รวบแล้ว ช่างซ่อม จยย.ตระเวนงัดตู้เติมเงินมือถือหาเงินซื้อยาเสพ
วันที่ 23 ส.ค. พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ภิญโญ ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ต.จารุกิตติ์พัฒน์ สุขยิ่ง สว. สส.สน.บางขุนเทียน และ พ.ต.ต.นพดล คงสัตรา สว.สส.สน.บางขุนเทียน
ร่วมจับกุมนายอรุณสิทธิ์ หรือเต่า อายุ 36 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 572/59 ลงวันที่ 14 ก.ย.59 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
จับกุมได้ขณะผู้ต้องหาหลบหนีไปกบดานที่ห้องเช่าเลขที่ 103 อาคารทีดีเพลส ซอยกระทุ่มล้ม 1 ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม
พร้อมของกลาง ยาบ้า 20 เม็ด ไอซ์น้ำหนัก 1.28 กรัม รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊กสีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน หมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีขาวพ่นสีดำอำพราง 1 ใบ เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ตอนก่อเหตุ 2 ชุด กระเป๋าเป้สีดำคาดขาว 1 ใบ กระเป๋าเป้สีดำคาดส้ม 1 ใบ คีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ 1 อัน เหล็กงัดยางรถยนต์ 1 แท่ง และอุปกรณ์ที่ใช้งัดแงะตู้เติมเงินโทรศัพท์อีกจำนวนหนึ่ง
การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทั่วทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีสถิติการรับแจ้งเหตุคนร้ายงัดตู้เติมเงินมือถือ ทั้งสิ้น 275 คดี
แบ่งเป็นเหตุเกิดในท้องที่ความรับผิดชอบของ บก.น.2 จำนวน 2 คดี, บก.น.5 จำนวน 16 คดี, บก.น.6 จำนวน 6 คดี, บก.น.7 จำนวน 12 คดี, บก.น.8 จำนวน 73 คดี และ บก.น.9 จำนวน 166 คดี
ทุกคดีที่ผ่านมาคนร้ายเลือกลงมืองัดตู้เติมเงินมือถือที่ตั้งอยู่ตามตรอกซอกซอยภายในชุมชน และส่วนใหญ่ไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะกล้องวงจรปิด
ที่สำคัญกว่าผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์จะทราบว่าตู้ตัวเองถูกงัดก็เมื่อเดินทางมานำเงินออกจากตู้เท่านั้น ไม่สามารถระบุวันเวลาเกิดเหตุที่แท้จริงได้ ทำให้ยากต่อการติดตามตัวคนร้าย
กระทั่งชุดจับกุมสืบทราบว่า นายอรุณสิทธิ์ ผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับคดีลักทรัพย์ฯ ติดตัวอยู่ตั้งแต่ปี 2559 อีกทั้งมีรูปพรรณสัณฐานและพฤติกรรมคล้ายกับคนร้ายที่ตระเวนก่อเหตุงัดตู้เติมเงินมือถือหลายๆ คดีในท้องที่ฝั่งธนบุรี จึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้ที่ห้องดังกล่าว
จากการสอบสวน นายอรุณสิทธิ์ ยอมรับก่อนถูกจับรู้สึกมีลางไม่ดี เพราะเขม่นที่ตาข้างขวาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ที่ผ่านมา หนีการจับกุมตามหมายจับคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เพราะขโมยของของชาวบ้านใน ท้องที่ สน.แสมดำ ตั้งแต่ปี 2559ไปกบดานตามห้องเช่าย่านชานเมือง รอยต่อจังหวัดกรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร และนครปฐม
ยึดอาชีพเปิดร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์เล็กๆ อยู่ในซอยสวนหลวง ย่านกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ระยะหลังติดยาบ้าและไอซ์ อย่างหนัก โดยเฉพาะยาบ้าต้องหามาเสพให้ได้ทุกวัน วันละ 4-5 เม็ด หากไม่ได้เสพก็จะหงุดหงิดทำงานซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ไม่ได้
ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันจึงขี่รถมอเตอร์ไซค์ลุยเดี่ยวตระเวนก่อเหตุงัดตู้เติมเงินมือถือเลือกเฉพาะตู้สีเขียวแดงเพราะงัดแงะง่ายตามแหล่งชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ฝั่งธนบุรีส่วนใหญ่ในความรับผิดชอบของ บก.น.9 และ จ.สมุทรสาคร บช.ภ.7 เพื่อหาเงินมาซื้อยาเสพ
“การก่อเหตุแต่ละครั้ง จะหยิบยืมรถมอเตอร์ไซค์ของคนรู้จัก ยืมรถลูกค้า หรือแอบเอารถที่ลูกค้าจอดไว้รอซ่อมมาถอดแผ่นป้ายทะเบียน บางครั้งจะเปลี่ยนแปลงชุดสีรถด้วยเพื่อตบตาไม่ให้ถูกติดตามจับกุมได้ง่าย
จากนั้นในยามดึกจะแต่งกายมิดชิดสวมหมวกนิรภัยเต็มใบ ขี่ไปตามแหล่งชุมชนเพื่อสำรวจหาตู้เติมเงินที่อยู่ในจุดอับลับสายตา ใช้คีมตัดเหล็กและเหล็กงัดยางรถยนต์แงะเอาถุงเงินในตู้ ได้คราวละ 300-3,500 บาท
ก่อนหน้านี้ ก่อเหตุแทบทุกวันวันละ 2-3 ตู้ จนจำไม่ได้ว่าลงมือตรงจุดใดบ้าง กระทั่งระยะหลังทราบข่าวตำรวจกำลังตามล่าตัวจึงลดความถี่ลง และเปลี่ยนห้องเช่าไปเรื่อยๆ โดยห้องเช่าล่าสุดที่ถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมตัวนี้ก็เพิ่งเข้าไปขอเช่าอยู่ได้เพียงแค่ 2 วัน” นายอรุณสิทธิ์ กล่าว
เบื้องต้นชุดจับกุมแจ้งข้อหา ครอบครองยาบ้าและไอซ์เพื่อจำหน่าย และข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน แก่ นายอรุณสิทธิ์ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ ดำเนินคดีตามหมายจับคดีเก่า
ส่วนข้อหาตามฐานความผิดงัดตู้เติมเงินมือถือ ซึ่งเชื่อว่า นายอรุณสิทธิ์ ก่อเหตุมาไม่ต่ำกว่า 100 ตู้ จะประสานพนักงานสอบสวนท้องที่ต่างๆ ทั้งใน บช.น.และ บช.ภ.7 นำหลักฐานมาอายัดตัวแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิด และทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น