Friday, April 19, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันกองปราบรวบ ผตห. ร่วมกันยักยอกทรัพย์ผู้อื่น

    กองปราบรวบ ผตห. ร่วมกันยักยอกทรัพย์ผู้อื่น

    เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 28 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.,พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป., มอบหมายสั่งการให้ พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ป.พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป,พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ต.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ป. และเจ้าหน้าที่กก.3บก.ป. จับกุมนายณพสร หรือยุทธนา สาพิทักษ์ อายุ 38 ปี และน.ส.ลลิตา ฤทธิวิชัย อายุ 26 ปี แฟนสาว ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลแขวงชลบุรี ที่ 15และ16/2559 ลงวันที่ 2 ก.พ.2559 ในฐานความผิดร่วมกันยักยอกทรัพย์ผู้อื่น จับได้ที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.หมู่ 4 ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา

    สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้ร้องเรียนตำรวจกองปราบปราม ว่าถูกนายณพสร สาพิทักษ์ แอบอ้างเป็น บุตรชายนายทหารระดับสูง (พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ อดีตแม่ทัพภาค1) เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือแล้วพูดจาตีสนิท จากนั้นได้หลอกให้ผู้เสียหายติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ พร้อมทั้งชักชวนให้ร่วมลงทุนเปิดร้านเสื้อผ้า โดยผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นบุตรของนายทหารจริง จึงมอบเงินและติดเครื่องเสียงรถยนต์ให้ มูลค่าความเสียหาย 2 แสนบาท ต่อมาชุดสืบสวนได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้ก่อเหตุหลายท้องที่และอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม ไปอาศัยอยู่ในพื้นที่จ.นครราชสีมา จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม

    นายณพสร ให้การรับสารภาพว่า เป็นพ่อค้าตระเวนขายนมเปรี้ยวและขายเสื้อผ้าตามจังหวัดต่างๆ ที่ผ่านมา ก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ได้เงินไปรวมแล้วประมาณ 3 ล้านบาท โดยทุกครั้งจะอ้างกับเหยื่อว่าตนเองเป็นบุตรชายนายทหารระดับสูง หากเหยื่อรายไหนไม่เชื่อ จะทำทีปลอมเสียงทางโทรศัพท์โทรไปหาเหยื่อ อ้างชื่อเสธ.อ๊อด โทรมาการันตี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ส่วนเงินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายจะนำไปใช้เล่นการพนัน และใช้จ่ายส่วนตัวเมื่อเงินหมด จะออกหลอกลวงโดยใช้พฤติกรรมแบบเดิม อย่างไรก็ตามสาเหตุที่นำชื่อนายทหารรายนี้ไปแอบอ้าง เนื่องจากมีคนทักว่านามสกุลไปคล้ายคลึงกับนายทหารคนดังกล่าว แต่โดยส่วนตัวยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับเสธ.คนดังกล่าวแต่อย่างไร


    จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าผู้ต้องหารายนี้ มีหมายจับติดตัวทั้งสิ้น 11 หมาย มีคดีที่ขาดอายุความและมีการตกลงค่าเสียหายกับผู้เสียหาย และถอนหมายจับอีกจำนวนหนึ่ง ปัจจุบันพบว่ายังเหลือหมายจับที่ต้องการตัวอีก 4 คดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ผู้อื่น ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านบึง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments