Tuesday, April 23, 2024
More
    Homeหลังเกษียณฯหลังเกษียณฯของรองอ๊าต

    หลังเกษียณฯของรองอ๊าต

    หลังเกษียณฯอายุเมื่อปี 59 เดอะอ๊าต-พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ อดีตรองผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ อดีตนักสืบมือปราบเลือดเดือด วางปืนที่ยิงโจร มาจับคราดไถเกี่ยวหญ้าเลี้ยงวัว ที่เลี้ยงไว้เกือบร้อยตัวในฟาร์มที่หัวหินอย่างมีความสุข

    นอกจากนี้ยังมีธุรกิจโรงน้ำแข็งอีก 2 แห่ง รีสอร์ตขนาด14ห้องที่ วังกะทะ อ.หัวหิน อีก 1 แห่ง

    นับเป็นการเกษียณฯอย่างมีความสุข และเป็นตัวอย่างให้ตำรวจรุ่นน้องทุกชั้นยศที่จะทยอยเกษียณฯตามมา วันนี้ไปดูกัน รองอ๊าต ใช้ชีวิตหลังเกษียณฯอย่างไรบ้าง

    ลูกทะเล ไม่ชอบน้ำแต่ชอบวัว
    เรื่องเลี้ยงวัวนี่ พี่เริ่มทำเพราะพี่ชอบเลี้ยงวัวมานานมากแล้ว เลี้ยงมาตั้งแต่ ร.ต.ต. และ ร.ต.ท. แต่ไม่ได้เอาจริงเอาจัง เลี้ยงแบบสนุก ไว้ดูยามว่าง เลี้ยงที่อุดรฯ ทางเข้าเขื่อนห้วยหลวง พี่มีที่ของตำรวจลูกน้องมีอยู่ 10 กว่าไร่ ก็เอาวัว ที่ซื้อมา 4-5 ตัว ไปปล่อยเลี้ยงไว้ ถ้าถามนึกยังไงถึงเลี้ยงวัว ก็ไม่รู้เหมือนกัน เป็นลูกทะเลนะ เกิดกับทะเล ที่บ้านสมัยก่อนทำเรือโป๊ะ แต่ไม่ชอบ ไม่ชอบน้ำ ไปชอบวัว

    เริ่มซื้อที่ ตอนเป็นสวป.หัวหิน
    พี่เป็นคนหัวหิน บ้านเกิดอยู่ทะเลเลย ทีนี้พอเราชอบวัว ปุ๊บ ช่วงเวลาทำงาน ก็ไม่มีเวลาอยู่กับมันอย่างจริงจัง เพราะเราชอบจรยุทธ์ไปทั่ว มาเริ่มเอาจริงๆ จังๆ ตอนอยู่กองปราบ ตอนเป็น สว.และ รอง ผกก.กองปราบ ก็เริ่มมีที่แปลงนี้ ที่วังกะทะ ซื้อตอนเป็น สว.ป.หัวหิน ตอนนั้นมันถูก แค่ 2 แสนกว่าบาท ทั้ง 9 ไร่ นี่ ซื้อได้ไร่ละ 3 หมื่น สมัยก่อน ปี 2533-2534

    จาก5 เป็น 10 ถึงตอนนี้ 70 ตัว
    ทีนี้พอมีตังค์ ก็ซื้อวัว ซื้อแม่วัวไทย มา 5-10 เลี้ยงไปเรื่อยๆ เป็นป่า ไถแล้วทำคอกวัวขึ้นมา เช้าก็ไล่ต้อนมัน เพราะว่าแต่ก่อนมันยังไม่มีบ้าน 20 กว่าปีที่แล้วยังเป็นทุ่งโล่งๆก็เลี้ยง เริ่มตั้งแต่ 10 ตัว นี่เป็นวัวไทย แล้วก็ไปซื้อพ่อวัวดีๆ ของพรรคพวกที่อุดรฯ มาทำพ่อจากวัวไทย มาเป็นวัวบรามั่น นี่หลายชั้นนะ 5-6 ชั้น จนเดี๋ยวนี้เป็นเลือดบรามัน แล้วเลี้ยงมาเรื่อยๆ จนเดี๋ยวนี้มีอยู่ 70 กว่าตัว ถ้าตีมูลค่าจริงๆตอนที่วัวกำลังราคาดีนี่นะ 70 ตัว มันก็ประมาณ 4 ล้านกว่าบาท

    ออกลูก 20-30 ตัวต่อปี
    เงินปันผลก็คิดอย่างนี้ เรามีแม่วัว อยู่ 50 ตัว ที่เป็นแม่วัว นอกนั้นก็เป็นลูก พ่อพันธุ์แค่ 2 ตัว แล้วมันออกให้เราปีละ 30 ตัว อย่างน้อย 20-30 ตัวทุกปี เฉลี่ยเดือนหนึ่ง 3 ตัว เดือนนี้ 3 ตัวแล้ว มันก็ออกมาเรื่อย เราก็คัดขายไป ตัวที่เกิดมารูปร่างไม่ดี เนื้อไม่ดี เราก็ขาย อายุสักขวบสองขวบ เราก็ขาย เราไม่เก็บไว้ แต่ถ้ารูปร่างดีๆ ก็เก็บไว้จนอายุ 5-6 ปีก่อน เราก็ขาย

    ตัวเมีย ถึงอายุ 8-9 ปี ขายออก
    พี่ขายไปตัวล่าสุด 9 หมื่น ตัวเดียวนะ น้ำหนักเกือบตัน ตัวผู้ ตัวเมียเราเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อ แต่ตัวเมียที่อายุเยอะแล้ว ก็ขายออกไปเรื่อย แม่วัวอายุสัก 8-9 ปี พี่ก็ขายแล้ว แต่เขาให้อยู่ได้ถึง 12 ปี ตามกฎหมาย แม่วัว อายุถึง 12 ปี เขาให้เข้าเชือดได้แล้ว เพราะมันเป็นแม่ไม่ดีแล้ว กฎหมายให้เข้าโรงฆ่าสัตว์ได้ แต่พี่จะขายตอนสัก 8-9 ปี ขายแล้วให้คนอื่นเขาเอาไปเลี้ยงต่อ

    ช่วงราคาดีๆตัวละ5 หมื่น
    เรื่องฆ่า เราไม่รู้ คือเราผสมให้เสร็จ ผสมท้อง ขายให้เขาไปเลี้ยง มันก็ได้ลูกด้วยไง ถ้าตอนที่ราคาดีๆ ตัวหนึ่งก็ 5 หมื่นกว่าบาท แต่ช่วงนี้ราคาวัวไม่ดี ก็ 3 หมื่นกว่า ราคาตก วัวราคาตก เพราะว่าเนื้อนอก เนื้อเถื่อนมันเข้าเยอะ

    ขายน้ำแข็งทำเธคควบคู่เลี้ยงวัว
    นอกจากลี้ยงวัว ก็ทำโรงน้ำแข็ง พี่ขายน้ำแข็งตั้งแต่เป็น สว.ป.หัวหิน ตอนนั้น ทำร้านอาหาร ทำเธค ถึงวันศุกร์ เสาร์ ต้องสต็อกน้ำแข็งไว้ขาย แต่บังเอิญ โรงแรมแกรนด์ตอนนั้นมันมีเอ้าท์เลต ที่เป็นร้านค้าเยอะ พอหลัง 6 โมงเย็น น้ำแข็งที่หัวหินจะไม่มีขาย โรงงานปิด เขาก็จะมาโป๊ะน้ำแข็งที่เรา เพราะเราสต็อกไว้ใช้

    เริ่มด้วยการขายหน้าร้านก่อน
    เขาก็มาขอแบ่ง 20 กก.หรือ 30 กก.จนพี่ก็เก็ตไอเดีย เอ้า กูขายเลยดีกว่า ก็ไปติดต่อโรงน้ำแข็ง ขอในราคาต่ำ ราคาส่ง พี่ก็มาขาย กก.ละ 2 บาท ซื้อมาแค่ 80 สตางค์ ก็ได้กำไร กก.ละบาท ก็เริ่มขายจากตรงนั้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งแฟนพี่เขาไปเปิดหน้าร้าน ส่งน้ำแข็ง ขายจากวันละ 500 กก.ไปเรื่อยๆ เริ่มอย่างนี้ จนกระทั่งมีลูกค้าเยอะ ขายมาเป็นสิบปีนะ

    สร้างโรงน้ำแข็งเพราะคู่แข่งกลัวโต
    กระทั่งมาเป็น ผกก.1 บก.ป.แล้วมีปัญหากับโรงน้ำแข็ง คือเราไปเอาน้ำแข็งกับเขา แล้วเขาไม่ให้ หรือเขาให้ไม่ครบ เราเสียลูกค้า ตอนนั้นพี่ขายได้ถึงวันละ 7-8 พัน กก.แล้ว ก็ 7-8 พันบาทต่อวัน.โรงน้ำแข็งมันกลัวเราโต มันก็ไม่ให้ จนลูกค้าเราหายไป เหลือ 5 พันกว่า กก.ต่อวัน

    เอาบ้านเข้าแบงก์ โชคดีมีพวกช่วย

    ก็คุยกับแฟน เอาบ้านไปเข้าธนาคาร กู้เงินมาสร้างโรงน้ำแข็ง ก็บังเอิญตอนเป็น ผกก.ที่กองปราบ ได้ช่วยเขาไว้คดีหนึ่ง แล้วตอนพี่ถูกย้ายไปอยู่แม่ฮ่องสอน เขาโทร.ให้พี่มาเป็นพยานที่ศาล ก็มาเป็นพยานให้ นั่งอยู่ที่ศาลอาญา กรุงเทพฯ คุยกันเรื่องคดี แล้วสุดท้าย เราก็บอกเขา กำลังคิดจะทำโรงน้ำแข็ง เขาก็บอก ผมนี่ทำน้ำแข็งอยู่ เขาเลยช่วยพี่ทุกอย่าง จากที่จะต้องลงทุนเกือบ 20 ล้าน 10 กว่าล้าน เหลือลงทุนแค่ 7 ล้าน


    ป้อนน้ำแข็งร้านสะดวกซื้อทั้งหัวหิน

    เขาทำเครื่อง ประกอบเครื่องให้ใหม่เสร็จเรียบร้อยเลย พี่ก็ขายมา นั่นแหละ ขายมาเรื่อยๆ โรงน้ำแข็งโรงแรกที่บ่อฝ้าย แล้วบังเอิญ แฟนพี่ตอนที่เขาขายหน้าร้าน ช่วงนั้นเซเว่นฯ มาลงหัวหินใหม่ๆ เขาก็หาซัพพลายเออร์ที่จะส่งน้ำแข็งแพ็ค เขาก็มาหาแฟนพี่ แฟนพี่ก็รับไว้

    เริ่มตั้งแต่หัวหิน มีแค่ 2 เซเว่นฯ ทำคอนแท็คกัน ตอนนั้นปี 2551 หรือ 2552 เซเว่นฯ มันเยอะแล้วไง เขาก็เรียกพี่ไปเข้าระบบเขา พี่ต้องไปนั่งอบรม ให้เขามาตรวจโรงงาน จนได้สัญญา ส่งให้เซเว่นฯ เจ้าเดียวในหัวหินตอนนี้ รวมทั้งร้านแฟมิลี่มาร์ท ร้านสะดวกซื้อทั้งหมด รวมแล้วประมาณ 100 แห่ง จากที่ได้เริ่มทำ มาจากขายเล็กๆ น้อยๆ จนมาจริงจังเมื่อตอนปี 2551 – 2552 โรงน้ำแข็งสร้างเสร็จประมาณปี 2552

    ยอดขายสูงจนต้องสร้างเพิ่ม
    จนก่อนหน้านี้ 2 ปี ยอดขายเรามันสูง เครื่องที่ลงไว้ มีกำลังผลิตแค่ 15 ตัน มันไม่ไหว ต้องวิ่งไปเอาที่ชะอำ วันหนึ่งเกือบ 10 ตัน ช่วงนี้ ช่วงหน้าร้อน มันขายพีกมากเลยมีแนวคิดมาสร้างโรงน้ำแข็ง เพื่อที่จะเอาไปป้อนโรงหนึ่ง ไปกู้ธนาคารทหารไทย มา 3 ล้าน บวกเงินสดที่สะสมไว้ตลอดชีวิตราชการ ประมาณ 3 ล้าน กู้มาอีก 3.7 ล้าน รวม 7 ล้าน เท่ากับโรงแรก ได้เครื่องจักรมือสองจากคนแรกที่ช่วยเรา นี่กำลังผลิตประมาณเกือบ 40 ตัน ต่อ 24 ชั่วโมง โรงโน่น 15 ตัน เอง พิ่งสร้างเมื่อตอนที่พี่เกษียณปีแรก ปี 2559 ปลายปี สร้างไม่ถึงปีเสร็จ

    กู้สหกรณ์ สร้างโรงแรม 14 ห้อง
    ส่วนตัวโรงแรม พี่ทำเมื่อก่อนจะเกษียณ 2 ปี มี 14 ห้อง กู้สหกรณ์มา 2 ล้านกว่า คือเราเป็นช่าง เรามีความรู้ แล้วเราสร้าง 14 ห้อง สร้างไม่ถึง 2 ล้าน เอาช่างมาทำ แต่เราออกแบบ ตกห้องหนึ่งแค่แสนกว่าบาท ก็ แต่เดี๋ยวนี้ทำไม่ได้แล้ว

    อย่างน้อยๆ นะ ตอนนี้ห้องหนึ่งต้องมีอย่างน้อย 3 แสน แล้ว 14 ห้อง ต้องมีเกือบ 4-5 ล้าน แต่พี่ทำแค่ แสนกว่าบาท ที่มาสร้างตรงนี้ เพราะเราไม่มีที่ตรงที่อื่น และตอนนี้มันก็กำลังจะขยายมาตรงนี้ อีก 5 ปี ตรงนี้มันจะเต็มหมด นี่มันเส้นออกไปบายพาส ห้วยมงคล จากหัวหิน มันมาได้หลายทาง สรุปก็มีธุรกิจ 3 อย่าง

    ลงทุนปูทางธุรกิจให้3 ลูกชาย
    แต่วันนี้ เรายึดเป็นอาชีพหลัก คือวัว ของเราเอง แต่โรงน้ำแข็ง โรง 1 กับ 2 มีให้ลูก พี่มีลูก 3 คน อีกคนยังไม่จบ แต่ก็คุยกันแล้ว คนที่ 3 จะเอาวัว แต่ว่าทั้งหมดเป็นกงสี มีรายได้ก็เอามาแชร์กัน ส่วนโรงแรมวันนี้ ปกติพี่ดูเอง แต่ช่วงนี้พี่เหนื่อย กำลังจะปรับมาเป็นเช่ารายเดือน จะได้ไม่ต้องไปสนใจมาก กะว่าถ้าเช่าเต็ม พี่ก็มีประมาณเดือนละ 4 หมื่นทุกเดือน เฉพาะโรงแรม

    ส่วนโรงน้ำแข็งนี่ให้ลูก ไม่เคยยุ่ง แล้วลูกจะให้ใช้เดือนละเท่าไหร่ ก็ว่าไป เป็นสมบัติเราให้เขา เราลงทุนให้ ส่วนวัวนี่เราขายได้เท่าไหร่ ก็ของเราเท่านั้น บำนาญก็ 6 หมื่นกว่าบาท ก็ไม่ได้เดือดร้อน

    แนะ ตร.เตรียมตัวก่อนเกษียณฯ
    จะบอกอะไรให้ตำรวจที่จะเตรียมตัวเกษียณ ว่า คือทุกคนเป็นตำรวจ หวังมีเงินพิเศษ เงินนอกระบบ เงินอะไรก็แล้วแต่ นั้นคิดผิด แล้วลำพังเงินเดือนตำรวจอย่างเดียว มันเอาชีวิตไม่รอด ถ้าไม่รู้จัก 1.ไม่รู้จักเก็บ 2.ไม่รู้จักใช้ 3.แล้วไม่รู้จักหาเพิ่ม คือ 3 อย่าง รู้จักใช้ รู้จักเก็บ แล้วรู้จักหาเพิ่ม เพราะการหาเพิ่มแล้วไม่ถูกต้อง มันก็ไม่ยั่งยืน

    ทำอะไรก็ได้ที่มีความสุข อย่าเดี๋ยว
    ที่พูดนี่ สาระสำคัญคือ ทำงาน อย่าให้เสียหาย แต่อย่าให้มันเด่นมาก ทำงานในหน้าที่ตัวเองให้มันดีที่สุด เอาเวลาที่ยังพอมีเหลืออยู่ ไปวางความเข้มแข็งให้กับครอบครัว แล้วอย่าคิดว่า เดี๋ยวค่อยมาทำ แต่ต้องทำเลย อะไรก็ได้ ที่เราคิดว่าทำแล้วเรามีความสุข คนเรามันไม่เหมือนกัน อย่างลูกน้องพี่ แต่ก่อนมาเป็นสายตรวจ มันชอบขายก๋วยเตี๋ยว ออกเวร มันไปขายก๋วยเตี๋ยว เดี๋ยวนี้มันไม่เป็นตำรวจแล้ว มันขายก๋วยเตี๋ยวรวยแล้ว

    นึกไม่ออกให้ไปเลี้ยงวัว
    วันนี้พี่เป็นรองประธานสหกรณ์ตำรวจประจวบฯคนที่ 1 แต่เป็นประธานการพิจารณาคำขอกู้ ของสหกรณ์ตำรวจประจวบฯ พี่ทำหน้าที่เป็นประธานการพิจารณาคำขอกู้ พี่ถ้ากรณีกู้ไปเพื่อไปลงทุนทำธุรกิจ ส่วนตัวนะ พี่จะไม่เคยขัดข้องเลย เห็นคนแล้วแนะนำด้วย ถ้าวันนี้ยังไม่รู้จะทำอะไร ให้เลี้ยงวัวอย่างเดียว เหตุผลคือ วัว คืออาหารของมนุษย์ แล้วที่สำคัญคือ มนุษย์ที่เป็นอิสลาม กินวัว ไม่กินหมู ทุกวันนี้อิสลาม มีเป็นพันล้าน อาหารฮาราล มีทั่วโลก พี่จะบอกลูกน้องหมดเลย ให้ซื้อวัวทิ้งไว้

    ฝากชาวบ้านเลี้ยง ได้พวกไปในตัว
    เป็นสายตรวจ ซื้อวัว ทิ้งไว้ ไปฝากเขาเลี้ยงก็ได้ วัดบ้านนอกที่เยอะแยะ หรือไปฝากชาวบ้านที่ไหนเลี้ยงก็ได้ มึงเป็นตำรวจ นี่แหละ วิธีการที่เราได้พวก ได้เพื่อน แล้วพอเกษียณ ก็ขายวัว เอาเงินก้อน แต่ต้องใจแข็งนะ ขายไปเรื่อยๆ แต่อย่าขายหมด ค่อยๆ ทยอยขาย เอาเงินมากินมาใช้ แต่ถ้าขายหมด จะไม่เหลืออะไร

    พอหลังจากเกษียณปุ๊บ ความต้องการเนื้อวัวมันมหาศาล ยิ่งถ้าเป็นตำรวจบ้านนอกด้วยนะ ตำรวจภูธร ถ้ายังทำอะไรไม่ถูก มึงเลี้ยงวัว นี่ พี่บอกตำรวจทุกคน ไปประชุมที่ไหน พี่บอกให้เลี้ยงวัว ไปฝากบ้านโน่นเลี้ยงตัว บ้านนี่เลี้ยงตัว มึงไม่ต้องเลี้ยง ฝากชาวบ้านเขาเลี้ยง มึงก็ได้พวกด้วย ใช่มั้ย อย่างดี นานๆ เดือนหนึ่ง ก็ซื้อขนมนมเนย ซื้อเหล้าไปให้เขาขวดหนึ่ง

    นี่คือเกษียณอย่างมีคุณภาพของอดีตมือปราบ-เดอะอ๊าต ฉัตรไชย แต่ทั้งหลายทั้งปวงไม่เท่ากับความสุขที่ได้เลี้ยงหลานสาววัยขี้อ้อน ที่คุณปู่แสนจะรัก

    กิตติพงศ์ นโรปการณ์ 27/3/61

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments