จ่อหารือแรงงานผุดใบประกอบวิชาชีพ เตรียมยกระดับสร้างมาตรฐานอินฟลูเอนเซอร์ไทยให้เป็นสากล
วันที่ 24 มี.ค.67 ที่งาน Creator Selection Thailand ดร. ภัณฑิล จงจิตรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ และนายก่อพงศักดิ์ ตันติศิริรักษ์ นายกสมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย TITA ร่วมเปิดงาน Creator Selection Thailand
ภายในงานได้รวมครีเอเตอร์กว่า 400 รายร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของสมาคมอินฟูลเอ็นเซอร์ไทยที่จับมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการผลักดัน ครีเอเตอร์ไทยไปสู่ตลาดโลก
ดร.ภัณฑิลกล่าวว่า รูปแบบการค้าในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะหลังโควิด-19 ความนิยมและอิทธิพลของอินฟูลเอ็นเซอร์ ถือว่าเป็นบทบาทสำคัญ ต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค ทั้งการเติบโตของตลาดออนไลน์ และ e-commerce ในอนาคต ก็ต้องพึ่งพาคอนเทนต์ที่น่าดึงดูดเพื่อสร้างแรงจูงใจในการซื้อสินค้า ซึ่งถือเป็นบทบาทของ ครีเอเตอร์ หรือผู้สร้างคอนเทนต์
ในปัจจุบัน มี ครีเอเตอร์ กว่า 51 ล้านคนทั่วโลก มีรายได้รวมต่อปีกว่า 16,800 ล้านดอลลาร์ ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับภาคเอกชน และผู้ผลิตซีรีส์วาย ซีรี่ส์ยูริ เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์สินค้าแบรนด์ไทย เนื่องจากการมีอินฟูลเอ็นเซอร์คนไทยที่มีความเข้าใจวัฒนธรรมของผู้บริโภคภายในประเทศถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการผลักดันการขายสินค้าจากธุรกิจไทยต่อตลาดออนไลน์ทั้งใน และต่างประเทศ
เรื่องนี้ถือเป็นโอกาสใหม่ สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยังช่วยเผยแพร่สินค้าไทยสู่สายตาชาวโลกโดยมีครีเอเตอร์เป็นผู้ช่วยสนับสนุนผลักดันเศรษฐกิจผ่านการขายสินค้าบนโลกออนไลน์
ด้านนายก่อพงศักดิ์ กล่าวว่า จุดประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ตั้งใจ เป็นการเปิดตัวสมาคมอย่างเป็นทางการ เนื่องจากปัจจุบันอินฟูลเอ็นเซอร์ในไทยมีมาตรฐานที่ไม่ชัดเจน สมาคมต้องการที่จะสร้างมาตรฐาน และคุณภาพที่ชัดเจนให้กับเหล่าอินฟูลเอ็นเซอร์
หลังจากนี้จะทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้เกิดการค้าแนวใหม่ และจะทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้เกิดใบประกอบวิชาชีพ ของอินฟูลเอ็นเซอร์ หรือครีเอเตอร์ เพราะหากมีใบประกอบวิชาชีพก็ถือได้ว่าอินฟูลเอ็นเซอร์ไทยมีมาตรฐาน
ในปัจจุบันยอดขายจากการขายของอินฟูเอนเซอร์ทำเงินแล้วกว่า 5 พันล้านบาท แต่ทางสมาคมต้องการผลักดันเพื่อให้ยอดไปถึง 20,000 ล้านบาท นี่ถือเป็นพันธกิจที่สมาคมอยากจะให้เกิดขึ้น และต้องการให้ ค่า GDP ของประเทศไทยเติบโตขึ้นมากกว่าเดิม
” หลังจากนี้เราตั้งใจจะทำงานร่วมกับกระทรวงแรงงาน เพื่อผลักดันให้เกิดใบประกอบวิชาชีพ หลังจากนั้นเราจะผลักดันในเรื่องของกฎหมาย มีความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรมผลักดันให้เกิดกฎหมาย ที่ครอบคลุมการจัดทำคอนเทนต์ ของเหล่าอินฟูลเอ็นเซอร์เพราะหากมีคอนเทนต์ที่ไม่ดีและไม่มีคุณภาพก็อาจทำให้สังคมเสื่อมเสีย การมีกฎหมายในการควบคุม จำเป็นต้องทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรมในอนาคต”นายก่อพงศักดิ์ กล่าว
ส่วนเรื่องของการผลักดันการค้าทางสมาคมเตรียมเข้าหารือและปรึกษากับกระทรวงพาณิชย์ ในเรื่องของการค้าแนวใหม่ และ หลังจากนี้จะมีโปรเจคที่ทางสมาคม ผลักดันให้เกิดอินฟูลเอ็นเซอร์หน้าใหม่ หรือ อินฟูลเอ็นเซอร์เดิม เพื่อทำให้พวกเขาเหล่านี้ ผลิตผลงานที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก
นายก่อพงศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การใช้อินฟูลเอ็นเซอร์ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งทางตรงและทางอ้อม คือการที่ทำให้คนเข้าถึง แบรนด์ใหม่ ที่กำลังจะเกิดได้มากขึ้น แต่ในเรื่องนี้ก็ถือว่ามีมุมที่แย่เพราะหากคนเข้าถึงได้ง่าย ก็จะเข้าถึงอะไรที่เสื่อมเสียได้ง่ายเช่นกัน ฉะนั้น ในส่วนนี้สมาคมจึงต้องเข้ามาผลักดัน และช่วยเหลือ ว่าทำอย่างไรให้เกิดคอนเทนต์ ดีๆ การค้าดีๆ และผลักดันสินค้าไทยไปสู่ตลาดโลกได้ในอนาคต
ในขณะเดียวกัน TITA จะร่วมมือกับภาคเอกชนอย่าง“SHOPGENIX” ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะและความรู้ด้านเทคนิคการขายให้กับอินฟลูเอนเซอร์โดยจัดตั้งสถาบันปั้นครีเอเตอร์ให้สามารถสร้างรายได้ใน tiktok อย่างมืออาชีพ และชูสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ (Soft power)
อย่างแบรนด์ “นาถะ (NATHA)” สินค้าบุญนาถะ โดยคำว่า “นาถะ” มาจากท้ายนามของพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งนาถะเป็นผลิตภัณฑ์ของคนไทยที่ดึงเอาเอกลักษณ์ของสมุนไพรไทยแบบดั้งเดิมมาสร้างสรรค์เป็นสินค้าที่หลากหลาย ได้มาตรฐานอยู่ในการดูแลของหลวงพ่ออลงกต “ผู้รับ สู่ผู้ให้” มีสินค้าอุปโภค บริโภค
อาทิ สบู่สมุนไพร แชมพูสมุนไพร ครีมนวดผม ยาสีฟัน แอลกอฮอล์สเปรย์ เสื้อยืดคุณภาพดีที่มีลายเซ็นของหลวงพ่ออลงกต เป็นต้น แบรนด์ “สิรินัมเบอร์ส (Siri Numbers)” เครื่องประดับมงคลสายมูเตลูชื่อดังที่ได้รับการปลุกเสกมาเป็นอย่างดี ส่งเสริมการเผยแพร่ความศรัทธาของคนไทย เป็นต้น