เหตุสลดตำรวจเสียชีวิตจากการระงับเหตุผู้ป่วยจิตเวชคลุ้มคลั่งอาละวาด มีให้เห็นอยู่ตลอด
ล่าสุด หมวดอิส–ร.ต.ท.อิสราวุฒิ โกพลรัตน์ รองสวป.สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม
ถูกนายอานุเดช ไชยปัญญา คลุ้มคลั่งใช้มีดแทงเสียชีวิตบริเวณบ้านเลขที่ 89 ม.9 บ้านโชคอำนวย ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จว.นครพนม เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายโมงวันที่24 ธ.ค.66
เหตุสลดนี้ทำให้เด็กๆ4คนกลายเป็นเด็กกำพร้าทันที
ขณะที่การตรวจสอบพบนายอานุเดชผู้ต้องหารายนี้ และถูกจับกุมได้ มีประวัติคดียาเสพติดในพื้นที่ สภ.นาแก , สภ.ธาตุพนม รวม 7 คดี
เบื้องต้น ป.ป.ส. ภาค4 ได้เข้าไปมอบเงินช่วยเหลือ และให้สิทธิตามกฎหมายแล้วเนื่องจากเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด เช่นเดียวกับพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.สั่งกำชับภาค4ดูแลสวัสดิการอย่างเต็มที่
แต่ที่ตำรวจในโลกโซเชี่ยล โดยเฉพาะสายตรวจมดงาน ต่างแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวพวกเขาในการปฎิบัติหน้าที่ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน ยกมาให้อ่านดูกันครับ
ผู้ต้องหามีประวัติคดียาเสพติดในพื้นที่ สภ.นาแก , สภ.ธาตุพนม รวม 7 คดี แบบนี้ไม่ใช่ ป่วยจิตเวช ครับ แต่นี่คือ คลั่งยา
บางคนบอกว่า การกำหนดว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช แล้วเอาตัวไปบำบัด น่าจะถึงเวลาต้องทบทวน
ผู้ก่อเหตุ มีประวัติคดียาเสพติดในพื้นที่ เป็นผู้อยู่ระหว่างการบำบัด แต่ในสภาพความเป็นจริง คือ รพ. ให้มาบำบัดที่บ้าน เมื่อกลับมาที่บ้านจึงหวนกลับไปใช้ยาเสพติดอีก แยกตัวอยู่คนเดียว เพราะญาติพี่น้องหวาดระแวง
เมื่อมีอาการคลุ้มคลั่ง ญาติจะแจ้งตำรวจให้ไปนำตัวส่งสถานบำบัด เพราะเข้าหลักเกณฑ์ผู้ป่วยจิตเวช การปฏิบัติต่อคนป่วยคือให้กลับมารักษาตัวที่บ้านทุกครั้ง จนกระทั่งมาก่อเหตุฆ่าตำรวจในคดีนี้
เคสนี้ ตำรวจผู้ตาย รู้จักผู้ต้องหามาก่อน และเคยก่อเหตุมาหลายครั้งขณะที่ ผู้ตายระงับเหตุเป็นประจำ อาจจะชะล่าใจ ไป ว4 นายเดียว คิดว่าจะพูดคุยได้
เคสแบบนี้ ไม่ควรเกิดขึ้นอีก ไม่ควรประมาท ไม่ควรไว้ใจ คนคุ้มคลั่ง คนหลอนยา เพราะไม่มีสติ สติแตก
ตำรวจเก่ามีประสบการณ์ แต่มักพลาดเพราะประมาท ชะล่าใจ ตำรวจใหม่ ประสบการณ์ยังไม่มาก แต่มักพลาด เพราะประสบการณ์ไม่เพียงพอไม่กล้าตัดสินใจ
บางคนบอกว่า ผู้บังคับบัญชาต้องวางมาตรการครับ เคสอย่างนี้ ตร.ไม่ต้องรีบออก ว.4 กำลังต้องพร้อม…ก่อนออกไประงับเหตุ
แต่ประเด็นที่น่าสนใจมากๆ
ก็เพราะมันจำกัดเวลาในการเข้าระงับเหตุในเขตเทศบาล นอกเขตเทศบาลต้องไปถึงภายในกี่นาทีตามระยะทาง ไม่รู้ทำไมต้องมาจำกัดเวลาแบบนี้ด้วย
ไปช้าก็โดนเขียนรายงานชี้แจง เคสจิตเวชนายๆเบื้องบนยิ่งเร่งยิ่งให้ความสนใจไม่ไปหรือไประงับเหตุช้า ความผิดก็ตกอยู่กับผู้ปฎิบัติ พลาดมานายๆก็บอกไม่มียุทธวิธี ไม่รอกำลังเสริม
ปืนไฟฟ้าพังไปนานล่ะแบตเสื่อมกระสุนหมดไม่มีมาให้สำรอง มันน่าเศร้าครับพูดไปมากก็ไม่ได้
ระดับปฎิบัติการอย่างเราๆ ก็ได้แค่บ่นให้กันฟัง เรื่องจริงเจ้านายใหญ่ๆ ไม่กล้ารับฟัง ครับ สุดท้ายกระทำการด้วยปัญญา เท่านั้นครับ
ใช่ครับ นายๆเบื้องบนเขารู้แต่ก็ไม่แก้ไขให้เรา กำลังพล อุปกรณ์ ขาดแคลนทั้งนั้นโดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน สภ.ห่างไกล แต่ต้องทำทุกอย่างเท่าทุกเรื่องสภ.ใหญ่ๆ และอีก ฯลฯ
ขอแสดงความเคารพไปยังตำรวจทุกท่าน ที่สละชีวิตเป็นข้อคิดบทเรียนอุทาหรณ์เตือนใจ ให้ตำรวจมดงานที่ยังอยู่ นำไปใช้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อลดความสูญเสียจากการระงับเหตุป่วยจิตเวช(คลั่งยา)