รวบหนุ่มแสบอ้างเป็นซี 6 กรมส่งเสริมสหกรณ์ ลวงรักเจ้าของร้านเสริมสวยในจังหวัดสุรินทร์ สร้างเรื่องน่าสงสารหลอกเงินยังไม่พอ ยังหลอกจะแต่งงานด้วย สุดท้ายเชิดทองหนัก5 บาทของฝ่ายหญิงหลบหนี
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 18 ก.ค.ที่ กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป.พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.มนูญ แก้วกล่ำ รอง ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ต.ฐิติวัสส์ แซมเขียว สว.กก.4 บก.ป.
นำกำลังจับกุม นายศักดา อายุ 36 ปี ชาวพัทลุง ตามหมายจับศาลแขวงสุรินทร์ ลงวันที่ 30 พ.ค.2561 ข้อหาฉ้อโกง จับได้ที่ลานจอดรถห้างสยามพารากอน ถนนพระราม 1 แขวงและเขตปทุมวัน กทม.
พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.4.บก.ป.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายศักดา ผู้ต้องหา ได้เข้าไปแชตพูดคุยกับ น.ส.น้อง (นามสมมติ) อายุ 36 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยอยู่ใน จ.สุรินทร์ ผ่านแอพลิเคชั่นบีทอล์ค( Bee Talk )
เริ่มทักทายตีสนิท พร้อมทั้งอ้างว่าโสด ทั้งๆ ที่มีลูกมีเมียอยู่ก่อนแล้ว และยังได้สร้างไลน์ปลอมของพ่อและน้องสาวตัวเองทักมาคุยกับผู้เสียหายเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
นอกจากนี้ นายศักดา ยังได้อ้างกับผู้เสียหายอีกว่ารับราชการตำแหน่งระดับซี 6 อยู่ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ ส่วนบิดาเป็นทหารยศพันโท ประจำการอยู่ที่ค่ายใน จ.ยะลา และอีกไม่กี่วันจะขอย้ายไปช่วยงานที่สังกัดของบิดา เพื่อจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นซี 7
ผู้เสียหายหลงเชื่อ ตกลงคบหาดูใจกัน แต่ได้ไม่นาน นายศักดา สร้างเรื่องหลอกอีกว่า กำลังจะถูกปรับเงิน 650,000 บาท เนื่องจากลงไปทำงานในพื้นที่ จ.ยะลา แล้วทำไม่ได้ ทำให้ต้องขายบ้านขายรถในกรุงเทพไปจ่ายค่าปรับ แต่ยังขาดเงินอยู่อีก 35,000 บาท จึงขอยืมเงินผู้เสียหาย โดยใช้ไลน์ปลอมของพ่อและน้องสาวตัวเองมาหลอกว่าเรื่องที่ถูกปรับเงินนั้นเป็นเรื่องจริง ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้
พ.ต.อ.แมน กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ นายศักดา ยังหลอกขอแต่งงานกับผู้เสียหายโดยพาไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง แต่พอถ่ายเสร็จจะจ่ายเงินก็อ้างว่ากระเป๋าเงินหาย ให้ผู้เสียหายจ่ายไปก่อน จากนั้นได้หลอกเอาทองคำหนัก 5 บาท มูลค่า 1 แสนบาทของผู้เสียหายไป โดยอ้างว่ายืมเป็นค่าสินสอดสู่ขอ
ส่วนการเตรียมงานแต่งนั้นได้ประสานทางบ้านสั่งพิมพ์การ์ดงานแต่ง สั่งโต๊ะจีนและดนตรีไว้พร้อมแล้ว แต่เมื่อใกล้ถึงวันแต่งประมาณ 5 วัน ผู้เสียหายกลับไม่สามารถติดต่อนายศักดาได้
ผู้เสียหายทักแชททางเฟซบุ๊ก สอบถาม นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่มีรายชื่ออยู่ในการ์ดเชิญ จนทราบความจริงว่า นายศักดา เป็นเพียงพนักงานขับรถของบริษัทที่ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ จ้างมาอีกที
เมื่อผู้เสียหายรู้ตัวถูกหลอกจึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ต่อมาศาลได้ออกหมายจับ กระทั่งตำรวจกองปราบปรามสืบทราบว่า นายศักดา ได้หลบหนีมาทำงานขับรถส่งสินค้าอยู่ที่ห้างสยามพารากอน จึงนำกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว
สอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่า แชตจีบกับ น.ส.น้อง ผ่านทางบีทอล์ค ก่อนคบหาและมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจริง โดยเงินที่ยืมมาได้คืน น.ส.น้อง ไปหมดแล้ว ส่วนทองคำหนัก 5 บาท น.ส.น้อง ได้ซื้อให้ตนเป็นของขวัญในวันเกิด และได้นำไปขายแบ่งเงินกันแล้ว ทั้งนี้ก็ไม่เข้าใจว่าจะมาแจ้งความดำเนินคดีกับตนทำไม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป