“ผู้ช่วยฯต่อ ควง ผู้ช่วยฯโจ๊ก”นำทีม ศพดส.ตร. ลง พื้นที่ ภ.5 แถลงผลงาน ลุยจับขบวนการค้ามนุษย์ 3 เคสรวด
วันที่ 10 มีนาคม65 ที่กองบัญชาตำรวจภูธร ภาค 5 จว.เชียงใหม่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.,รอง ผอ.ศพดส.ตร.พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร.,รอง ผอ.ศพดส.ตร ได้ร่วมกันแถลงว่า
จากนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ให้ปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เพื่อยกระดับการจัดลำดับสถานการณ์การแก้ไขการค้ามนุษย์ในประเทศจาก Tier 2 watchlist เป็น Tier 1 นั้น
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และพล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร., ผอ.ศพดส.ตร. สั่งการให้เร่งรัดดำเนินการสืบสวนจับกุมขบวนการ กลุ่มบุคคล หรือผู้ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ในทุกรูปแบบ
โดยรประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน คือ ฝ่ายปกครอง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งในห้วงที่ผ่านนี้ สามารถดำเนินการเข้าจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดได้4 คดี ดังนี้
คดีที่ 1 พื้นที่ อ.เมือง จ.ลำปาง
ก่อนจับกุม ชุดปฎิบัติการ TICAC ร่วมกับ มูลนิธิ HUG PROJECT และสภ.เมืองลำปาง ร่วมกันสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า มีผู้ใช้ทวีตเตอร์โพสต์โฆษณาขายบริการทางเพศ โดยให้ผู้สนใจแอดไลน์สอบถามผ่านทางคิวอาร์โค้ดไลน์ และโพสต์ภาพหญิงที่ขายบริการทางเพศ พร้อมให้ไอดีไลน์ติดต่อตรง
ต่อมาชุดปฎิบัติการได้สืบสวนกระทั่งทราบว่ามีรูปแบบพฤติการณ์ในการกระทำความผิดคือ พ่อเล้าจะโพสต์โฆษณาว่าสามารถจัดหาหญิงมาค้าประเวณีได้ แจ้งประกาศลงในทวีตเตอร์
เมื่อมีลูกค้าสนใจติดต่อเข้ามาผ่านไอดีไลน์ตามที่แจ้งไว้ พ่อเล้าจะส่งข้อมูลของหญิงที่จะมาให้บริการทางเพศให้ลูกค้าทราบ คิดค่าบริการทางเพศ ราคาประมาณครั้งละ 1,500 – 2,000 บาทลูกค้าจะโอนเงินเข้าบัญชีพ่อเล้า หรือใช้วิธีจ่ายเป็นเงินสดให้กับเด็กหญิงที่ไปให้บริการ จากนั้นพ่อเล้าจะหักหัวคิว ไว้ประมาณ ครั้งละ 500 บาท
ภายหลังสามารถพิสูจน์ทราบว่า พ่อเล้า คือ เยาวชนชาย อายุ 16 ปีเศษ เป็นแอดมินทวีตเตอร์ดังกล่าวคอยชักชวนติดต่อหาลูกค้า พร้อมนำเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี 2 คน มาส่งให้กับลูกค้า ในพื้นที่ อ.เมืองลำปาง ภายหลังสามารถจับกุมพ่อเล้า และเข้าช่วยเหลือคุ้มครองเด็กหญิง ได้2 คน พร้อมขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ซื้อประเวณีได้อีก 12 คนกลุ่มผู้ซื้อประเวณีมีทั้งข้าราชการ นักธุรกิจ และบุคคลทั่วไปในพื้นที่ใกล้เคียง ได้เป็นที่เรียบร้อย
คดีที่ 2 พื้นที่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
ก่อนจับกุม ชุดปฎิบัติการ ศพดส.ภ.5รับแจ้งจากผู้ปกครองของเด็กหญิงอายุประมาณ 14 ปีเศษ ว่าถูกชักชวนไปค้าประเวณี และอยากให้เข้ามาช่วยเหลือเด็ก ชุดปฎิบัติการ ศพดส.ภ.๕ ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ จ.ลำปาง และ สภ.ห้างฉัตร ได้ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือคุ้มครองเด็กหญิงดังกล่าว และสืบสวนเรื่อยมา
กระทั่งทราบว่า ยังมีเด็กหญิง อายุ 13 ปีเศษ อีก 1 คน ที่มีพฤติกรรมถูกชักชวนไปค้าประเวณีเช่นกัน รีบเข้าไปช่วยเหลือคุ้มครองอีก 1 คน หลังจากการฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กทั้ง 2 คน ทำให้ทราบรูปแบบพฤติการณ์ในการกระทำความผิด
คือมีพ่อเล้า เป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันมาก่อน ของเด็กหญิงทั้ง 2 คน ชักชวนติดต่อให้ไปพักอาศัยอยู่ด้วยกัน จากนั้นได้พูดจาโน้มน้าวเด็กหญิงว่า เมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้วต้องช่วยกันทำมาหากิน พร้อมกับแจ้งว่าให้เด็กหญิงทั้ง 2 ไปรับงานค้าประเวณี กับลูกค้าในลักษณะเพศสัมพันธ์หมู่ ที่โรงแรมในเขต อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
โดยพ่อเล้าได้โพสต์เสนอขายประเวณีเด็กทั้ง 2 คน ผ่านทวีตเตอร์ เมื่อมีลูกค้าสนใจและติดต่อมายังพ่อเล้า จึงได้พาเด็กหญิงทั้ง 2 คน ไปส่งที่โรงแรม หลังจากที่ลูกค้าร่วมประเวณีกับเด็กหญิงทั้ง 2 คนแล้ว จึงโอนเงินเข้าบัญชีของพ่อเล้า 3,500 บาทได้แบ่งเงินให้เด็กหญิงทั้ง 2 เพียงคนละ 300 บาทเท่านั้น
ภายหลังสามารถจับกุม พ่อเล้า เป็นชายไทย อายุ 23 ปี พร้อมขยายผลจับกุมผู้ซื้อประเวณี ซึ่งเป็น ชายไทย อายุ 44 ปี นักธุรกิจ ในพื้นที่ จ.ลำปาง ได้เป็นที่เรียบร้อย
คดีที่ 3 พื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
ก่อนจับกุม ชุดปฎิบัติการฝ่ายปกครอง ร่วมกับ มูลนิธิ IMF ร่วมกันสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า มีผู้ใช้ ทวีตเตอร์โพสต์โฆษณาขายบริการทางเพศ หากมีผู้สนใจจะให้แอดไลน์ เพื่อส่งนัดหมายและส่งรายละเอียดของหญิงที่จะให้ไปค้าประเวณี
ต่อมาสืบสวนกระทั่งทราบว่ารูปแบบพฤติการณ์ในการกระทำความผิด คือ แม่เล้าจะทำการโพสต์โฆษณาว่าสามารถจัดหาหญิงมาค้าประเวณีได้ แจ้งลงในทวีตเตอร์ จากนั้นเมื่อมีลูกค้าสนใจจะติดต่อเข้ามาผ่านไอดีไลน์ตามที่แจ้งไว้ พร้อมส่งข้อมูลของหญิงที่จะมาให้บริการทางเพศ
คิดค่าบริการทางเพศ ราคาประมาณครั้งละ 2,000 – 3,000 บาท ซึ่งลูกค้าผู้ซื้อประเวณีจะโอนเงินเข้าบัญชีแม่เล้า จากนั้นแม่เล้าจะหักหัวคิว ไว้ประมาณ ครั้งละ 200 – 500 บาท แล้วโอนเงินต่อให้เด็กหญิงที่มาค้าประเวณี
ภายหลังชุดปฎิบัติการฝ่ายปกครอง , มูลนิธิ IMF และ สภ.ฝาง ได้ร่วมกันเข้าช่วยเหลือเด็กหญิง อายุ 16 ปีเศษ และ อายุ 14 ปีเศษ ที่มาค้าประเวณีตามคำสั่งของแม่เล้า พร้อมกับสืบสวนจนพิสูจน์ทราบและทำการจับกุมแม่เล้าเป็น เยาวชนหญิง อายุ 15 ปีเศษ แอดมินทวีตเตอร์ดังกล่าวคอยชักชวนติดต่อหาลูกค้า ได้ที่ จ.ปทุมธานี ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ซื้อประเวณี
สืบเนื่องจากคดีที่ 3 หลังจากที่มูลนิธิ IMF ได้ซักถามเด็กหญิงที่เป็นผู้เสียหายเบื้องต้นแล้ว ทราบว่ายังมีกลุ่มเด็กหญิงซึ่งมีพฤติการณ์ถูกบังคับ หรือชักชวน ให้มาค้าประเวณีในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อีกจำนวนมาก
ได้รีบแจ้งข้อมูลมายัง ศพดส.ภ.5 ให้ทราบ จากนั้น ศพดส.ภ.5 ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ จ.เชียงใหม่ และปลัดอำเภอฝาง ร่วมกันเข้าไปช่วยเหลือคุ้มครองกลุ่มเด็กดังกล่าว อายุระหว่าง 12 -14 ปีเศษ ได้ 9 คน
ต่อมาจากคัดแยกสัมภาษณ์ พร้อมฟื้นฟูสภาพจิตใจ เด็กทั้ง 9 คนแล้วทราบข้อมูลว่ารูปแบบพฤติการณ์ในการกระทำความผิดคือ มีกลุ่มแม่เล้า 3 – 5 คน อายุระหว่าง 16 – 20 ปีเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันในกลุ่มเด็กหญิงในพื้นที่ มีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพลในกลุ่มวัย จะคอยชักชวน หลอกลวง และบังคับขู่เข็ญ กลุ่มเด็กซึ่งเป็นรุ่นน้องให้มารับงานค้าประเวณี
กลุ่มแม่เล้าจะเป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าในพื้นที่ พร้อมเสนองานในลักษณะการเปิดบริสุทธิ์เด็ก ซึ่งจะมีราคาค่าตัวที่สูง ลูกค้าที่มาซื้อประเวณีมักจะเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่มีรายได้สูง เข้ามาติดต่อซื้อประเวณีกับกลุ่มแม่เล้า
เมื่อแม่เล้าติดต่อกับลูกค้าได้แล้ว จะติดต่อมายังกลุ่มเด็กหญิง หลอกให้มาทำงานแพ็คสบู่บ้าง หรือบังคับข่มขู่ว่าถ้าไม่รับงานประเวณีจะถูกทำร้ายร่างกายบ้าง ทำให้เด็กหญิงรู้สึกกลัวจึงยอมรับงาน
จากนั้นลูกค้าจะไปรับแม่เล้าและขับรถยนต์ของลูกค้าไปรับตัวเด็กหญิงที่บ้าน หรือที่พักของเด็กหญิง แล้วพากันไปมีเพศสัมพันธ์กันตามโรงแรมหรือรีสอร์ทในพื้นที่ใกล้เคียง
เมื่อเสร็จสิ้นการมีเพศสัมพันธ์ ผู้ซื้อประเวณีจะจ่ายเงินสดให้แม่เล้าครั้งละ 20,000 – 25,000 บาท แม่เล้าจะหักหัวคิวประมาณ 5,000 – 15,000 บาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มแม่เล้าดังกล่าว พร้อมขยายผลติดตามจับกุมกลุ่มผู้ซื้อประเวณีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป