Monday, November 25, 2024
More
    Homeอาชญา (ลง)กลอนปูดปมมืดผับฉาว! เหตุจาก “มาลินสกาย” ถึง “มาเฟีย” ย้าย “ตำรวจ”

    ปูดปมมืดผับฉาว! เหตุจาก “มาลินสกาย” ถึง “มาเฟีย” ย้าย “ตำรวจ”

    เหตุจาก “มาลินสกาย”
    ถึง “มาเฟีย” ย้าย “ตำรวจ”

    คอลัมน์ อาชญา (ลง) กลอน
    โดย…ธนก บังผล

    เพราะบ้านเมืองมีขื่อ มีแป อยู่ดีๆใครอยากจะไปกระทืบใคร ถ้าทำได้สังคมนี้ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขแบบไหน เหมือนอย่างกรณีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) หรือที่เราเรียกให้ดูดีมีระดับขึ้นมาหน่อยว่า การ์ด (Guard) ร่วมกันสหบาทาลูกชายนายพลระดับ ผู้บัญชาการมณฑลมหารบกที่ 38 คาผับมาลินสกาย จ.เชียงใหม่ กระหึ่มเน็ตจนชาวเผือกปักหมุดไม่ได้หลับไม่ได้นอน

    ไม่ต้องไปสืบหรอกครับว่าใครเป็นเจ้าของ ใครเป็นหุ้นส่วน หรือแม้กระทั่งใครเป็นแฟนใคร ดาราคนไหนอยู่ในร้านบ้าง มันไม่ใช่ประเด็นที่จะทำให้คดีนี้จบลงอย่างถูกต้องตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมแม้แต่น้อย ก็มีเฉพาะคนว่างงานเท่านั้นที่อยากรู้เรื่องชาวบ้านจนทำให้การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกตั้งคำถาม เพราะไม่ถูกใจไม่ทันใจเป็นไปอย่างที่บรรดานักเผือกต้องการ

    ประเด็นหลักจริงๆคือ ใคร เป็นคนทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเนื่องมาจากสาเหตุอะไร เพื่อนำมาสู่การแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งหากมีพยานยืนยันได้ครบสมบูรณ์ สิ่งที่ผมลุ้นอยู่คือข้อหา “พยายามฆ่า” ก็อาจจะถูกหยิบขึ้นมาใช้

    แต่เบื้องต้นตอนนี้ไม่ว่าใครจะเป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วนในผับฉาว คนที่รู้อยู่แก่ใจและต้องรับผิดชอบกรณีนี้เต็มๆก็คือเจ้าของโครงการมาลินนั่นละครับ ส่วนชาวเน็ตจะไปขุดไปคุ้ยคำพูดคนนั้นคนนี้หรือนักข่าวบันเทิงจะเอาคำถามไปยัดปากใคร บอกตรงๆว่าไม่มีใครยอมรับหรอกครับ

    นี่ก็ออกหมายเรียกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาให้ปากคำแล้ว ถ้าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี 3-4 วันก็รู้เรื่อง ผมไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้จะต้องถึงขั้นออกหมายจับ เพราะมันจะลำบากกับผู้ถูกกล่าวหาเมื่อต้องขึ้นศาลสู้คดี

    ระหว่างที่รอคำตอบว่าใครเป็นคนทำร้ายร่างกาย ใครเป็นผู้บงการ เพื่อสืบสาวหาสาเหตุ ทางโครงการมาลินก็ยกเลิกสัญญากับผับมาลินสกาย ไปแล้วเรียบร้อย ตามด้วยตรวจสอบโรงแรมที่มีชื่อเกี่ยวพันซึ่งพบว่าเปิดให้บริการโดยไม่มีใบอนุญาตอีกกระทง เรียกว่าพอฝากรอยเท้าเอาไว้ผิดที่ผิดทาง ขยะที่อยู่ใต้พรมก็เป็นเหมือนกรรมตามมาสนองคืนติดๆ

    ไม่นับเรื่องกล้องวงจรปิดที่ถ้าจะเอาจริงๆก็ทำได้ กับเรื่องยาเสพติดในสถานบริการที่ขึ้นชื่อยิ่งกว่าเมนูอาหารแนะนำ

    ก่อนหน้านี้มีข่าวลือหนาหูว่า ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ถูกย้ายยกโรงพัก หลังเข้าไปตรวจตรา ซึ่งผมกลับมองว่าคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ จิ๊กโก๋มือใหม่จะเอาอำนาจอะไรมาออกคำสั่งแต่งตั้งตำรวจได้ เรื่องนี้ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกับควันออกหูทันที

     เพราะความกังขาเรื่องย้ายตำรวจนี่ละครับ ทำให้เพจสนับสนุนปฏิรูปตำรวจ ไปขุดเอาข้อมูลจากไหนก็ไม่รู้แล้วนำมาแฉประมาณว่า ร้านมาลินสกาย มีตำรวจ ระดับพนักงานสอบสวน ยศพันตำรวจตรี ใน สภ.ช้างเผือก เป็นหุ้นส่วน มีหน้าที่รับเรื่องร้องทุกข์และทำคดีเอง ดูแลทั้งคอนโดแห่งหนึ่งที่อยู่ในตลาดนั้น (ซึ่งถูกฝ่ายปกครองตรวจสอบแล้วเปิดโดยไม่มีใบอนุญาต) หากทางร้านหรือทางคอนโดหรือทางตลาดมีเรื่อง ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น จะเคลียร์ให้

    จะจริงไม่จริงไม่รู้นะครับ เขาเขียนกันเป็นวรรคเป็นเวรกันถึงขนาดนี้ แต่ถ้าถามประสบการณ์ของผมเอง ผมก็อยากจะเล่าหลังจากที่ได้เจอมาและมีคนสะกิดหลายครั้ง

    เอาตลาดเล็กๆ อย่างตลาดรวมโชค เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว มีคนอ้างว่าเป็นตำรวจเดินมาขอเงินขอเหล้าพ่อค้าแม่ค้ากันเอิกเกริก มาถึงก็บอกว่าเป็นชุด ฉก.บ้าง พอให้ไป อีกไม่กี่วันก็เปลี่ยนหน้าบอกว่ามาจาก ปพ. (ชุดปฏิบัติการพิเศษ) ของ ภาค 5 บ้าง คือพวกนี้มักจะใช้ตัวย่อบอกสังกัดเวลามาขอเงิน พ่อค้าแม่ค้าก็งงว่าหน่วยไหนเป็นหน่วยไหนเยอะแยะไปหมด ส่วนพวกที่มาก็เป็นดาบตำรวจทั้งนั้น

    ถามว่าคนค้าขายเจอแบบนี้ไปอยากให้หรือเปล่า ก็ไม่อยากให้แต่ก็กัดฟันให้ไป เดือนไหนกิจการค้าขายไม่ดีบางร้านอยากจะร้องไห้เลยนะครับเวลาตำรวจพวกนี้มา แต่นั่นก็ผ่านมาแล้ว ทุกวันนี้ตลาดรวมโชคกำลังปรับปรุงสถานที่ใหม่ ถ้ามีพ่อค้าแม่ค้าคนไหนมาสะกิดอีกเดี๋ยวจะรายงานให้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ทราบทันที

    เมื่อมันเป็นวัฒนธรรมที่ข่มขู่กึ่งๆเกื้อกูลกันโดยไม่เต็มใจ ก็แสดงว่าตลาดใหญ่ๆในโครงการที่เกิดขึ้นใหม่มากมายใน จ.เชียงใหม่ ต้องมีการเดินสายอย่างนี้อีกเยอะ ร้านเหล้าผับบาร์ก็คงไม่เหลือ

    สมมติว่าตำรวจไปที่ร้านแล้วกินฟรี มันก็มีบุญคุณต่อกัน หากว่าเจ้าของผับชวนตำรวจไปกินฟรีมันก็ย่อมเหมือนสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน

    ในที่สุดเมื่อตำรวจเข้าไปพัวพันกับคนเหล่านี้ที่มีประวัติเป็นอาชญากร ใช้กำลังข่มขู่ชาวบ้าน มันก็เป็นไปได้ยากที่ประชาชนในพื้นที่จะเชื่อว่าการดำเนินคดีกับคนที่ทำร้ายร่างกายจะเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ทางออกที่น่าจะสวยที่สุดในตอนนี้ คือ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ต้องลงมาดูแลแล้วแก้ไขปัญหาเหล่านี้ใกล้ชิดขึ้น

    ก็นั่นละครับ…เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวเกรด A ที่ดูภาพภายนอกแล้วอากาศดี คนมีไมตรีพูดเพราะ อาหารอร่อย วัฒนธรรมอ่อนช้อย แต่ผลประโยชน์จากวงการสีเทาก็มีมากไม่เบาเช่นกัน

    พอจังหวะ “มาลิน สกาย” ฉาวโฉ่ เรื่อง “มาเฟีย” ย้าย “ตำรวจ” ก็เลยส่งกลิ่น

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments