คอลัมน์ อาชญา (ลง) กลอน
โดย…ธนก บังผล
เผลอแป๊บๆ จะเข้าครึ่งปีของ 2561 อีกแล้ว เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก
อย่างที่ใครหลายคนคาดการณ์กันไว้มานานแล้วนั่นละครับ ยิ่งเทคโนโลยีทางการสื่อสารพัฒนาไปมากเท่าไรก็เหมือนจะทำให้วุฒิภาวะของผู้ใช้ถดถอยลงเรื่อยๆ
เรื่องที่มันวุ่นวายกันจนเป็นข่าวเป็นคราวโด่งดังกันทุกวันนี้ก็มาจากการใช้โซเชียลมีเดียเลยเถิดจนควบคุมสติไม่ได้ และมันก็เป็นช่วงเวลาแห่งความตกต่ำของวงการสื่อพอดีที่จ้างนักข่าวมาเดินโชว์แล้วนำเสนอเอาข่าวสื่อออนไลน์เป็นหลัก
ดูอย่างกรณีอื้อฉาว 2 แม่ลูกในคลิปวิวาทตำรวจ-ถุยน้ำลายใส่หน้า เจ้าของวลี “ถอดเครื่องแบบมาต่อยกันตัวๆ” แล้วหันมามอง “ครอบครัวหัวร้อน” ต่อยเบ้าตาจราจรก่อนจะทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมมาขอโทษ เพราะคน จ.ระยองแห่กันมาไล่ออกจากพื้นที่จังหวัด
ว่ากันว่าพอมือจับโทรศัพท์เปิดอัดวีดีโอได้ปุ๊บ วิญญาณผีห่าซาตานก็มาลงองค์ทันที อะไรที่ไม่เป็นความจริงก็อ้างได้หมด แม้แต่จบนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เรื่องราวทั้ง 2 แม้จะระยะเวลาห่างกันแต่ก็สะท้อนความเป็นคนไทยสมัยนี้ได้ชัดเจน คือ ลูกฉันเป็นคนดี เรียบร้อย ไม่เคยทะเลาะชกต่อยกับใคร เกิดเหตุขึ้นมาก็ออกมาขอโทษ อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เหมือนเป็นไดอะล็อคให้มนุษย์ยุคดิจิตัลท่องตามๆกันมา
ในอีกด้านหนึ่งเมื่อเกิดเหตุเหล่านี้ขึ้น ก็จะมีพวกที่ทำตัวเป็นนักสืบไซเบอร์ ไปขุดคุ้ยเฟซบุ๊ก เบอร์โทร ที่อยู่ ออกมาประจานให้คนที่เกลียดชังโทรไปด่าทอต่อว่า
เข้าข่ายคุกคามสิทธิส่วนบุคคล แต่ก็เหมือนคนในประเทศนี้เห็นดีเห็นงามไปกับการล่าแม่มดแบบนี้…เพราะสะใจดี ?
นี่ก็สะท้อนให้เห็นว่าคนอีกกลุ่มหนึ่งในสังคมไทยมีจิตผิดปกติมากน้อยอย่างไร
ที่บ้ากว่าทุกสิ่งอย่างคือสื่อดันให้ความสนใจเอาครอบครัวไปออกโทรทัศน์ ก็หวังว่าคงไม่วิปริตจนมีผู้กำกับหนังมาติดต่อไปเล่นภาพยนตร์ให้ชาวบ้านถุยน้ำลายใส่นะครับ
แม้กระทั่งมีทหารออกมาจอดรถตรงขาวแดงซี่งเป็นเครื่องหมายห้ามจอด
มีผู้ถ่ายคลิปวีดีโอออกมาเผยแพร่ถึงความเหลื่อมล้ำ
หากเทียบกับกรณีครอบครัวหัวร้อน ซึ่งแม้ว่าทั้ง 2 กรณีจะถูกปรับไปตามระเบียบ แต่เรื่องที่ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้นก็เกิดได้ในสยามประเทศ คือ มีคนออกมาด่าว่าชายหนวดเคราทำเกินกว่าเหตุ เพราะทหารก็ยกมือขอโทษแล้ว
ปัญหาของระบบความคิดมันอยู่ตรงนี้ครับ คือ ใครยกมือขอโทษเป็นอันจบ โดยที่เราไม่สนใจว่าพฤติกรรมที่ทำอย่างนี้มาจากความคิดอย่างไร
อาทิ ทำเป็นประจำไม่เคยถูกถ่ายคลิปประจาน ทำเพราะใส่เครื่องแบบ แม้ตำรวจมาจับแต่ก็คุยกันได้ ใช้อภิสิทธิ์กันที่มากกว่าประชาชนทั่วไป
สังคมไทยอาจเห็นใจคนที่ยอมรับผิด แต่ไม่เคยสนใจพฤติกรรมต่อเนื่องนั้นๆ
ที่ทำให้สังคมไทยไม่เหมือนใครในโลกมากขึ้นไปอีกคือ คนที่ถ่ายคลิปต้องออกมาขอโทษ…ว่าทำรุนแรงเกินไป
ผมเชื่อว่าทุกคนมีเหตุมีผลและความอดทนไม่เท่ากัน ครอบครัวหัวร้อนโดนโห่จากคนในพื้นที่ขนาดนั้น ย่อมอยู่ไม่เป็นสุข จำเป็นต้องออกมาขอโทษ
ในขณะที่หนุ่มไว้เคราถูกคอมเม้นท์หนักหน่วงว่าทำเกินไปจนต้องออกมาขอโทษ
ไม่ต้องพูดถึงว่าใคร ใส่เครื่องแบบอะไร ทำอะไรนะครับ
เอาง่ายๆว่า ต้นเหตุเรื่องนี้มันเกิดจากอะไร แล้วทำไมต้นเหตุถึงกลายเป็นฝ่ายถูกเฉยเลย
โลกโซเชียลวุ่นวายจริงหนอ
