รองเปียก-พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย รองผกก.สส.สน.ห้วยขวาง เป็นอีก1นายตำรวจที่ได้รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว ประจำปี 2560 จากคณะกรรมการมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร
ผมเคยไปขอสัมภาษณ์นายตำรวจหนุ่มคนนี้ เมื่อกลางปีที่แล้ว เพราะปลื้มในวีรกรรมห้าวหาญ จิตวิญญาณความเป็นตำรวจ อย่างที่เห็นเป็นข่าว ลุยเดี่ยวจับ2โจร จยย.ที่กำลังจี้รถแท็กซี่ หนีเข้าไปในซอยเปลี่ยวก่อนถูกคนร้ายใช้หินเขวี้ยง ถูกไม้ตีจนหน้าตาแหก แต่ก็ยังใช้ปืนยิงขา2คนร้ายจนบาดเจ็บและถูกจับได้ในที่สุด
มาย้อนอ่านเรื่องเขี้ยวเล็บมือปราบหนุ่มคนนี้ได้เลยครับ
รองเปียก- พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย รองผกก.สส.สน.บางยี่ขัน
โด่งดังเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ด้วยวีรกรรมฉายเดี่ยวลุยจับ 2 โจรที่ก่อเหตุปล้นเเท็กซี่ต่อหน้าต่อตา เกิดการไล่ติดตามต่อสู้บู๊ระห่ำ กระทั่งถูกคนร้ายใช้ก้อนหินเขวี้ยงหน้าแหก กระดูกแขนร้าว แต่คนร้ายทั้ง 2 คน ไม่รอด ถูกนายตำรวจหนุ่มคนนี้ใช้ปืนยิงขาเดี้ยงเจ็บไปทั้งคู่
หลังเกิดเหตุไม่นาน มีโอกาสได้พูดคุยกัน หน้าตายังปรากฏริ้วรอยของการต่อสู้ครั้งนั้น แต่จากการสนทนาทำให้รู้ว่า มือปราบหนุ่มคนนี้มีเบ้าหลอมที่ดี เพราะถูกปลูกฝังในเรื่องปืนผาหน้าไม้มาตั้งแต่เด็กจากผู้เป็นพ่อพ.ต.อ.สัมพันธ์ พิศมัย นรต.รุ่น 25 อดีตนักยิงปืนโรงเรียนนายร้อย
กว่าจะมาถึงวันนี้ เจ้าตัวจบชั้นมัธยมที่โอวี วชิราวุธ เตรียมทหาร 35 และนรต.51 พ้นรั้วสามพรานปี 41 บรรจุเป็นพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง อยู่ปีกว่าๆ ไปเป็น รอง สวป.มักกะสัน เป็นรองสารวัตรสืบ สน.คลองตัน เป็นนายเวร ผบช.ภ.5 สารวัตรทางหลวง กาญจนบุรี แล้วกลับนครบาลมาเป็นสารวัตรสืบ 4 สารวัตรสืบ 6 แล้วขึ้นรอง ผกก.สส.สน.บางกอกใหญ่ เมื่อปี 58 ก่อนโยกมาเป็นรองผกก.สส.สน.บางยี่ขันในคำสั่งที่ผ่านมา
“ตอนเรียนหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่น 82 ต้องยิงปืนหลักสูตรพีพีซี มี อาจารย์จารักษ์ แสงทวีป เป็นครู ผมยิงได้ที่ 1 ของรุ่น คือยิงหลักสูตรนี้ ต้องยิงมือซ้าย มือขวา เคลื่อนที่ยิง ผมยิงได้ทั้งซ้ายทั้งขวาเลยมั่นใจเพราะเราฝึกมา มีความแม่นยำพอสมควร และคิดว่าถ้าเจอเหตุอย่างนี้ อย่างนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง…”
นายตำรวจหนุ่มนรต.51 หยิบเขี้ยวเล็บคู่กายออกมาให้ชมพร้อมอธิบายให้ฟัง
“ปืนกระบอกแรกที่ใช้และเป็นของตัวเอง คือ Sig sauer P226 ขนาด 9 มม.ซื้อตั้งแต่เป็นนักเรียน ซื้อตามกระแสปืนลูกดก 9 มม.ใส่กัน 15 นัด แต่ใช้แล้วชอบเพราะไกคม จังหวะลากไกราบเรียบไม่มีสะดุด เป็นปืนตลาดที่ไกดี แต่พอใช้สักพัก พกทุกวัน น้ำหนักมันเยอะ เลยซื้อ GLOCK19 เพิ่มอีกกระบอก ใช้ดี สมบุกสมบัน ไม่ต้องดูแลมาก เคี้ยวทุกลูก ยิงอะไรออกหมด ถอดชิ้นส่วนออกล้างทำความสะอาดง่าย….”
แต่พอมาอยู่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน ต้องใช้ปืนพกซ่อน ก็เริ่มหาปืนขนาดเล็ก แต่จริงๆชอบปืน 11มม.มาตลอด เพราะต้องการอำนาจการหยุดยั้ง โดนแล้วอยู่ ก็พยายามหาขนาด 3 นิ้วครึ่ง 3 นิ้ว เลยกลับมาจบที่ Colt Defenderlight-weigh โครงอัลลอยด์ น้ำหนักเบา บรรจุได้ 7 บวก1 ก็ใช้มาตลอด
แล้วผมไปใส่ชุดไก ภาษาคนชอบปืนเขาเรียกกันคือ นกเด้ง คือปืนออโตเมติก พอขึ้นลำ แล้วบางคนใช้วิธีลดนก พอจะยิงก็ต้องมาง้าง มันไม่ทันกิน ผมก็ใช้ที่ห้ามไกเป็นเซฟ เวลาจะใช้ก็ดึงจากซองปั๊บพร้อมยิง ไม่ต้องไปยุ่งกับไกเลย
รองผกก.หนุ่มนักยิงปืนพูดพร้อมหยิบปืนทำท่าประกอบอย่างชำนาญ
“พอขึ้นเป็น รอง ผกก. ความที่จะต้องลงไปในภาคสนามเองน้อยลง คิดว่าจะขยับลงมาที่ 9 มม. แต่ต้องเบาและเล็กกว่า GLOCK 26 ใช้งานง่าย ก็มาเจอตัวนี้ Kahr PM9 โครงโพลีเมอร์ ลำกล้องแสตนเลส ก็ใช้พกติดตัวมาถึงทุกวันนี้ ดูแลรักษาง่าย ขึ้นลำค้างไว้ได้เลย เหมือนพกสมิทชิพ 2 นิ้ว 5 นัด ไกยาวเท่ากัน แต่เบากว่า เล็กกว่า
ส่วนกระบอกนี้ เป็น 11มม.ของ STI Century ครบ 100 ปีของระบบปฏิบัติการ 1911 เป็นปืนลิมิเต็ด ซื้อมาตอนอยู่สืบ 6 อย่างที่บอกว่าชอบ 11 เจอเมื่อไหร่ ถูกใจก็ซื้อไว้ ที่ชอบเพราะเเกะลายสวย ปืนแบบนี้ไม่แต่งเลย เก็บไว้แบบเดิมๆ ของมัน
หลักใช้ปืน คำนึงถึงเสมอว่ามันเป็นดาบสองคม ถ้าไม่ระมัดระวังก็มีอันตราย ปืนทุกกระบอกที่ใช้ต้องเรียนรู้มัน รู้จักมัน ต้องรู้ธรรมชาติของมัน ต้องทำความรู้จักมันให้ดี ต้องใช้ ต้องฝึก ต้องยิง ต้องพร้อม ให้เกิดความมั่นใจ ให้เกิดความชำนาญ ทุกครั้งที่พก ที่ใช้ ต้องรู้ว่าอยู่ในสถานะไหน พร้อมยิง ขึ้นลำ ลดนก ใส่เซฟ ไม่ใช่ตกใจ เลิกลั่ก ตกใจ คว้ามาเหนี่ยว จังหวะเสี้ยววินาที ต้องมีสติ
Cop’s Magazine Vol.10 No.118 2016.06
ปัจจุบันตำแหน่ง รองผกก.สส.สน.ห้วยขวาง