ้นเซอร์วิส ชาร์จ เท่านั้น แต่พยายามสอดแทรกให้ “ลดโทษแท็กซี่ไม่กดมิเตอร์” หรือเรียกง่ายๆคือ ต้องการให้มีแท็กซี่ในสนามบินขูดผู้โดยสารให้จ่ายค่าบริการแบบเหมา
มิต้ง มิเตอร์อะไรที่ติดๆไว้นั้นก็แค่เฟอร์นิเจอร์ของประดับรถยนต์ เพราะพี่ๆเขาไม่ต้องการจะใช้ทำมาหากินอยู่แล้ว
สรุปคือ อยากจะให้มีการเหมา และเพิ่มค่าบริการเริ่มต้น ครับ…มีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น นี่มันมาเฟียชัดๆ
และเพราะปัญหาแท็กซี่มาเฟียนี่ละครับที่กระทบกับวงการแท็กซี่อีกเกือบแสนคันใน กทม.
ด้วยความต้องการของแท็กซี่สนามบินที่อยากยกระดับตัวเองเป็นอภิมหาโคตรวีไอพี เพราะฉะนั้นแท็กซี่แบบดาดๆ ติดมิเตอร์ทั่วไปก็โดนชาวบ้านบ่นต่อไปว่าไม่รับผู้โดยสาร
ถ้าอยากมีเงินมีทองแบบวีไอพี ก็พยายามหาเส้นสายเข้ามาวิ่งในสนามบินกันสิครับ เรามีคนรับประสานเรื่องนี้อยู่ (ฮา)
นั่นละครับ สุดท้ายมันก็จะวกเข้าหา “ผู้มีอิทธิพล” ที่คุมวินแท็กซี่สนามบินอีกจนได้
อยากให้ผู้การ ตม.2 จัดการเรื่องนี้ให้ชัดเจนไปเลยครับ ผมเอาใจช่วยเต็มที่