Sunday, May 19, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันสืบ6จับหนุ่มแก๊งคอลสาย2แสดงตนเป็นตำรวจ

    สืบ6จับหนุ่มแก๊งคอลสาย2แสดงตนเป็นตำรวจ

    สืบ 6 รวบ ผตห.คอลเซ็นเตอร์ ทำหน้าที่เป็นสายโทรเข้าที่ 2 โดยแสดงตนเป็นตำรวจ เผยเคยทำยอดได้เดือนละ5ล.

    วันที่ 16 ต.ค.66  พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 สั่งการให้ พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6 นำกำลังจับกุมนายไชยนันท์ อายุ 20 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2358/2565 ลงวันที่ 4 พ.ย.65

    ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน  จับกุมได้ที่ หน้าสถานีขนส่งหมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อบ่ายวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา

    สืบเนื่องจาก เมื่อปลายปี 2565 นายไชยนันท์ด้รับการติดต่อจากเพื่อนให้ไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่จังหวัดปอยเปต ประเทศกัมพูชา เดินทางโดยใช้เส้นทางธรรมชาติ ต้องเสียค่าเข้า 3,500 บาท ต่อการผ่านแดน 1 ครั้ง  จะมีนายหน้าเป็นชายชาวกัมพูชาพาข้าม ก่อนที่จะทำหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ จะต้องฝึกเขียนสคริป เพื่อได้รู้วิธีการหลอก

    เมื่อเริ่มชำนาญจึงได้ทำหน้าที่เป็นสายโทรเข้าที่ 2  แสดงตัวเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งแต่ละวันมีสายติดต่อ นายไชยนันท์ ประมาณวันละ 10 สาย เจ้าตัวได้ค่าจ้างประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีคอมมิชชั่นจากการหลอกผู้เสียหายอีก 3 % หลังจากการหักให้บัญชีม้าไปแล้ว ซึ่งเดือนที่ผู้ต้องหาทำยอดได้สูงสุดต่อเดือนประมาณ 5 ล้านบาท

    สำหรับขั้นตอนการหลอกเหยื่อ

    1.สายที่ 1 จะได้เบอร์จากการยิงแอดเพื่อหาข้อมูลผู้เสียหาย เมื่อได้เบอร์มาแล้วจะโทรไปหลอกผู้เสียหายโดยแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งสินค้าข้ามประเทศ

    2.ระบบจะโอนสายมายังสายที่ 2 ทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อยเวรประจำโรงพัก อ้างว่ารับคดีออนไลน์ และคุยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหาย เลขบัญชีที่ถืออยู่

    3.สายที่ 3 จะทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสารวัตรขึ้นไป โดยขู่ให้โอนเงินมาเพื่อตรวจสอบ ถ้าไม่โอนจะอายัดบัญชี และจะต้องโทษตามกฎหมาย

    จากการสอบสวน นายไชยนันท์ยอมรับว่าทำหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์มาแล้ว ปีกว่าๆ จนกระทั่งถูกจับกุม อีกทั้งยังให้การรับสารภาพว่ามีชายชาวจีนชื่อ มิงตู้ เป็นเจ้าของเครือข่าย ดูแลพนักงานที่ปอยเปตทั้งหมด

    เบื้องต้นชุดจับกุมยังพบข้อมูลว่า นายไชยนันท์ ยังเป็นผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับคดีเดียวกัน ซึ่งอนุมัติหมายจับโดยศาลจังหวัดสระแก้ว เมื่อปี 2565  หลังทำบันทึกจับกุมเป็นที่เรียบร้อยจะ นำส่ง พงส.บก.สอท.5 บช.สอท. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments