กลางเดือนตุลาคม 2560 ลูกชายผมมีโอกาสลงเล่นแมตช์ไอทีเอฟเกรด เอ ที่โอซาก้า ประเทศญีาปุ่น ซึ่งถือเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ย่ิงใหญ่ที่สุดในชีวิตเท่าที่ลูกชายผมเคยแข่งขันมาครับ ที่ผ่านมาเคยเล่นแต่ในรายการระดับเกรด 1 , 2 , 3 และสูงสุดคือบี 1 ที่ประเทศอินเดีย ส่วนระดับเกรด เอ ตอนแรกยอมรับว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก เพราะด้วยแร้งกิ้งเยาวชนโลกยังห่างไกลอยู่พอสมควร
ไอทีเอฟจูเนียร์เกรด เอ เป็นแมตช์ใหญ่สุดของทวีปเอเชีย ดังนั้นนักกีฬาที่ลงชิงชัยล้วนเป็นพวกหัวกะทิกันทั้งนั้น แม้แต่มือไวล์การ์ดของเจ้าภาพยังแข็งโป๊ก เรียกว่าไม่มีสมันให้เคี้ยวกันง่ายๆ แน่นอน เอาแค่มือในรอบคัดเลือกที่ไปเล่นยังโหดหินเลยครับ
ถึงแม้ศักดิ์ศรีของเกรด เอ ที่โอซาก้าอาจดูเป็นรอง 4 แกรนด์สแลมอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลี่ยนโอเพ่น เฟร้นโอเพ่น วิมเบิลดัน และยูเอสโอเพ่นครับ แต่ใครได้แชมป์ที่นี้ก็มีแต้มสูงถึง 250 แต้มเทียบเท่าแกรนด์แสลมครับ ทำให้นักหวดเยาวชนมือดีๆ ทั่วทุกมุมโลกต่างก็บินมาล่าแต้มกันเยอะ ไม่นับมือชั้นนำของเอเชียอีกหลายคน
ส่วนลูกชายผมได้เล่นรอบเมนดรอว์ตามอัตโนมันตามแร้งกิ้งมือ 269 ของโลก แต่กว่าจะได้เล่นเอาลุ้นกันตัวโก่ง เพราะตอนประกาศสถานภาพรายช่ืออยู่อันดับท้ายๆในรอบคัดเลือก แต่โชคดีที่พอถึงวันใกล้กันถอนตัวมีคนสละสิทธิ์กันเยอะจนในที่สุดได้เล่ือนไปอยู่รอบเมนดรอว์แบบคาดไม่ถึง
เพราะก่อนหน้านี้ตั้งใจไว้ว่าถ้าเล่นรอบคัดเลือกก็คงถอนตัว เพราะเป็นเรื่องยากมากครับที่จะผ่านมือคลอลิฟายด์ 64 คนที่จะคัดเอาแค่ 8 คนเท่านั้นได้สิทธิ์ไปเล่นรอบเมนดรอว์อีก 64 คน แต่พอทราบผลว่าลูกชายผมได้เล่นรอบเมนดรอว์ก็ยังลังเลอีกว่าจะไปเล่นดีหรือไม่
เหตุผลก็คือรายการนี้ไม่มีเพื่อนนักหวดหนุ่มสายเลือดไทยได้เล่นเลย มีเพียงลูกชายผมคนเดียวเท่านั้น ถ้าจะไปก็ต้องเดินทางไปตามลำพัง ซึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจว่าลูกชายจะบินเดียวได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาจะไปกันเป็นกลุ่ม 3-4 คน โดยมีโค้ชของสมาคมกีฬาเทนนิสฯเป็นผู้ควบคุมการเดินทางทั้งหมด
แต่เมื่อปรึกษากันในครอบครัวเห็นว่า ถ้าไม่เร่ิมต้นนับหนึ่งก็ไม่มีสองสามสี่ อนาคตหากยังคงเดินในเส้นทางนี้ก็ต้องพึ่งพาตัวเองครับ
สุดท้ายไปปรึกษาโค้ชและผู้ใหญ่ในสมาคมกีฬาเทนนิสฯก็เห็นด้วยที่จะให้ลูกชายผมไปแข่งหาประสบการณ์ในเกมส์สูงๆระดับเกรด เอ ถึงแม้มันจะแลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่พอสมควร ผมเองต้องขอบคุณสมาคมฯเป็นอย่างย่ิงครับเพราะนอกจากสนับสนุนลูกชายผมไปเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่แบบนี้ ยังจัดโค้ชไปดูแลใกล้ชิดแบบต่อต่อตัวอีกด้วย
การไปทัวร์ญี่ปุ่นเที่ยวนี้นอกจากลูกชายผมจะไปเล่นไอทีเอฟเกรด เอ ที่โอซาก้าแล้ว ยังมีโปรแกรมแข่งเกรด 2 ที่เมืองนาโกย่าต่ออีก 1 วีค ส่วนรายละเอียดการแข่งขันจะเป็นอย่างไร ผมจะมาเล่าให้ฟังอีกครั้งครับ แต่ก็เช่ือว่าผลการแข่งขันมันไม่สำคัญเท่ากับประสบการณ์ครั้งนี้ที่เขาจะได้รับโดยตรง เพื่อเป็นบันไดก้าวสู่นักหวดอาชีพในอนาคตครับ
————————–
เดอะวินเนอร์
