คอลัมน์ อาชญา (ลง) กลอน
โดย..ธนก บังผล
ทันทีที่นาฬิกาบอกเวลา 09.30 น. ของวันนี้ ( 5 ม.ค. 2561) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำการแถลงข่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับนาฬิกาและแหวนเพชร ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
นอกจากนี้ยังมีเรื่องคดีทุจริตสำคัญประมาณ 8 เรื่อง รวมถึงคดีต่างๆที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น ได้ระบุว่าป.ป.ช.ทำงานไม่มีความคืบหน้า ใน 10 ประเด็น เช่น กรณีสินบนข้ามชาติ โรลส์ รอยซ์เกี่ยวพันกับ กับ ปตท. ,การบินไทย ,การไฟฟ้าฯ และโครงการปลูกปาล์มอินโดฯของ ปตท.
แน่นอนว่าทุกสายตาจะต้องจับจ้องไปยังท่าทีการทำงานของ ป.ป.ช. ชุดนี้ที่มีต่อ แหวนเพชร กับ นาฬิกาสุดหรู ซึ่งทางนักจับผิดบนโซเชียลขุดคุ้ยออกมาจนถึงขณะนี้ได้แล้ว 15 เรือน
นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบนาฬิกาและแหวนเพชร ของพล.อ.ประวิตร ได้นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ในวันที่ 4 ม.ค.แล้ว โดยทุกอย่างทำงานตามขั้นตอน ซึ่งขณะนี้พบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนาฬิกาของพล.อ.ประวิตร มากกว่า 1 คน ส่วนเอกสารชี้แจงของพลเอกประวิตร มีเนื้อหาเป็นอย่างไรนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และยังไม่ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชน
ด้าน นายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้ส่งเอกสารชี้แจงมาแล้ว ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 29 ธ.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งทางป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบตามเอกสารที่มีผู้ร้องยื่นเรื่องมาให้ และระหว่างไปสอบ หากพบอะไรเพิ่มเติม ต้องนำมาสอบจนแน่ชัดว่าทรัพย์สินที่ปรากฏในข่าวตรงกับบัญชีหรือไม่ ถ้าไม่มีในบัญชี จะต้องเรียกดูว่า ชี้แจงการได้มาของทรัพย์สินที่เพิ่มได้ไหม สุดท้ายอาจค้นทรัพย์ ถ้าชี้แจงไม่ได้ก็ยึดเป็นของหลวง มีความผิดถูกตัดสินการเมือง
“การชี้แจงทรัพย์ที่ได้มาหลังจากยื่นบัญชีไปแล้ว เมื่อมายื่นเพิ่ม ต้องชี้แจงด้วยว่าได้มาอย่างไร จะขอยืมเพื่อนมา ต้องเอาหลักฐานมาแสดง เพื่อนคือใคร ถ้าเป็นลูกน้อง ให้มาต้องไม่เกินจำนวนเงินสามพันบาท หรือคนที่ให้ตายไปแล้ว ไม่มีทายาท แล้วเอานาฬิกามาให้ ก็อาจฟังขึ้น เพราะคนให้ไม่อยู่แล้ว ไม่มีการที่รับผลประโยชน์หรือให้คุณโทษ ตัดเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนออกไป
แต่ถ้าคนที่ให้เป็นลูกน้อง เข้าข่ายเป็นผลประโยชน์ต่อตำแหน่ง หน้าที่การงาน ซึ่งทั้งหมดต้องให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบอย่างละเอียด การอ้างว่าบุคคลที่สองให้มา เราไปตรวจสอบ สิ่งที่อ้างมา และเอกสารชี้แจงมา ตรงกับผลตรวจสอบหรือไม่ ตรงนี้มีขบวนการที่ใช้เวลาสักพัก สมมติว่ามี นาฬิกา 15 เรือน จากคนให้ 15 คน จะต้องตรวจสอบทุกคน เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่กระแสสังคมสนใจมาก ป.ป.ช.จะมีคำตอบความคืบหน้าออกมาต่อเนื่องทุกระยะ”นายสุทธิ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช.กล่าว
จากที่ทั้ง 2 ท่านกล่าวมาข้างต้น เพราะฉะนั้นสำหรับตัวผมเองก็ตีความได้ว่า วันที่ 5 ม.ค. นี้ ก็ยังคงไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นหรอกนะครับ
ประเด็นจริงๆมันไม่ซับซ้อนอะไรมากมายจนถึงกับทำให้ ป.ป.ช. ทำงานยากและใช้เวลานานเลยครับ ไม่ว่าจะมีนาฬิกาหรูกี่เรือนในครอบครองของ พล.อ.ประวิตร ก็ตามที สิ่งที่แน่นอนที่สุด ที่เปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้คือ พล.อ. ประวิตร ไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน ต่อ ป.ป.ช. จะมาเล่นลิ้นต่อปากต่อคำกันให้ยืดยาว ผมก็คิดว่าทางป.ป.ช. เองก็พอจะทราบว่าสังคมให้ความสนใจกรณีไม่แจ้งทรัพย์สินของ พล.อ.ประวิตร มากแค่ไหน และผมเองก็คาดเดาทางลงในคดีนี้ง่ายๆ 2 ทาง ดังนี้ครับ
1) ในที่สุดแล้ว ป.ป.ช. แถลงไม่พบความผิดปกติในการไม่แสดงบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ประวิตร เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่ได้มาหลังจากรัฐประหาร หลังเข้ารับตำแหน่ง โดยไม่ได้มีเจตนาจะปกปิดแต่อย่างใด ถ้าออกลูกนี้รับรองครับว่านาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร จะทำพิษสร้างมาตรฐานที่บิดเบี้ยวให้กับนักการเมืองไทยและสังคมไทยไปอีกยาวนานตราบชั่วลูกชั่วหลาน และการปฏิวัติมาเพื่อปราบโกงก็จะไร้ค่า
2) พบว่านาฬิกา และแหวนเพชร ดังกล่าว เป็นทรัพย์สินของ พล.อ.ประวิตร ที่ไม่แจ้งต่อ ป.ป.ช. จริง แต่เนื่องจากเป็นไปด้วย “บกพร่องโดยสุจริต” นาฬิกาที่เพื่อนให้มาทั้ง 15 เรือน เพื่อนที่ให้มาทุกคนก็เสียชีวิตแล้ว ส่วนแหวนของมารดาก็ตกทอดมาจากมรดกของบิดา ป.ป.ช. เห็นว่าไม่มีความผิด
ผ่ามๆๆๆๆๆ สรุปคือในสายตาผมแล้วการทำงานของ ป.ป.ช.ชุดนี้ ว่ากันตามตรง ผมขอ “ปรามาส” ไว้ ณ ที่ตรงนี้เลย คือไม่ว่าจะอย่างไร พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ผิด โถ…จะผิดได้อย่างไรล่ะครับ ท่านออกจะเป็นคนดีขนาดนี้
นั่นละครับ น่าสงสารประเทศไทยเป็นที่สุด กับคนตาดำๆ ขี่จักรยานยนต์เก่าๆ ยังผิดเลย แต่ถ้ามีอำนาจซุกทรัพย์สินกี่เรือนๆก็เป็นเรื่องถูกทั้งนั้น
ประเทศไทยเรายังจะต้องเผชิญวิบากกรรมกับนักการเมืองอีกเยอะครับ นักการเมืองไม่ว่าจะเข้ามาด้วยการเลือกตั้งหรือปฏิวัติ เข้ามาก็โกง เข้ามาก็กิน ถ้าไม่อยากให้ถูกเปิดเผย เวลากินก็ต้องแบ่งกัน สลับขั้วเข้ามาคอรัปชั่น จนในที่สุดลูกหลานเราก็จะชาชินไปกับคำว่าโกง
ฤา..ความเชื่อมั่นของประชาชนในการทำงานของ ป.ป.ช.จะถูกนาฬิกาแค่ 15 เรือนสั่นคลอน ?
อย่างไรก็ตาม ผมยังลุ้นและเชื่อมั่นอยู่ลึกๆว่า ป.ป.ช. จะรู้สึกรู้สาต่อกลิ่นไม่ดีในแวดวงนักการเมืองไทย แล้วเป็นหน่วยงานที่พึ่งพิงได้ ท่ามกลางสังคมที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เนื่องจาก นายวรวิทย์ เลขาธิการ ป.ป.ช. ยืนยันว่า ป.ป.ช.มีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอให้ประชาชนมั่นใจการทำงานของ ป.ป.ช. เพราะมีคำขวัญการทำงานว่า “ซื่อสัตย์ เป็นธรรม และมืออาชีพ”
…แล้วเราจะคอยดูกันครับ
