ตำรวจใต้มาดเข้ม ดีกรีนักกีฬาโรงเรียนนายร้อย นรต.69
ผู้กองโต๊ส -ร.ต.อ.ภัทรพล อภิรักษ์พงศา รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองยะลา
ตำรวจมาดเข้มนายนี้ พื้นเพเป็นคนหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นลูกชายคนโตของ พ.ต.อ.ทูล อภิรักษ์พงศา อดีตรองผู้การกองบินตำรวจ
“หมอ” คืออาชีพในฝันตั้งแต่สมัยเด็ก การที่ได้ช่วยชีวิตคน และรักษาให้คนที่เจ็บได้หายจากความเจ็บปวด นั่นคือความสุขของผม “
แต่เมื่อโตขึ้น ได้มีโอกาสเห็นการทำงานของคุณพ่อ ที่ทำเพื่อประชาชนและแนวความคิดของคุณพ่อที่มีต่ออาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทำให้ความคิดที่อยากจะเป็นหมอได้เปลี่ยนไป
ได้ตัดสินใจแน่วแน่อีกครั้ง เข้ามาเรียนในกรุงเทพมหานคร พร้อมคุณพ่อที่ต้องเดินทางมารับตำแหน่งในเมืองหลวงแห่งนี้
ผู้กองโต๊ส เรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2 การเรียนเพียงแค่ในรั้วโรงเรียนก็มีความยากลำบากแล้ว
แต่ลูกชายรองผู้การกองบินตำรวจคนนี้ยังคงติวอย่างหนักเพื่อที่จะเป็น1ในนักเรียนโรงเรียนนายร้อยให้ได้
ในการสอบครั้งแรก ผู้กองโต๊สสอบติดแค่ 2 เหล่าทัพ คือทหารอากาศ และ ทหารบก ไม่ใช่เหล่าตำรวจตามที่หวังไว้
ความผิดหวังครั้งนั้นไม่ได้ทำให้ผู้กองมาดเข้มหมดกำลังใจ
สอบครั้งที่สองทำให้ความตั้งใจของผู้กองเป็นผล สอบติดทั้งหมด 4 เหล่าทัพ
ความรู้สึกแรกหลังจากรู้ผล คือความใฝ่ฝันการเป็นตำรวจตามรอยของคุณพ่อชัดขึ้นมาทันที และจะต้องเป็นตำรวจที่ดีให้ได้ !!!
“ เมื่อเข้าไปอยู่ในรั้วโรงเรียนนายร้อย ด้วยความที่ชอบในการออกกำลังกายและเล่นกีฬา ตัดสินใจอยู่ชมรมบาสเกตบอล จนเป็นนักกีฬาโรงเรียนและเป็นตัวแทนไปแข่งขันกีฬาต่างๆ…..“
ตลอด 4 ปีที่อยู่ในรั้วโรงเรียนผู้กองโต๊สบอกว่า
นอกจากมิตรภาพที่ได้จากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แล้ว ยังได้การอบรมสั่งสอน ปลูกฝังให้ได้รักในอาชีพตำรวจ
รวมทั้งการเป็นตำรวจที่ดี ที่คอยช่วยเหลือประชาชนยามเดือดร้อน
ทำให้ผู้กองโต๊ส ตัดสินใจลงประจำครั้งแรกที่สภ.เมืองยะลา
หลายคนอาจมองว่าอันตรายและน่ากลัวเพราะมันคือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
แต่ไม่จริงเลย ! ตำรวจหนุ่มมาดเข้ม เล่าว่า…
พื้นที่ในจังหวัดยะลา ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ทุกคนที่นี่ใช้ชีวิตกันปกติ ชาวบ้านในท้องที่น่ารักและเป็นกันเองเสมือนเป็นครอบครัวมากๆ
เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ได้ไปช่วยราชการที่สภ.บันนังสตา ระหว่างเข้าเวรได้เกิดเหตุความไม่สงบขึ้น
มีเหตุระเบิดรถทหารพราน เราก็ลงไปตรวจที่เกิดเหตุ หาหลักฐานข้อมูลต่าง ๆ ถือเป็นคดีใหญ่คดีแรกที่รับผิดชอบ
แต่ต้องบอกก่อนว่าที่นั้นทุกคนทำงานเป็นทีม ต่างฝ่ายต่างช่วยกันหาข้อมูล ทำให้การทำคดีใหญ่ครั้งแรกผ่านไปด้วยดี…..
“ ผู้กองโต๊สเล่าว่า
อยู่พื้นที่สีแดงอาจจะมีความเสี่ยง แต่สำหรับผู้กองโต๊สแล้ว ไม่ว่าอยู่ที่ไหนเราคือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เราต้องดูแลความสุขให้กับประชาชน
ยามไหนที่เราท้อหรือเหนื่อยจากงาน เราคิดเสมอว่าเรายังมีคนข้างหลังให้ดูแลพ่อกับแม่เลี้ยงเรามาโตขนาดนี้ เราต้องตอบแทนพระคุณท่าน…”
ด้วยความที่ผู้กองโต๊ส เป็นตำรวจที่รักในการออกกำลังกาย ทำให้ทุกๆวันของ “ตำรวจหนุ่มนักกีฬา” มีแต่การออกกำลังกายเป็นงานอดิเรก ไม่ว่าจะวิ่งมาราธอน หรือเล่นกีฬา
แพรวไม่แปลกใจเลยทำไม “ผู้กองโต๊ส” ถึงได้รูปร่างดีหล่อเหลาขนาดนี้ สาว ๆ คนไหนจะเข้ามาต้องรักในการออกกำลังกายแล้วสิ !!! ว่าแล้วไปวิ่งกันค่าาาาา
แอบกระซิบนะคะ นอกจากสาว ๆ ที่รักในการออกกำลังแล้วยังมีอีกอย่างที่จะมัดใจตำรวจหนุ่มคนนี้ได้คือ
ต้องมีความเข้าใจในการทำงานของตำรวจ และที่สำคัญมาก ชอบคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ
โดยเฉพาะผู้กองโต๊สบอกกับแพรวว่า ถ้าได้มีแฟนจะเป็นคนที่ติดแฟนมากกกก
โอ๊ย !! ฟังแบบนี้แล้วกรอกใบสมัครกันเถอะค่าาา
พนิตนาฏ พรหมบังเกิด บันทึก2/3/63