เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 27 ก.ค.66 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงการเตรียมแผนรองรับ กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทย ว่า
สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฎิบัติหน้าที่อย่างรอบคอบและรัดกุม เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย หากบุคคลใดที่ตกเป็นผู้ต้องหาและเดินทางเข้ามาประเทศตามระเบียบ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะมีหน้าที่ในการตรวจสอบและนำบุคคลตามหมายจับไปแสดง ซึ่งกรณีของ นายทักษิณ มีหมายจับชัดเจน หากมีการนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาลงที่ บน.6 ตำรวจ ตม.ก็ปฎิบัติหน้าที่
ขั้นแรกแจ้งข้อหาตามหมายจับ
ขั้นตอนก็จะไปแสดงหมายจับก่อนที่จะควบคุมตัวไปให้พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ลงบันทึกการจับกุม จากนั้นก็นำตัวส่งศาลพิจารณา แต่หากศาลปิดหรือหมดเวลาทำการก็จะนำตัวไปควบคุมไว้ที่สถานที่ควบคุมพิเศษโรงเรียนพลตำรวจบางเขน ซึ่งอยู่ภายในพื้นที่สโมสรตำรวจ เพื่อรอจนกว่าศาลเปิดทำการและมีคำสั่งต่อไป ซึ่งสถานที่ดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมพื้นที่ไว้รองรับแล้ว
มอบผู้ช่วยประจวบรับผิดชอบ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ขั้นตอนการรับตัวจะมีบช.น.และบช.สตม.เป็นผู้รับผิดชอบได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.ดูแลทั้งด้านความปลอดภัยและการจราจร รวมทั้งคณะทำงานที่จะไปรับตัวในวันที่อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับมา ขั้นตอนการรับตัวบุคคลที่มีหมายจับเดินทางเข้าประเทศเป็นไปตามระเบียบปกติโดยไม่เลือกปฏิบัติกับบุคคลใดเป็นพิเศษ ย้ำว่าการดูแลผู้ต้องหาเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดูแลให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้มีเหตุแทรกซ้อนเกิดขึ้นโดยเฉพาะการลอบทำร้าย
เตรียมแผนเผชิญเหตุรับมือ
ส่วนด้านการข่าวขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนที่จะก่อความวุ่นวายของกลุ่มที่เห็นต่าง โดยต้องประเมินสถานการณ์และรอดูความชัดเจนของจำนวนมวลชนและภัยแทรกซ้อนต่างๆก่อน แต่ขณะนี้ยืนยันว่าตำรวจได้เตรียมแผนเผชิญเหตุต่างๆไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้รับการประสานอย่างเป็นทางการว่าจะเดินทางกลับตามวันเวลาที่กำหนดหรือไม่แต่ทางตำรวจก็เตรียมความพร้อมไว้อย่างรัดกุม เมื่อถามว่าทางตำรวจต้องประสานโดยตรงไปยัง นายทักษิณ หรือไม่ว่า ผบ.ตร.ระบุเพียงว่ายังไม่ได้รับการประสาน เช่นเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศก็ยังไม่ประสานมาเช่นกัน
”บิ๊กโจ๊ก”ระบุหมายจับจะแสดงในระบบ
ก่อนนี้เมื่อเวลา 10.30 น.วันเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับไทยในวันที่ 10 ส.ค. ว่า สำหรับกรณีผู้ที่มีหมายจับและคดียังอยู่ในอายุความ ตามหลักการแล้วหมายจับจะแสดงในระบบฐานข้อมูลของด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินอยู่แล้ว หมายความว่า เมื่อนายทักษิณเดินทางเข้ามาผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบิน ระบบจะปรากฏข้อมูลหมายจับของศาล ให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหน้าด่านตรวจนั้นๆ ทราบทันที
หน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคือ จะต้องแจ้งให้บุคคลนั้นทราบ และควบคุมตัวต้องหาส่งให้กับศาลตามหมายจับ ขั้นตอนหลังจากนั้นขึ้นอยู่กับคำสั่งศาลว่า มีคำสั่งดำเนินการอย่างไรต่อผู้ต้องหา
มาเจ็ตส่วนตัวต้องผ่านขั้นตอนตม.
ขณะเดียวกัน ในกรณีเดินทางเข้าเมืองโดยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แล้วลงจอดในสนามบินอื่น เช่น บน.6 ของกองทัพอากาศ อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับสนามบินดอนเมือง จะต้องผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง เช่นเดียวกับการทางเข้าเมืองผ่านสนามบินทั่วไป
ส่วนด้านการข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ ขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มใดและยังไม่พบการข่าวที่น่ากังวล แต่เจ้าหน้าที่จะเฝ้าระวังไปจนถึงช่วงเวลาที่นายทักษิณจะเดินทางกลับ ตลอดจนช่วงเวลาหลังเดินทางกลับไทยแล้ว
นครบาลตามข่าวมาตลอด
ด้านพล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยถึง มาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัย ในห้วงเวลาสถานการณ์นี้ ว่า ได้เตรียมการมาแล้วตั้งแต่ช่วงแรกที่มีกระแสข่าวว่า นายทักษิณจะกลับประเทศไทย ยังคงเป็นไปตามมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย อีกทั้งมีการเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวว่าอดีตนายกนายกรัฐมนตรี จะกลับมาจริงหรือไม่มาโดยตลอด
สำหรับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยดังกล่าว มีความเป็นไปได้ ว่า จะเป็นไปตามขั้นตอนที่ระบุ ตาม เอกสารลับของทางบช.น. ที่ถูกเผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้ เนื้อหาเอกสารระบุการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ มีขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมายกรณีมีผู้ต้องหาตามหมายจำคุกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยเครื่องบินโดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ การรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางทั้งหลักและรองจากท่าอากาศยาน ศาลฎีกา กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ