Friday, April 26, 2024
More
    Homeอาชญา (ลง)กลอนจุดเปลี่ยนคดียิงรถโจ๊ก

    จุดเปลี่ยนคดียิงรถโจ๊ก

    อาชญา(ลง)กลอน
    ธนก​ บังผล
    นาทีนี้คดียิงรถ​”บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์​ หักพาล​ ที่ปรึกษาพิเศษ​ สำนักนายกรัฐมนตรี​ มาถึงจุดที่อารมณ์เปลี่ยนไปแล้วครับ​    

    จากที่เคยสงสัยกันว่าตำรวจจะสามารถจับคนร้ายได้หรือไม่? ก็กลายเป็น​ ​ใช่จัดฉากหรือเปล่า? 
         
    เพราะหลังจากที่บิ๊กโจ๊กโยกไปสำนักนายกรัฐมนตรี​ อย่างไม่มีกำหนด คนที่เคยตกเป็นข่าวทุกวันเช้าเย็นต้องเงียบหายไปนาน​
    แล้ววันหนึ่งกลับมาปรากฏตัวต่อหน้าสื่อแบบเซอร์ไพรส์
         
    ใครหนอช่างใจกล้ายิงรถบิ๊กคนดังกลางกรุง​อย่างนี้​ 
         
    จับผู้ร้ายมาแถลงข่าวก็มากมาย​ เมื่อเป็นผู้เสียหายเองคดีนี้ต้องจับมือยิงได้สถานเดียวเท่านั้น
         
    แต่แปลกครับ​ จนถึงวันนี้ก็ยังเงียบ
         
    ร่องรอยรูกระสุนก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หลายคนสงสัย​ ว่ามือปืนซุ้มไหนเขายิงเข้าล่างประตู​

    เพราะต่อให้ไม่มีคนอยู่ในรถ​ เป็นคนปกติก็ต้องยิงที่อื่นครับ​ ถ้ากระจกหน้าหรือกระจกข้างก็ยังโอเค​ 

    แต่ไม่ว่าจะยิงเข้าที่ไหน​ ถ้าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต​ ข้อหามันก็เบาครับ​
    ทำให้เสียทรัพย์​ กับพกอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต​… ประมาณนี้

    พอเรื่องทำท่าจะเงียบก็มีคลิปเสียงโทรศัพท์ออกมาแฉอีก​ 

    ในมุมมองของผมก็โอเคนะครับ​ คือมันเป็นหลักฐานที่ใช้แฉได้อย่างดีเลยว่าระดับบิ๊กตำรวจเขาคุยกันเรื่องอะไร​ แบบไหน​ ใครคิดอย่างไรกับคดีนี้

    แต่ปัญหาใหญ่กว่าการแฉคือ​ ประชาชนจะมององค์กรตำรวจด้วยความน่าเชื่อถือได้อีกหรือ​

    เพราะคลิปเสียงนี่ละครับที่ทำให้อารมณ์ข่าวมันเปลี่ยนไป​ น้ำหนักในการจะไปล่าคนร้ายก็เบาลง​
    เหมือนกลายเป็นเรื่องส่วนตัวไปแล้ว

    คราวนี้ก็ถึงทางตันละครับ​ ยิ่งท่านออกตัวแรงมาตั้งแต่ต้นว่า ถ้าเป็น​ ผบ.ตร.แล้วจับคนร้ายไม่ได้​ จะรับผิดชอบ​ คดีเขวเลยครับ

    ข้อหาไม่ร้ายแรง​ เอาระดับผู้กำกับโรงพักในพื้นที่ก็พอแล้ว​ ไปๆมาๆองค์กรก็เสียศรัทธาจากประชาชน​

    ส่วนคนในข่าวก็เสียความน่าเชื่อถือ​ ไม่มีใครชนะสักคนเดียว

    จริงๆแล้ว​ ผมก็มีข้อสังเกตในโครงการไบโอแมทริกซ์ ซึ่ง​ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งชนะประมูล
         
    ที่บิ๊กโจ๊กออกมาบอกว่าการส่งมอบล่าช้าและอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐานนั้น​ ว่ากันตามตรงนะครับ…
    มันยังไม่โดน
         
    เพราะมันเป็นเรื่องสัญญา​ ส่งมอบล่าช้าแต่มีความคืบหน้าเป็นที่พอใจ​ ผู้จ้างก็ขยายเวลาต่อให้ได้
    เพราะไม่มีใครอยากจะเสียเวลาเสียงบประมาณในการกลับมาเริ่มตั้งประมูลโครงการใหม่​
    ส่วนจะปรับบริษัทที่ผิดสัญญาส่งมอบล่าช้าหรือไม่ก็อยู่ที่ผู้จ้างครับ​ 
       
    ประเด็นอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐานนั้น​ เขามีคณะกรรมการรับมอบที่ต้องตรวจสอบสินค้าและการใช้งานว่ามีประสิทธิภาพทำงานได้ จึงเซ็นรับมอบ
    แล้วถ้าตรวจสอบว่าใช้ได้จริง… ใครจะซวยครับ? 
         
    ผมสนใจที่บริษัทเอกชนมากกว่า​ ว่าทำธุรกิจนี้มากี่ปี​ ค้นในอินเตอร์เน็ตก็พบว่าน่าสนใจ
         
    บริษัทจดทะเบียนประกอบกิจการประเภทค้าปลีกรถยนต์รวมทั้งอะไหล่และอุปกรณ์​ เปิดมาตั้งแต่ปี​ 2546
         
    บริษัทแห่งนี้ยังประกอบธุรกิจ​ ซื้อขาย​ นำเข้าเครื่องนับเหรียญ​ เครื่องตรวจนับธนบัตร
         
    ไม่เพียงเท่านี้​ ยังรับสั่งทำเฟอร์นิเจอร์สำนักงานอีกด้วย​ แม้แต่สินค้าขายตรงก็เคยมีการแจ้งไว้นะครับ
         
    ข้อมูลล่าสุดที่มี​ คือ​ทางบริษัทเปิดรับสมัคร พนักงานตำแหน่ง Supervisor  3 อัตรา​
    เพื่อทำหน้าที่ในการบริหารจัดการ
    พนักงาน Support ที่จะปฏิบัติงานประจำอยู่ ณ ช่องตรวจคนเข้าเมือง (ขาเข้าและขาออก) และทำหน้าที่รายงาน,
    ประสานงานกับผู้จัดการภาค, ส่วนกลาง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ประจำประจำด่านตรวจคนเข้าเมือง ในแต่ละแห่ง​จ.สงขลา 
         
    บ้านเกิดบิ๊กโจ๊กเลยครับ
         
    บริษัทที่ประกอบธุรกิจที่หลากหลายขนาดนี้​ ไม่ธรรมดานะครับ​ น่าสนใจว่ากระโดดเปลี่ยนสายมาจับงานนี้ได้อย่างไร
           
    ผมต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่เรื่องผิดหรือแปลกอะไรหรอกครับ​ เพียงแต่น่าสนใจที่สามารถประกอบธุรกิจหลากหลาย​แขนง​
    และมีศักยภาพในการรับงานมูลค่าพันล้านบาทกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้​ 
         
    ธรรมดาเสียที่ไหน? 
     
    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments