Wednesday, April 24, 2024
More
    Homeแม่บ้านตำรวจหลังบ้านคนเก่งและแกร่ง ของ ผกก.โมทย์-พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว

    หลังบ้านคนเก่งและแกร่ง ของ ผกก.โมทย์-พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว

     

    จัดเป็นแม่บ้านตำรวจที่ครบเครื่อง สำหรับ คุณออยล์ – อรวลี จันทร์บุญแก้ว ปัจจุบัน รับราชการ ตำแหน่ง นักทรัพยากรบุคคลเชี่ยวชาญ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ภรรยาคนเก่งและแกร่ง ของ ผกก.โมทย์ พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม

    ทั้ง คุณออยล์ และ ผกก.โมทย์ รับราชการการมีตำแหน่งหน้าที่การงานก้าวหน้ามั่นคงมาพร้อมๆกับการร่วมกันสร้างครอบครัวที่อบอุ่น

    นอกจากรับราชการแล้ว คุณออยล์ เล่าว่า ปัจจุบันทำอาชีพเสริมด้วย เป็นธุรกิจเล็กๆในครอบครัวร่วมกับพี่สาว

    เพาะเห็ดโคนญี่ปุ่นเห็ดนางฟ้าภูฐาน เห็ดนางฟ้าฮังการี เห็ดหูหนู และเห็ดอื่น อยู่ที่อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ขายส่งที่ห้าง แมคโคร ตลาดสี่มุมเมือง ร้านอาหารทั่วไปใน กทม.ชื่อแบรนด์ ฟาร์มผักสด 

    มีพี่สาวเป็นหลักในการดูแลและบริหารจัดการ ส่วนเราจะใช้เวลาในวันหยุดไปช่วยดูเรื่องการตลาด และพาลูกๆไปทำกิจกรรมฟาร์มเห็ดด้วย

    ร่วม 20 ปี ที่คุณออยล์ และ ผกก.โมทย์ ได้พบ รู้จัก คบหาดูใจ และตกลงใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน

    คุณออยล์ เล่าว่า ได้พบกับผกก.โมทย์ ตั้งแต่ปี 2547 หลังคบหาดูใจกันประมาณ 4 ปี  ตัดสินใจแต่งงานใช้ชีวิตคู่ร่วมกันในปี 2551

    “เราชอบเขาตรงที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่เสแสร้ง มีความเสมอต้นเสมอปลาย มองเห็นว่าเขาเป็นคนรักครอบครัวมาก และเป็นคนดี”

    ตอนคบกันเขาบอกเราตรงๆว่าพ่อแม่เขาเป็นชาวนานะ ที่บ้านไม่ได้มีฐานะร่ำรวย เป็นนักเรียนทุน และถ้ามีโอกาสอยากตอบแทนช่วยเหลือชุมชน เราคิดว่าเขาน่าจะเป็นผู้นำครอบครัวที่ดีของเราได้  ตัดสินใจใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกัน

    “พี่โมทย์ เป็นคนสบายๆ เสื้อผ้าเราซื้อให้แบบไหน ก็ใส่แบบนั้น แค่แต่งตัวให้ถูกกาลเทศะ เราทั้งคู่เป็นคนไม่สนใจเรื่องแบรนด์เนม ไม่เคยเสียเงินกับเรื่องแบบนี้ เรามองว่าไม่จำเป็น และไม่อยากสิ้นเปลือง เราเป็นคนที่ใช้ชีวิตในรูปแบบพอเพียง พอเหมาะ พอดี

    คุณออยล์ เล่าถึงอุปนิสัยใจคอ และไลฟ์สไตล์ที่บ่งบอกถึงความเรียบง่ายและสมถะของทั้งตัวเองและผกก.โมทย์ กลายเป็นคน2คนที่เคมีเข้ากัน มีอะไรคล้ายๆกัน ได้มาเจอกัน และได้ใช้ชีวิตร่วมกัน

    หลังแต่งงานได้ 1 ปี คุณออยล์ ให้กำเนิดพยานรักคนแรก น้องต้นกล้า ด.ช.พีรปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ปัจจุบันอายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และ มีลูกคนที่สองเป็นลูกสาวเมื่อ1ปีเศษ ชื่อ น้องต้นข้าวด.ญ. ปรัชญพร จันทร์บุญแก้ว สาวน้อยวัย 1 ขวบ 4 เดือน

    คุณออยล์ เล่าว่า ผกก.โมทย์ เป็นคนตั้งชื่อให้ลูกๆเอง ชื่อเล่นทั้งต้นกล้าและต้นข้าว เพราะอยากให้ลูกๆระลึกเสมอว่าบรรพบุรุษของเรา คุณปู่คุณย่าเป็นชาวนา

    “เราอยากมีลูกหลายๆคน แต่ออยล์มีลูกยาก หลังจากมีน้องต้นกล้า ที่ผ่านมาพอเริ่มตั้งครรภ์น้องก็หลุดไป 4 ครรภ์ จนมาถึงน้องต้นข้าวที่เขาแข็งแรงและครรภ์เติบโตดี คลอดมาสุขภาพแข็งแรง

    ถามถึงเรื่องการดูแลครอบครัว คุณออยล์ ตอบหนักแน่นว่า เราทำทุกหน้าที่ด้วยหัวใจ ทั้งแม่ของลูก ลูกสาวของแม่ ภรรยาและเพื่อนของสามี

    “เรื่องการดูแลลูก แม้จะทำงานนอกบ้านด้วย แต่เราก็รับผิดชอบให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราได้รางวัลแม่ดีเด่น จากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี หรือ รพ.เด็ก เพราะสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวได้ถึง 6 เดือน” 

    ตอนนี้น้องต้นข้าว อายุ 1 ขวบ 4 เดือน ยังกินนมแม่อยู่เลย ส่วนน้องต้นกล้า กินนมแม่จนถึง 2 ขวบ ในวันทำงานเราจะเก็บนมแม่เอาไว้ให้ลูกอย่างเพียงพอ

    ในหน้าที่ลูกสาวของแม่ เนื่องจากคุณแม่เราป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ในช่วงเราตั้งครรภ์น้องต้นข้าว เป็นวิกฤตช่วงหนึ่งของเรา แต่ก็ผ่านมาได้ จากวิกฤตกลายเป็นความสว่างไสว ตอนนี้คุณแม่ฟื้นตัวได้ดี ส่วนน้องต้นข้าวคลอดออกมาสุขภาพแข็งแรง”

    คุณออยล์เล่า

    ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตหลายอย่างประเดประดังเข้ามา กลับเกิดสิ่งที่เป็นความประทับใจ ปลื้มใจ และภูมิใจในตัวน้องต้นกล้า ลูกชายคนโต ที่คุณออยล์น้ำตารื้นทุกครั้งที่นึกถึง โดยคุณออยล์ เล่าว่า

    ในช่วงที่คุณยายของน้องต้นกล้าป่วย และเราก็ตั้งครรภ์ น้องต้นกล้ามาบอกกับเราว่า

    “คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะ ดูแลน้องเถอะ ต้นกล้าอาบน้ำเช็ดตัว ป้อนข้าวให้คุณยายเอง”

    เขามาช่วยเอง โดยที่เราไม่ได้บอก ทำโดยไม่รังเกียจ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เขาเห็นเราทำ และเห็นว่าคุณพ่อ(ผกก.โมทย์) เป็นคนกตัญญูต่อพ่อแม่มาก เขาก็ซึมซับตรงนี้มา เป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่มาก เขาเป็นลูกชายที่มีความรับผิดชอบในตัวเอง รวมถึงทุกวันนี้น้องต้นข้าวก็มาช่วยจูงคุณยายเดิน เก็บดอกไม้ให้คุณยาย เราเห็นลูกๆน่ารัก ก็ชื่นใจและภูมิใจ

    “เป็นความโชคดีมากของเรา ที่น้องต้นกล้ารับผิดชอบตัวเอง อย่าตอนสอบเข้า ม.1 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เขาก็เลือกเอง ตัดสินใจเอง อ่านหนังสือเอง แทนที่จะเล่นเกมแต่เขาเลือกอ่านหนังสือ

    เขาบอกว่าอยากเป็นสุภาพบุรุษสวนกุหลาบ ตอนแรกพี่โมทย์กังวลว่าจะสอบได้ไหม เราก็ให้กำลังใจเขา แล้วเขาก็ทำได้”

    ในส่วนของการซัพพอร์ตผกก.โมทย์ในฐานะแม่บ้านตำรวจ คุณออยล์ บอกว่า

    เราจะเป็นผู้ฟังที่ดี เรายินดีช่วยทุกเรื่องที่ช่วยได้ และคอยเป็นกำลังใจให้เขา ยกตัวอย่างครอบครัวตำรวจมักจะมีปัญหาเรื่องค่าครองชีพที่ไม่เพียงพอ เรามีฟาร์มเห็ด มีตลาดค้าส่ง จึงเสนอไอเดียทำโครงการเสริมรายได้โดยการสอนเพาะเห็ดให้กับตำรวจและครอบครัว ซึ่งคิดว่าจะทำในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านี้

    ข้อดีของการเพาะเห็ดคือ ใช้พื้นที่ไม่มาก จะเริ่มจากสอนให้เขาเพาะเห็ดง่ายๆก่อน อย่างเห็ดนางฟ้าฮังการี เราจะพาไปดูฟาร์มตัวอย่างด้วย เริ่มจากเพาะกินเอง ที่โรงพักมีโครงการอาหารกลางวัน นายกินอย่างไร ลูกน้องก็ต้องได้กินเหมือนกัน

    ถ้าครอบครัวไหนสนใจปลูกเป็นอาชีพเสริมเราก็สามารถช่วยหาตลาดให้เขาได้ ตรงนี้อาจทำให้หลายครอบครัวเกิดไอเดียในการทำอาชีพเสริมอย่างอื่นได้ ไม่ใช่แค่การเพาะเห็ดอย่างเดียว

    ถามถึงเรื่องตำรวจมักจะทำงานหนักจนบางครั้งไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว ในฐานะแม่บ้านตำรวจทำอย่างไร คุณออยล์ บอกว่า

    เราต้องไม่คิดว่าตรงนี้คือปัญหา เมื่อเราเลือกสามีเป็นตำรวจแล้ว การให้เกียรติกัน เชื่อใจซึ่งกันและกันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ให้เขาไปทำหน้าที่ให้เต็มที่ ทั้งเราและลูกรู้ว่าคุณพ่อทุ่มเทกับการทำงานมาก รักลูกน้องมาก และอยากให้เขาไปทำงานเพื่อสังคมส่วนรวม”

    เราและลูกรู้สึกภาคภูมิใจในตัวคุณพ่อมาก เลยไม่รู้สึกว่าเป็นอุปสรรค รวมถึงระยะทางก็ไม่ใช่อุปสรรคในการติดต่อพูดคุยกัน เราสามารถวีดิโอคอลคุยกัน ใช้โซเชียลมีเดียได้ตลอด อย่างพี่โมทย์ก็จะโทรหาคุณพ่อคุณแม่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ถามไถ่เรื่องความเป็นอยู่และสุขภาพในทุกๆวัน

    โชคดีที่เราคบหากันมาก่อนแต่งงาน ทำให้เรารู้ว่าตำรวจทำงานหนัก ไม่เป็นเวลา และมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก ดังนั้นอย่ามัวแต่เสียเวลาหวาดระแวงกัน เราอยู่บนพื้นฐานความรักกันอยู่แล้ว เมื่อมีเวลาน้อย เวลาทั้งหมดที่อยู่ด้วยกันต้องสร้างความสุขให้เต็มที่”

    “เมื่อเขากลับบ้าน เราต้องทำบ้านให้เย็นและเบา เรารู้ว่าเขาทำงานไม่เป็นเวลา เราก็จะเตรียมหมอน ผ้าห่ม เพื่อให้เขานอนพักที่ทำงาน

    แต่เชื่อไหมว่าเสร็จงานเมื่อไหร่ แม้จะมีเวลานอนแค่ 2 ชั่วโมง เขายังกลับมานอนที่บ้าน คุณออยล์เล่า

    ด้านงานอดิเรกและกิจกรรมที่ทำร่วมกันในครอบครัว คุณออยล์บอกว่า

    ”ผกก.โมทย์ ชื่นชอบการปลูกต้นไม้เป็นพิเศษ  เริ่มจากปลูกต้นกล้าเล็กๆ ดูแลจนเจริญเติบโต จนออกดอกออกผลให้เราได้กิน อย่างต้นมะพร้าวน้ำหอม ต้นมะม่วง  ลูกๆทั้งน้องต้นกล้าและน้องต้นข้าวก็จะไปช่วยคุณพ่อปลูกด้วย และถ้ามีแขกมาที่บ้าน ผกก.โมทย์ จะพาไปดูต้นไม้หลังบ้านและเฉาะมะพร้าวน้ำหอมให้กินสดๆเลย”

    อีกกิจกรรมที่สร้างสีสันและความสุขให้กับครอบครัว คือ น้องต้นกล้าจะเล่นดนตรี กีตาร์และเปียโน ให้ทุกคนร้องเพลงด้วยกัน เสียงเพราะหรือเสียงเพี้ยน สร้างเสียงหัวเราะและความสนุกสนานให้กับทุกคน

    คุณออยล์ ทิ้งท้ายด้วยข้อคิดถึงแม่บ้านตำรวจ ว่า เมื่อเลือกสามีอาชีพนี้แล้ว ต้องยอมรับและเสียสละหลายอย่าง ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าภรรยาเข้มแข็ง จะเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งให้กับสามีและลูก 

    ให้คุณพ่อได้ทำงานเพื่อส่วนรวม คุณแม่ก็ต้องเป็นหลักที่เข้มแข็งให้ครอบครัว อย่างวันก่อนได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่องขุนพันธ์  

    “พี่โมทย์เคารพและยึดถือท่านขุนพันธ์เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติงานมาตลอด มีฉากหนึ่งสะท้อนวิถีชีวิตจริงของตำรวจ คือ ขณะที่กำลังมีเวลาพักผ่อนกับครอบครัว แต่ถ้ามีงานด่วนเข้ามา เราก็ต้องเสียสละให้ไปทำงานเพื่อส่วนรวม

    เรียกว่าเป็นความโชคดีของผกก.โมทย์ ที่มีหลังบ้านเก่งและแกร่งอย่าง คุณออยล์ คอยซัพพอร์ตทุกสิ่งทุกอย่าง

    เติมเต็มด้วยความรักความเข้าใจ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และร่วมกันสร้างครอบครัวที่อบอุ่น

    ปร์วีร์2/4/66

     

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments